หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ยิงโฆษณา แต่ไม่เคยใช้วัตถุประสงค์ “เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน” (Website conversions) ทั้งที่มีเว็บไซต์ เพราะ รู้สึกยาก, ท้อแท้, ไม่คุ้นเคย หรือบางคนอาจจะไม่รู้จักเลย
ไม่ต้องกังวล บทความนี้จะช่วยให้คุณยิงโฆษณาด้วยวัตถุประสงค์ “เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน” (Website conversions) ผ่าน LINE Ads ให้ได้ผลในแบบที่คุณต้องการ ใครที่ไม่มีเว็บไซต์เพียงแค่มี 2 องค์ประกอบนี้ ก็เริ่มลงโฆษณาได้เลย
1) “เซลเพจ” (Sale page) คือ เว็บไซต์ที่มีเพียง 1 หน้าเท่านั้น โดยบอกข้อมูลสินค้าให้ครบ วางจุดที่ต้องการวัดผลลัพธ์ (Conversion) ให้ชัดเจน
2) “ผลลัพธ์ที่ต้องการ” (Conversion) เช่น แอดไลน์, ลงทะเบียน, คลิกสินค้าใส่ตะกร้า, กรอกบัตรเครดิต ไปจนถึง กดส่งสลิปชำระเงิน แล้วแต่ประเภทธุรกิจของคุณ
1) หา “กลุ่มเป้าหมาย” (Audiences) ของคุณให้เจอ
โดยสามารถระบุ “กลุ่มเป้าหมายหลัก” (Core audiences) ตาม ตำแหน่งที่ตั้ง, อายุ, เพศ, ความสนใจและระบบปฎิบัติการได้ หรือ “กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง” (Custom audiences) เช่น ลูกค้าที่ติดตาม LINE Official Account, เบอร์โทร, อีเมล, คนคลิกเข้าเว็บไซต์ โดยนำมา Lookalike หากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีพฤติกรรมคล้ายกับกลุ่มที่กำหนดเอง ผ่านโฆษณา LINE Ads ได้เลย
2) กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการให้ชัดเจน และเข้าใจ “ราคาต้นทุนต่อผลลัพธ์” (Cost per action) ให้ถ่องแท้
โดยตั้งเป้าก่อนว่าเราต้องการผลลัพธ์อะไร เช่น แอดไลน์ หรือ กดปุ่มสั่งซื้อ และทำความเข้าใจก่อนว่า การลงโฆษณาวัตถุประสงค์นี้ไม่ได้วัดต้นทุนต่อผลลัพธ์ที่จำนวนคลิก หรือแค่ยอดวิว ที่ต้นทุนราคาเพียงไม่กี่บาท แต่สามารถวัดผลที่ยากและซับซ้อนกว่าได้ เช่น กรอกชื่อ อีเมล เบอร์โทร, คลิกสินค้าใส่ตะกร้า ฉะนั้น ราคาต้นทุนต่อผลลัพธ์จะสูงขึ้นตามความยากนั่นเอง แต่คุณมีโอกาสที่เจอลูกค้าตัวจริงได้มากขึ้น
3) สร้างชิ้นงาน “โฆษณา” (Ads) ที่หลากหลาย
ออกแบบให้หลากหลาย เข้าใจง่าย เน้นเล่าด้วยภาพมากกว่าตัวอักษร 1 ชิ้นงานโฆษณาควรมี 1 เรื่องที่ต้องการสื่อสาร
ตัวอย่าง แบรนด์อาหารเสริมชนิดผงชงดื่ม Dr. Ong-ard (ดร.องอาจ) เป็นสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพ เป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อ และระยะเวลา ฉะนั้น ข้อมูลสินค้าต้องครบถ้วน มีความน่าเชื่อถือ จึงมีการใช้เว็บไซต์เพื่ออธิบายข้อมูล นั่นเอง โดยช่องทางการขายหลักของแบรนด์ คือ LINE Official Account @Dr.Ong-ard
1) ใช้ Sale page ให้ข้อมูลเฉพาะสินค้าที่ต้องการจะขาย อย่าใช้ Sale page เพื่อขายสินค้าหลาย ๆ อย่างใน 1 หน้า
2) กำหนดกลุ่มเป้าหมายของสินค้า โดยทางแบรนด์นำมาแตกเป็น 4 กลุ่มโฆษณา
กลุ่มที่ 1 กำหนดกลุ่มเป้าหมายหลัก เป็นกลุ่มลูกๆ ช่วงอายุ ตั้งแต่ 25-59 ปี ที่มีคุณพ่อคุณแม่สูงวัย และเลือกเฉพาะกลุ่มที่มีความสนใจเรื่องสุขภาพ
กลุ่มที่ 2 กำหนดกลุ่มเป้าหมายหลัก เป็นกลุ่มผู้สูงอายุโดยตรง ที่มีปัญหาสุขภาพ ข้อดีของโฆษณาบนไลน์ คือ มีกลุ่มเป้าหมายคอรบคลุมทุกช่วงอายุ เลือกเลยตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
กลุ่มที่ 3 Lookalike หากลุ่มเป้าหมายใหม่ จากคนที่คลิกปุ่มแอดไลน์ผ่านหน้า Sale page และ คนที่ติดตาม LINE Official Account ของเรา
