LINE for Business

Help Center
Contact Us

Product & Services
Business Solution
E-Learning
Partners

ธุรกิจ FMCG ก้าวนำคู่แข่งด้วยข้อมูล สร้างประสบการณ์เหนือชั้นบน LINE Ecosystem

LINE for Business

ทำไมธุรกิจถึงต้องเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น? เพราะความเข้าใจจะเป็นกุญแจที่นำไปสู่ความสำเร็จ แต่โจทย์ที่ยากคือทุกวันนี้พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา พวกเขาคาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิม ตรงกับความต้องการจริงๆ และบางครั้งแบรนด์ต้องสามารถนำเสนอสินค้าให้ได้ก่อนความต้องการซื้อจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ นั่นหมายถึงการรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร เมื่อไร และนำเสนอไปให้ เรียกว่า “รู้ใจ” ลูกค้าในทุกจังหวะ แบรนด์จึงต้องหันมาพึ่ง Data เนื่องจากเป็นสิ่งที่ช่วยแบรนด์ให้รู้จักเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ   


ข้อมูลเป็นสิ่งขับเคลื่อนให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า ซึ่งนำไปสู่การทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและพัฒนากลยุทธ์ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ ธุรกิจ FMCG (Fast Moving Consumer Goods) ที่พฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เคยหยุดนิ่ง แบรนด์ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับ Data โดยคว้าโอกาสจากการทำ Data-driven Marketing และ LINE ก็มีโซลูชั่นที่ช่วยแบรนด์ได้ ตั้งแต่การเก็บข้อมูล วิเคราะห์ ไปจนถึงการนำไปใช้งาน 


พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป 

ถ้าหากพูดถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมครั้งใหญ่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงสถานการณ์โควิด-19 เพราะเป็นการย่นเวลานับสิบปีในการเดินหน้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มตัว ทุกคนกลายมาเป็นส่วนหนึ่ง และพวกเขาต้องการประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนโลกดิจิทัล ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ 

1. ยกระดับประสบการณ์บนมือถือให้ดีกว่าเดิม 

สัดส่วนการเข้าเว็บไซต์ของคนไทยจากมือถือยังครองอันดับหนึ่ง และคนไทย 81.2% ใช้งานโซเชียลมีเดีย ดังนั้น การทำการตลาดบนมือถือเป็นสิ่งจำเป็น ที่สำคัญคือต้องใช้งานง่าย ชำระเงินง่าย สะดวกสบายต่อความต้องการ 


2. การชอปปิ้งผ่านโซเชียลได้รับความนิยมมากขึ้น 

จากที่ผู้คนถูกบังคับให้อยู่บ้าน พฤติกรรมชอปปิ้งของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไป โดยเน้นมาที่การชอปปิ้งออนไลน์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจากข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของคนไทยในปี 2022 บอกว่า กว่า 68.3% ของผู้ใช้งานอายุ 16-64 ปี มีการซื้อสินค้าหรือบริการทางออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์ โดย 45.8% เป็นการซื้อของกินของใช้ ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่าพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างมาก 

3. พฤติกรรมการเลือกซื้อเพิ่มมากขึ้น 


เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ การจับจ่ายของผู้บริโภคจึงมีการเลือกสรรมากขึ้น พวกเขาใช้เวลาในหารศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะคุณสมบัติสินค้า โปรโมชัน รีวิว และประโยชน์ที่จะได้รับจากช่องทางต่างๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่คุ้มค่าและตอบโจทย์มากที่สุด


การพิชิตใจลูกค้าด้วยข้อมูล! 

ก่อนจะไปพิชิตใจ เราต้องทำความเข้าใจคำว่า Data-driven Marketing กันก่อนว่าเป็นอย่างไร พูดง่ายๆ ว่าคือ การรวบรวมและใช้ข้อมูล ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้แบรนด์เข้าใจได้มากขึ้นว่าลูกค้าแต่ละคนมีพฤติกรรมในการค้นหาสินค้าอย่างไร ตัดสินใจการซื้อแตกต่างกันอย่างไร และแต่ละคนชอบคอนเทนต์ประเภทไหน  

 

หากแบรนด์ไม่มีข้อมูลก็จะไม่สามารถตามให้ทันความต้องการได้ การตลาดแบบนี้จึงช่วยให้แบรนด์ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เพราะขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจริงที่ได้รับจากพฤติกรรมและความชอบของลูกค้า 

