Beauty Clinic กับกลยุทธ์สร้างยอดขายผ่าน LINE แม้ยังต้องเผชิญวิกฤต

LINE for Business

Tags

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงน่าเป็นห่วงในประเทศไทย ส่งผลให้ธุรกิจคลินิกเสริมความงามได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยผลกระทบจากโควิด-19 ทั้ง 3 ระลอกที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจคลินิกเสริมความงามมีภาพรวมหดตัวถึง 50% เลยทีเดียว (อ้างอิง PRACHACHAT)

 

ด้วยภาวะเช่นนี้การบริการในรูปแบบ Offline เพียงอย่างเดียวจึงอาจไม่เพียงพอต่อรายได้ที่ลดลง หลายคลินิกจึงเริ่มให้บริการโทรเวชกรรม (Telemedicine) ในช่วงที่ต้องรักษาระยะห่าง เพื่อให้ลูกค้าคลินิกได้พูดคุยกับแพทย์ ปรึกษาปัญหาสุขภาพผิวหน้า ผิวกาย หรือปัญหาอื่นๆ ที่เป็นกังวลได้แม้ไม่ต้องเจอหน้ากัน หากมองในระยะยาวเทรนด์การให้บริการ Telemedicine ผ่านช่องทางออนไลน์นั้น อาจเป็นโอกาสแห่งอนาคตของคลินิกเสริมความงาม จากแนวโน้มเติบโตที่สูงมาก โดยเฉพาะในประเทศจีนที่คาดว่าในช่วงระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้ การให้บริการ Telemedicine อาจพุ่งสูงถึง 164% (อ้างอิง PHDMEDIA) และคาดว่าจะเกิดในประเทศไทยเช่นเดียวกัน

 

เมื่อเห็นความเป็นไปได้ในท่ามกลางวิกฤต วิธีการและเครื่องมือที่จะช่วยให้โอกาสนี้เกิดขึ้นได้จริงก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน แน่นอนว่าไม่มีเครื่องมือใดจะตอบโจทย์ไปกว่า LINE ที่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงคนไทยหลายล้านคนไว้ด้วยกัน พร้อมฐานข้อมูลผู้ใช้งานที่สามารถนำมาปรับใช้เพื่อให้ธุรกิจคลินิกเสริมความงามเดินหน้าอย่างมั่นคงท่ามกลางข้อจำกัดในปัจจุบัน

 


สื่อสารผ่าน LINE OA เพื่อโอกาสการขายและประสบการณ์ที่ให้ได้มากกว่า

การสร้างโอกาสในการทำธุรกิจที่มากขึ้นท่ามกลางข้อจำกัด ยิ่งมีข้อมูลลูกค้ามากเท่าไรก็จะยิ่งเห็นวิธีการที่ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น LINE OA จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการนำมาซึ่งฐานข้อมูลลูกค้าที่เป็นประโยชน์ต่อการออกแบบกลยุทธ์การตลาด ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 50 ล้าน Users นอกจากนี้บรรดาแบรนด์ธุรกิจความงามในประเทศไทยยังเปิดใช้งาน LINE OA แล้วกว่า 380,000 บัญชี เพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจในตรงความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น เป็นการยืนยันประสิทธิภาพของ LINE OA ในวงการธุรกิจความงามได้อย่างชัดเจน


หลังจากที่มีข้อมูลของลูกค้าในมือที่มากพอก็เป็นขั้นตอนของการลงมือทำ ด้วยกลยุทธ์ที่พลิกแพลงได้หลากหลายบน LINE OA ตัวอย่างเช่น การประยุกต์เอาเทรนด์ Telemedicine ที่กล่าวไปแล้วมาปรับใช้ โดยจากสถิติ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่าผู้ใช้งาน LINE ใช้งานฟังก์ชัน Video Call เพิ่มมากขึ้นถึง 400% (อ้างอิง LINE) จึงเป็นโอกาสที่จะใช้ LINE OA เชื่อมต่อ API กับระบบ Video Call เพื่อให้คำปรึกษาด้านความงามจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในรูปแบบ Telemedicine สร้างความสบายใจสำหรับลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการรักษาที่เร่งด่วนท่ามกลางข้อจำกัด แถมในอนาคตยังสามารถต่อยอดเพื่อมอบความสะดวกสบายกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องหลังจากสิ้นสุดวิกฤตนี้ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามหากลูกค้าไม่สะดวกที่จะพูดคุยผ่าน Video Call การ Chat กับแพทย์แบบส่วนตัวก็ยังเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าเช่นเดียวกัน

นอกจากตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่ต้องการปรึกษาแพทย์ด้วย Telemedicine ผ่าน Video Call แล้ว LINE OA ยังเต็มไปด้วยเทคนิคที่สามารถกระตุ้นยอดขายและรักษาฐานลูกค้าอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่ง Broadcast Message โปรโมชันที่น่าสนใจ โดยอาจเป็นการลงทะเบียนซื้อวอเชอร์เพื่อรับบริการเมื่อคลินิกเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ซึ่งนอกเหนือจากการได้ยอดจองโปรโมชันแล้ว คลินิกเองก็ยังสามารถดึงเอาข้อมูลลูกค้าที่สนใจ Broadcast Message มาทำการ Re-Targeting เพื่อเลือกส่งคอนเทนต์หรือโปรโมชันที่เหมาะสมให้กับลูกค้าแต่ละรายต่อไปได้ในอนาคต ถึงแม้ในปัจจุบันคลินิกเสริมความงามจะยังมีข้อจำกัดในการเปิด-ปิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งหนึ่งที่สามารถปรับใช้จากการ Re-Targeting ได้นั่นคือการส่งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตามข้อมูลที่ลูกค้าสนใจจาก Broadcast Message เพื่อส่งผลิตภัณฑ์ของทางคลินิกไปให้ลูกค้าเลือกซื้อไปดูแลตัวเองในที่บ้าน พร้อมการส่งคอนเทนต์การบำรุงผิวที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายหรืออาจเป็น Video Tutorial การใช้ผลิตภัณฑ์ของทางคลินิก เพื่อให้เห็นถึงความใจในการบริการลูกค้า มากไปกว่านั้นอาจะเสริมด้วยการใช้ LINE Ads เพิ่มเติมจากข้อมูลชุดเดียวกับที่ใช้ทำ Re-Targeting สร้าง Look-a-Like Audience บน LINE Ads เพื่อส่งโฆษณา ใน Location บริเวณคลินิก ดึงดูดผู้คนที่สนใจและอยู่ในรัศมีการให้บริการเข้ามาเป็นลูกค้าได้อีกทางหนึ่ง

 

LINE OA ยังช่วยให้คลินิกเสริมความงามมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าด้วยการใช้ฟีเจอร์ Chat Tag เพื่อจัดกลุ่มประเภทลูกค้า เช่น ลูกค้าใหม่ ลูกค้าประจำ และ Top Spender หรืออาจจำแนกกลุ่มลูกค้าตามประเภทของการรักษา เพื่อเลือกใช้วิธีการสื่อสารหรือเลือกส่งโปรโมชันให้กับลูกค้าแต่ละประเภทตามความเหมาะสม มากไปกว่านั้น LINE OA ยังสามารถยกระดับให้การจองคิวเพื่อเข้ารับบริการง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบ Rich Menu ที่สามารถให้ลูกค้าสามารถเลือกช่วงเวลาการรับบริการได้โดยตรงด้วยการเชื่อมต่อ API กับระบบนัดหมาย ให้ LINE OA เป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมโยงบริการของคลินิกไว้ในที่เดียว

 

หรืออาจใช้ Chatbot เพื่อตอบคำถามเบื้องต้นกับลูกค้าเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า หรือแม้แต่ระบบ CRM เช่น บริการสอบถามพนักงานหลังการบริการหรือการสะสมแต้มจากการซื้อคอร์สบำรุงผิวก็สามารถรวมเอาไว้ใน Rich Menu ได้เช่นกัน



เรียนรู้ผ่านความสำเร็จของ Anjali Clinic

Anjali clinic เป็นหนึ่งในธุรกิจคลินิกเสริมความงามที่ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์บน LINE OA ด้วยจำนวนผู้ติดตามกว่า 2 หมื่น 4 พัน ราย เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกกับการเป็นผู้ติดตามด้วยการมอบโปรโมชันสำหรับลูกค้าใหม่ ด้วยการ Broadcast Message เพื่อให้ผู้ติดตามกดรับสิทธิ์นำไปสู่การ Re-Targeting ส่งโปรโมชันให้เลือกสรรตามความสนใจอีกมากมาย นอกจากนี้ Anjali clinic ยังออกแบบ Rich Menu ที่เข้าใจการใช้งานของลูกค้า โดยสามารถกดนัดหมายเพื่อเข้ารับการบริการได้โดยตรง พร้อมทั้งโดดเด่นด้วยระบบ CRM ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้ง่าย โดยลูกค้าสามารถเลือกชอปโปรโมชันที่ถูกใจใส่รถเข็นไว้หรือสะสมแต้มรับสิทธิพิเศษกับทางคลินิกได้อีกด้วย



