การปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาปรับใช้สำหรับทำการตลาดเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจต้องทำ โดยเฉพาะเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างเช่นการระบาดของโควิด-19 ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าโลกดิจิทัลมีความสำคัญมากขนาดไหน ซึ่งถ้าใครขยับได้ไวกว่าก็จะถือว่ามีชัยที่เหนือกว่า และในบรรดาหลายๆ ภาคส่วน ภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นธุรกิจใหญ่ที่โดยผลกระทบหนักในทันที เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจและการใช้จ่ายลง การลงทุนในช่วงการระบาดถือเป็นปัจจัยเสี่ยงเกินไป และในการตัดสินใจก็มีเงื่อนไขประกอบที่เพิ่มมากขึ้น
แต่ถึงแม้จะทรุดตัวลง ธุรกิจอสังหาฯ ก็ยังสามารถฟื้นตัวได้ เพราะบ้านเป็นสิ่งที่ยังอยู่ในความต้องการของผู้บริโภค การชะลอการตัดสินใจซื้อไม่ได้หมายถึงการหมดความต้องการ และผู้ซื้อที่มีความพร้อมก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย หลายคนเล็งเห็นโอกาสในการซื้อบ้าน-คอนโดช่วงโควิด ทั้งทำเลใจกลางเมืองและนอกเมือง ดังนั้น ธุรกิจหรือแบรนด์เองก็ควรเข้าไปให้ถึงตัวผู้บริโภคด้วยเช่นกัน โดยใช้แพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง LINE เป็นเครื่องมือในการอำนวยความสะดวก แบรนด์จะสามารถให้บริการได้ตั้งแต่การช่วงการตัดสินใจซื้อไปจนถึงบริการหลังการขายเลยทีเดียว
เปิดน่านน้ำหาลูกค้า รุกการตลาดด้วย LINE Ads
ปัจจุบันวิถีชีวิตและการทำงานของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปแล้ว แนวคิดเรื่องการมีบ้านจึงกลับมาได้รับความสำคัญอีกครั้ง เพราะบ้านเป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้อาศัยรู้สึกปลอดภัยมากที่สุด ยิ่งเมื่อหลายบริษัทมีนโยบายให้พนักงานทำงานที่บ้าน แม้การระบาดจะคลายลง ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้คนมีความต้องการบ้านเป็นของตัวเอง
อาวุธเด็ดที่จะทำให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้ก็คือการใช้ LINE Ads ที่สามารถเข้าถึงถึงผู้ใช้งานได้กว่า 50 ล้านคน ผ่านตำแหน่งต่างๆ ที่ช่วยให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด โดยในการกำหนดเป้าหมายจะเลือกแบบ Core Audiences หรือ Custom Audiences ก็ได้ ซึ่งนับเป็นอีกกลยุทธ์ที่จะเจาะให้ถึงลูกค้าได้อย่างเข้าเป้ามากที่สุด สำหรับ Core Audiences แบรนด์กำหนดได้ทั้ง ตำแหน่งที่ตั้ง, อายุ, เพศ, ระบบปฏิบัติการมือถือ และความสนใจที่ครอบคุลมทุกกลุ่มธุรกิจ ส่วน Custom Audiences แบรนด์สามารถนำฐานข้อมูลที่มีอยู่มาใช้งานได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดในการยิงโฆษณา เช่น ผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์, ผู้ที่เคยใช้งานแอปพลิเคชัน, ผู้ที่เคยเห็นโฆษณา, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, กลุ่มที่คล้ายคลึงกับลูกค้าเดิม หรือแม้แต่คนที่บล็อก LINE OA ก็เข้าถึงได้เช่นกัน
ในการแสดงผลจะมีด้วยกันทั้งหมด 6 ตำแหน่ง ได้แก่ Chat List (หน้าแชท), LINE Timeline, LINE TODAY, LINE TV ,Wallet tab และใหม่ล่าสุดในตำแหน่ง Openchat ซึ่งในการโฆษณาแบรนด์สามารถเลือกวัตถุประสงค์ได้ตามแคมเปญที่วางไว้ เพื่อให้เป็นไปตามผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น.