 

คำถามถัดมาคือข้อมูลมาจากไหน? ก่อนหน้านี้แบรนด์จะพึ่งพาการใช้ Third Party Data เป็นส่วนมาก แต่ปัจจุบันหากแบรนด์ไม่มี 1st Party Data เป็นของตัวเองจะเสียเปรียบและมีข้อจำกัดการทำการตลาดอย่างมาก ดังนั้น การเข้าถึงลูกค้าเพื่อให้ได้ข้อมูลจึงสำคัญและจำเป็น แล้วแพลตฟอร์มไหนล่ะที่คนไทยรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก สื่อสารง่าย คุ้นเคย และตอบโจทย์ธุรกิจ คำตอบคือ LINE ที่มีตัวเลขผู้ใช้งานมากกว่า 54 ล้านคน! และยังมีโซลูชั่นครบวงจร เพื่อนำเสนอประสบการณ์เหนือชั้นด้วย LINE Ecosystem 

 

เพิ่มความสามารถให้ LINE OA จากการต่อยอดกลยุทธ์ด้วย MyCustomer 

หากจะทำการตลาดด้วย Data-driven Marketing สิ่งแรกที่แบรนด์ต้องทำคือ การรวบรวมและสะสมข้อมูล 1st Party Data เพราะจะช่วยให้ง่ายขึ้นต่อการทำความรู้จัก แบ่งกลุ่ม และกำหนดเป้าหมายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งต่อการสื่อสาร และนำเสนอประสบการณ์ต่างๆ 

 

MyCustomer จะเข้ามาช่วยเรื่อง “ข้อมูล” ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรวบรวมไปจนถึงใช้งาน ซึ่งสามารถนำมาใช้ร่วมกับ LINE OA ได้เป็นอย่างดี หากปรับใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ แบรนด์จะสามารถปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับความต้องการและความสนใจของลูกค้า เพื่อทำให้การปิดการขายง่ายขึ้นและเพิ่มขึ้น 


เก็บ 1st Party Data และทำการตลาดแบบ “รู้ใจ” 

Build – การสร้างฐานข้อมูล 

ธุรกิจ FMCG มักส่งเสริมให้มีการสมัครสมาชิก และเมื่อลูกค้าเพิ่มเพื่อนบน LINE OA ก็จะสามารถผูกบัตรสมาชิกหรือทำการสมัครได้ทันที ทำให้มีฐานข้อมูลอยู่ในระบบ และนอกจากนี้แบรนด์ยังเก็บ 1st Party Data ใหม่ๆ ได้โดยตรงผ่าน LINE ด้วยการทำ

  • Survey แบบสอบถามที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ให้ลูกค้าได้เลือกประเภทสินค้าที่สนใจ หรือเก็บ insight เพื่อแบรนด์จะได้เก็บข้อมูลนี้ไปพัฒนาการนำเสนอสินค้าหรือคอนเทนต์ที่ตรงใจ 
  • Mission Stickers ต่อยอดจาก Survey เป็นตัวที่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการตอบแบบสอบถามให้มากขึ้น ทำให้แบรนด์มีโอกาสในการเก็บข้อมูลจากลูกค้าเป็นจำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว 



Analyze – วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก 

เพื่อให้ธุรกิจ FMCG จัดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า แบรนด์สามารถแบ่งกลุ่มเป้าหมายได้จาก 

  • User Preference จัดกลุ่มเป้าหมายจากข้อมูลในระบบ เช่น การดึงกลุ่มเป้าหมายที่ได้มาจากแบบสอบถาม หรือนำเข้าข้อมูลจากฐานข้อมูลที่แบรนด์มีอยู่ 
  • Tags สามารถจัดกลุ่มเป้าหมายได้จาก หนึ่ง Action Tag เมื่อลูกค้าคลิกปุ่ม รูปภาพ หรือพิมพ์ Keywords Auto Response ที่เราติดแท็กไว้ ลูกค้าจะถูกจัดกลุ่มอยู่ใน Action Tag นั้นๆ ที่ตั้งค่าไว้ทันที และสอง Chat tag แท็กที่เราติดให้ลูกค้าผ่าน 1-1 Chat เช่น ลูกค้ากลุ่มคุณเม่ ลูกค้าสูงวัย ลูกค้าอาหารสด 
  • Segment จัดทำ Audience Segment ใหม่ โดยดึงข้อมูลในส่วนต่างๆ จากแบบสอบถามหลายๆ ชิ้นมาไว้ด้วยกัน 