กลุ่มที่ 4 Re-target คนที่เคยคลิกเข้า Sale page, คลิกปุ่มแอดไลน์ ด้วยโฆษณา รีวิวจากผู้ซื้อจริง รวมไปถึงโปรโมชัน
3) กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการ คือ จำนวนคนที่สนใจคลิกปุ่ม “แอดไลน์” ผ่านหน้า Sale Page เพื่อปิดการขายผ่าน LINE Official Account วิธีนี้จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และลดการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าได้ โดยสามารถดูส่วนผสม, เลข อย., ผลข้างเคียง บน Sale page ประกอบการตัดสินใจก่อนแอดไลน์ สั่งซื้อได้เลย จะช่วยคัดกรองความสนใจของลูกได้อีกขั้น
4) สำคัญ ! ต้องติด LINE Tag เพื่อเก็บข้อมูลคนที่เคยคลิกเข้า Sale page ด้วย “เบสโค้ด” (Base code) และ คนที่คลิกปุ่มแอดไลน์ ด้วย “คอนเวอร์ชันโค้ด” (Conversion code)
ผลลัพธ์ที่ได้ มีลูกค้าใหม่แอดไลน์เข้ามาทุกวัน และมียอดขายเพิ่มขึ้นทุก ๆ สัปดาห์ ยอดลูกค้าเก่าซื้อซ้ำเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากจะ Re-target ผ่านโฆษณาแล้ว ยังบรอดแคสต์ซ้ำอีก ต้นทุนต่อ 1 คน ที่กดเพิ่มเพื่อน จึงถูกกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดพอสมควรเลยละ การใช้วัตถุประสงค์ “เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน” (Website conversions) จะทำให้ยอดขายไหลมาเทมาแน่นอน
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วน่าจะสงสัยกันว่า เอาโค้ดจากไหน ติดตรงไหนนะ ไม่ยากเลย หรือใครมีโปรแกรมเมอร์ส่วนตัว ก็จัดเลย
1) Log in ที่ admanager.line.biz จากนั้นเลือก “บัญชีโฆษณา” (Ad account) และ “ชื่อบัญชีโฆษณา” (Ad account name) ที่สร้างไว้
2) เลือก "≡" มุมซ้ายบนของหน้าตัวจัดการโฆษณา แล้วเลือก "แทร็กกิ้ง” (Tracking)
3) คัดลอก “เบสโค้ด” (Base code) เพื่อทำการติดตั้งไว้ภายในส่วนเฮดเดอร์ของเว็บไซต์
4) หลังจากนั้นคัดลอก “คอนเวอร์ชันโค้ด” (Conversion code) โดยวางคอนเวอร์ชันโค้ดคู่กับ “เบสโค้ด” (Base code) เสมอ แนะนำให้วาง “คอนเวอร์ชันโค้ด” (Conversion code) ติดกับด้านล่าง “เบสโค้ด” (Base code) เพียงเท่านี้เป็นอันเรียบร้อย
ทั้งนี้ ถ้าคุณไม่เข้าใจหลักการ การใช้วัตถุประสงค์ “เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน” (Website conversions) แคมเปญของคุณมีโอกาสพังได้ เช่นกันนะ
● บางคนต้องการ ”ผลลัพธ์” (Conversion) ที่ยากสุด ๆ เช่น คลิกชำระเงิน (ส่งสลิป) แต่กลับลงโฆษณาวันละ 50 บาท
● บางคนต้องการยิงโฆษณาโปรโมชันวันที่ 7 เดือน 7 ไปยังลูกค้าเก่า แต่ยิงไปหากลุ่มเป้าหมายใหม่
● บางคนเว็บออกแบบมาอย่างดี แต่ไม่มีปุ่มวัดผล สุดท้ายยิงโฆษณาไปก็ไม่ได้ผลลัพธ์
● บางคนเว็บมีปุ่มวัดผลเยอะมาก แต่กำหนดไม่ได้ว่าผลลัพธ์ที่ต้องการคืออะไร
● บางคนสร้างแคมเปญบนไลน์ละเอียดมาก แต่เว็บไซต์ใช้งานยาก ลูกค้าก็หายระหว่างทาง
แน่นอนไม่มีใครรู้ว่า สูตรสำเร็จที่ว่าดี คืออะไร สิ่งที่จะบอกเราได้คือ “การวัดผล” โดยอ่านค่าจาก Report โฆษณาในระบบ admanager.line.biz และหมั่นปรับแคมเปญ นั่นเอง
ดูวิธีการลงโฆษณาแบบละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://lin.ee/iNbG9sh/wega
ผู้เขียน : โค้ชมิว (กฤษฎา โรจนโสภณดิษฐ์)
LINE CERTIFIED COACH 2021
สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โฆษณา LINE Ads
สามารถติดตามผมได้ที่
LINE: @mewsocial
Website: aoacademy.co