เก็บข้อมูลเชิงลึก พัฒนากลยุทธ์ไปอีกระดับ ด้วย MyCustomer

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการตลาดในยุคปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพราะจะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจถึงความต้องการและสามารถมอบประสบการณ์ที่ที่ดีที่สุดสู่ผู้บริโภคได้ กุญแจสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ได้ข้อมูลที่ชัดเจนและแม่นยำคือ MyCustomer โซลูชันเพื่อการเก็บข้อมูล 1st Party Data ทำให้แบรนด์สามารถมองเห็นวิธีการทำการตลาดอย่างชัดเจนมากขึ้น ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต พฤติกรรม ความชอบของผู้บริโภค โดยหลังจากได้ข้อมูลมาแล้ว แบรนด์ก็สามารถที่จะนำไปใช้ต่อยอดเพื่อทำ Segmentation Re-Targeting หรือแม้แต่การทำ Personalized Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง MyCustomer ยังออกแบบมาเพื่อการทำงานกับร่วมกับ LINE OA อย่างไร้รอยต่อทั้งระบบหน้าบ้านและหลังบ้าน เพื่อให้กลยุทธ์การตลาดผ่าน LINE พัฒนาไปอีกระดับ

 

วิธีการปรับใช้ MyCustomer กับธุรกิจคลินิกเสริมความงาม คลินิกสามารถปรับใช้ฟีเจอร์ต่างๆ บน MyCustomer ได้หลากหลายและครอบคลุมทุกขั้นตอนในการให้บริการ แบ่งเป็นขั้นตอนดังต่อไปนี้

 

  • เก็บข้อมูลผ่าน LINE OA อัปโหลดฐานข้อมูลจากช่องทาง Offline

นำมาวิเคราะห์ในการทำการตลาดได้อย่างละเอียดมาก ด้วยการนำข้อมูล Merge รวมกัน ตัวอย่างเช่น อาการแพ้ยาของลูกค้ารายบุคคล หรือ คอร์สที่ลูกค้าเคยเลือกใช้บริการ ออกแบบโปรโมชันและวิธีการรักษาที่เข้าใจความต้องการลูกค้า


  • ใช้ Greeting Message และ Default Rich Menu ให้ลูกค้าเลือกตามความสนใจ

เพื่อที่คลินิกจะสามารถออกแบบ Segmented Rich Menu ผ่านการจัดกลุ่มลูกค้าด้วยการใช้ฟีเจอร์ Action Tag โดยจำแนกจากประเภทของรูปแบบการให้บริการที่สนใจหรือสภาพผิวของลูกค้า


  • ออกแบบ Survey บันทึกข้อมูลเชิงลึกและเข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

สำหรับคลินิกเสริมความงามนั้นสามารถออกแบบแบบสอบถามได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาสภาพผิวที่ลูกค้าพบ หรือความสนใจในการให้บริการ เมื่อทราบถึงความต้องการของลูกค้าแล้วก็จะสามารถพัฒนาการสื่อสารเฉพาะลูกค้าแบบ Personalized มากยิ่งขึ้น ลูกค้ายังสามารถปรับแต่งความต้องการหรือความสนใจบน Survey ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ข้อมูลที่มีบน MyCustomer ยังคงเป็นข้อมูลที่สดใหม่และแม่นยำปรับแต่งได้อยู่เสมอ


  • แยกประเภทลูกค้าด้วย Audience Tag

ช่วยให้คลินิกติดต่อรักษา ส่งโปรโมชัน คอร์สหรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาที่ลูกค้าต้องการแก้ไขได้แบบเฉพาะบุคคล นำไปสู่การชนะใจลูกค้าและปิดการขายได้ง่ายขึ้น

 

ปัจจุบันอาจเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับคลินิกเสริมความงาม แต่ทุกวิกฤตย่อมมีหนทางที่นำมาซึ่งโอกาส เมื่อมี LINE เป็นเครื่องมือช่วยเหลือในการทำการตลาด ก็สามารถพลิกแพลงวิธีการที่เหมาะสมและกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในช่วงเวลาวิกฤตนี้ได้ แม้ในตอนนี้อาจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อยอดขายและรักษาฐานลูกค้าให้ได้มากที่สุด แต่เมื่อไรก็ตามที่สถานการณ์กลับมาเป็นสภาวะปกติ ข้อมูลลูกค้าที่มีเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจคลินิกเสริมความงามเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างแน่นอน




Source:

https://www.prachachat.net/marketing/news-695624

https://mgronline.com/celebonline/detail/9640000053124