Engage – ทำการตลาดแบบรู้ใจ 

เสนอคอนเทนต์ที่ตรงตามความสนใจจากการ Personalized ช่วยยกระดับ Customer Experience ผ่านการนำเสนอต่างๆ 

  • Segmented Rich Menu กำหนดริชเมนูให้แสดงผลเฉพาะเจาะจงตามกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์สร้างไว้ เช่น ริชเมนูกลุ่มลูกค้ากลุ่มคุณเม่ จะแสดงผลิตภัณฑ์และโปรโมชั่นเกี่ยวกับสินค้าแม่และเด็ก 
  • Targeting Messages กำหนดข้อความที่ต้องการส่งให้พิเศษยิ่งขึ้น สามารถดึง User Profile และ Display Name มาจัดวางบนข้อความที่ส่งได้ หรือส่งข้อความ เช่น Unique Promo Code หรือ Unique Selling Point ให้ลูกค้าได้อย่างตรงใจจากกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยเลือกได้มากกว่าหนึ่งกลุ่ม 

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ MyCustomer จะพาแบรนด์ไปถึงเป้าหมายทางธุรกิจได้! 

 

Business Manager เพิ่มความสามารถในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างผลกำไรที่ดียิ่งขึ้น

ส่วนต่อมาคือการนำ Data มาขยายธุรกิจ ธุรกิจ FMCG ต้องไม่หยุดนิ่งอยู่แค่การสื่อสารบน LINE OA เท่านั้น แต่ยังต้องสื่อสารให้ได้อย่างครอบคลุมในวงกว้าง เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการขาย 

 

อีกหนึ่งเครื่องมือที่จะเข้ามามีบทบาท ได้แก่ Business Manager แพลตฟอร์มกลางที่ช่วยจัดการ 1st Party Data ที่รวบรวมข้อมูลมาจาก LINE Ecosystem ด้วยเครื่องมือนี้แบรนด์จะวิเคราะห์และสร้างการสื่อสารที่เหมาะสมได้มากกว่าเดิม  

จุดเด่นของ Business Manager คือการทำ Cross Targeting จากการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่าง LINE OA, LINE Ads และ Smart Channel

เพิ่มผลลัพธ์ให้แคมเปญการตลาด 

ด้วย Data ที่มีในมือ และเครื่องมือทรงพลังจาก LINE ธุรกิจก็จะสามารถพัฒนาแคมเปญทางการตลาดได้อย่างคล่องตัว และหลากหลายยิ่งขึ้น ลองมาดูตัวอย่างการใช้งานเพื่อสร้างประสิทธิภาพทางการสื่อสารและยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายด้วย Business Manager กัน 

 

1. แชร์กลุ่มเป้าหมายผู้ติดตามบน LINE OA ของแบรนด์ A ไปยิงโฆษณาบนบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B 

สำหรับแบรนด์ใหญ่ที่มีบัญชี LINE OA สำหรับแบรนด์หลัก และมี LINE OA หลายบัญชีสำหรับสาขาหรือแบรนด์ย่อย สามารถเพิ่มโซลูชั่นในการทำโฆษณาได้ โดยนำข้อมูลผู้ติดตามจาก LINE OA บัญชีหลักไปยิงแอดเพิ่มเพื่อนให้แบรนด์ย่อย เช่น ลูกค้าแบรนด์ A เป็นกลุ่มแม่บ้าน แบรนด์อยากกระตุ้นการขายสินค้าประเภทเครื่องปรุงบนแบรนด์ B ก็สามารถใช้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายจากแบรนด์ A มายิงโฆษณาให้แบรนด์ B ได้ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าที่มีแนวโน้มจะสนใจผลิตภัณฑ์ 

2. แชร์กลุ่มเป้าหมายที่คลิกโฆษณาบน LINE Ads ของแบรนด์ A ไปยิงโฆษณาบนบัญชี LINE Ads ของแบรนด์ B 

เป็นการแชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่เคยคลิกโฆษณาของแบรนด์ A เช่น แบรนด์ A เป็นแบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ต เคยมีการยิงโฆษณาและมีข้อมูลผู้คลิกโฆษณาที่อยู่บนพื้นที่ต่างๆ ใน LINE Ecosystem ส่วนแบรนด์ B เป็นธุรกิจร้านอาหารที่อยู่ภายใต้แบรนด์ A และใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากที่นั่น เราก็นำข้อมูลจากแบรนด์ A มายิงโฆษณาให้แบรนด์ B ได้ เนื่องจากลูกค้าเป็นกลุ่มที่สนใจหรือเคยใช้บริการแบรนด์ A อยู่แล้ว ทำให้มีแนวโน้มจะใช้บริการแบรนด์ B 

 

นอกจากนี้ก็ยังมีรูปแบบการทำ Cross Targeting แบบอื่นๆ อีก เรียกว่าใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว 

จากแคมเปญโฆษณาบนไลน์ที่ใช้ Business Manager ได้ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการแปลงและมี CPA ที่ต่ำลง (*ข้อมูลอ้างอิงจากแคมเปญโฆษณาที่เปิดตัวในช่วงวันที่ 1-3/2022 ในประเทศญี่ปุ่น) ซึ่ง CPA ต่ำลงถึง 80% และมีตัวเลข CTVR เพิ่มขึ้น 110% เมื่อเทียบกับธุรกิจที่ไม่ได้ใช้ Business Manager


และธุรกิจยังต่อยอดจากข้อมูลที่มี เพื่อนำไปทำ Retargeting ต่อได้ด้วย เพื่อชักจูงให้คนที่เคยสนใจสินค้า แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อมากดสั่งสักที โดยใช้กลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์มีฐานข้อมูลและจัดกลุ่มไว้แล้ว จากนั้นก็ยิง LINE Ads ไปหากันเลย นี่คือการใช้งานข้อมูลให้ได้ประโยชน์สูงสุดและเต็มศักยภาพบน LINE ทั้งการทำความรู้จัก ทำความเข้าใจ และพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง 

 

อนาคตของธุรกิจที่เริ่มได้แล้วตั้งแต่วันนี้ 

ธุรกิจ FMCG เผชิญกับความท้าทายหลายด้าน จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจเพื่อให้ประสบความสำเร็จ วันนี้ประสบการณ์ออนไลน์ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และการเชื่อมต่อโลกออนไลน์กับออฟไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อก็จะยิ่งช่วยให้ลูกค้าประทับใจมากเท่านั้น 

 

สำหรับลูกค้าแต่ละคนยังต้องการสิ่งที่ตรงใจมากขึ้น ซึ่ง “ข้อมูล” นี่แหละที่จะเป็นทั้งตัวช่วยและตัวผลักดัน เพื่อให้ธุรกิจทำการตลาดได้อย่างยืดหยุ่น แต่ตรงเป้า สามารถคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้ แล้วนำเสนอการสื่อสารหรือประสบการณ์ที่เหนือกว่าเดิม วันนี้ธุรกิจ FMCG อาจต้องปรับจากการยึดสินค้าและบริการเป็นศูนย์กลาง มาเป็นการให้ความสำคัญและยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางบ้าง เพื่อก้าวให้ทันความเปลี่ยนแปลงและไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง 

 

LINE พร้อมสนับสนุนให้ทุกความสำเร็จเกิดขึ้นจริง และถ้าเป็นเรื่อง “ข้อมูล” ก็ต้องยกให้สองเครื่องมือที่กล่าวไปข้างต้น คือ MyCustomer และ Business Manager ซึ่งนำไปพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดได้จริง ตอบโจทย์ทุกวัตถุประสงค์ แก้ไขและจัดการปัญหาในการดึงข้อมูลมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ธุรกิจขาด LINE ไม่ได้ เพราะธุรกิจขาดข้อมูลไม่ได้ 

 

ติดต่อเราสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกิจบน LINE ได้ที่ : [email protected] หรือ  https://lin.ee/hNonmvJ/wcvn 




ดู Business Case Studies เพิ่มเติม

LINE for Business

Beauty Clinic กับกลยุทธ์สร้างยอดขายผ่าน LINE แม้ยังต้องเผชิญวิกฤต

LINE Business Solution

เจาะลึกพฤติกรรม Silver Age แหล่ง Blue Ocean กำลังซื้อสูงที่แบรนด์ควรลงทุน!

LINE Business Solution

LINE บ้านหลังใหม่ของภาครัฐ เพื่อคนไทยยุค New Normal

กลับสู่หน้าหลัก Business Case Studies