• เพิ่มฐานลูกค้าใน LINE OA ด้วย วัตถุประสงค์ เพิ่มเพื่อน การเพิ่มยอดผู้ติดตามได้ก็เท่ากับโอกาสการขายที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าแบรนด์จะส่งคอนเทนต์บ้าน โปรโมชัน หรือสิทธิพิเศษในการจอง การสื่อสารก็จะเข้าถึงลูกค้าทันที นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อการซื้อโฆษณาครั้งถัดไปด้วย เพราะหากแบรนด์เลือกกลุ่มเป้าหมายด้วยการทำ Lookalike Audience โฆษณาก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพ และแสดงผลกับกลุ่มที่มีความสนใจคล้ายคลึงกับผู้ติดตามของแบรนด์
• เพิ่มการลงทะเบียนเว็บไซต์ จากวัตถุประสงค์ เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน (Website Conversions) โดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่สนใจซื้อบ้านจะทำการลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูล หรือทำการนัดหมายในการเข้าไปชมบ้านตัวอย่างอยู่แล้ว ถ้าหากแบรนด์โฆษณาโดยเลือกวัตถุประสงค์นี้ก็จะทำให้ง่ายต่อลูกค้ามากขึ้น เพราะแค่คลิกก็พาไปสู่หน้าลงทะเบียนได้ทันที ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดลงทะเบียน (Lead registration) ให้สูงขึ้น ในขณะเดียวกันถ้าหากแบรนด์กำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการให้ชัดเจน ‘ราคาต้นทุนต่อผลลัพธ์’ (Cost per lead) ก็จะต่ำลง เคล็ดลับอีกอย่างคือแบรนด์ควรทำชิ้นงานโฆษณาที่หลากหลายจะได้รู้ว่าการโปรโมทแบบไหนได้ผลมากที่สุด แล้วนำไปปรับปรุงในการนำเสนอชิ้นงานโฆษณาถัดๆ ไป
ทีนี้ เมื่อแบรนด์มีฐานลูกค้าอยู่ในมือแล้วการจะทำ Retargeting อีกครั้งในอนาคตก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เนื่องจากลูกค้าที่แบรนด์มีในมือส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่พร้อมจะรับข้อมูลข่าวสารและตัดสินใจซื้อได้ ยิ่งกลุ่มเป้าหมายชัดเจน การสร้างยอดขายก็มากตาม
LINE OA บริการข้อมูลครบถ้วน จองโครงการได้ทุกที่
ธุรกิจอสังหาฯ ของแต่ละแบรนด์ย่อมไม่ได้มีโครงการเพียงโครงการเดียว การบริหารจัดการข้อมูลจึงจำเป็นต้องแม่นยำเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความประทับใจแก่ลูกค้า การตอบสนองต้องรวดเร็ว การให้ข้อมูลต้องครบถ้วน และถ้าลูกค้าคนเดิมเข้ามาสอบถามอีกครั้ง แบรนด์ควรจะทราบว่าลูกค้าเคยสอบถามข้อมูลหรือสนใจโครงการไหนบ้าง เพราะแต่ละคนก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ทาวน์โฮมย่านชานเมือง บ้านเดี่ยวที่เดินทางสะดวก หรือทาวน์โฮมสำหรับอยู่กับครอบครัว ถ้าแบรนด์จดจำได้ก็จะให้แนะนำ หรือ Retargeting ได้อย่างตรงเป้าหมาย ซึ่ง LINE OA มีฟีเจอร์ต่างๆ ให้แบรนด์นำไปใช้งานได้อย่างคล่องตัวสำหรับการทำธุรกิจ
• Broadcast - การสื่อสารเป็นตัวแปรที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อได้ แบรนด์สามารถอัปเดทข้อมูลโครงการ โปรโมชัน ข้อมูลการกู้ จำนวนยูนิตที่เหลือ ได้โดยที่ไม่เป็นการรบกวนลูกค้า เพราะในการบรอดแคสต์แบรนด์เลือกส่งคอนเทนต์ไปยังลูกค้าให้เหมาะกับความสนใจแต่ละกลุ่มได้
การบรอดแคสต์มีรูปแบบทั้ง Rich Messages ข้อความภาพ นำเสนอโครงการ ราคา และโปรโมชันได้อย่างชัดเจน, Rich Video Messages วิดีโอ Auto-Play ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอแนะนำ รีวิวบ้าน หรือโฆษณาตัวใหม่ก็ส่งไปโปรโมทโครงการได้ และ Card-Based Messages ข้อความแบบ Carousel นำเสนอข้อมูลหลายๆ โครงการได้ในการส่งเพียงครั้งเดียว ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกชมตามโลเคชั่นที่เล็งไว้
• Chat Tag - จัดประเภทลูกค้า ไม่ให้พลาดทุกความใส่ใจ เพราะการที่แอดมินทราบว่าลูกค้าแต่ละคนจัดอยู่ในกลุ่มไหน จะทำให้การสื่อสารสะดวกและเป็นไปอย่างราบรื่น แท็กที่ใช้แบรนด์ก็สามารถกำหนดได้เอง เช่น เยี่ยมชมบ้านตัวอย่าง, ยื่นขอสินเชื่อ, โครงการบ้านเดี่ยว หรือวางเงินจอง นอกจากนี้ก็ยังเพิ่มโน้ตสำหรับลูกค้าแต่ละคนได้ด้วย หากเป็นลูกค้าที่เคยลงทะเบียนหรือสอบถามเข้ามาก่อนหน้า ถ้าแอดมินโน้ตเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าไว้ จะทำให้นำเสนอโครงการอื่นๆ ได้อย่างตรงใจ สำหรับการแชทบน LINE OA ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ลูกค้าจะรู้สึกว่าเข้าถึงแบรนด์ได้โดยตรง และสบายใจในการพูดคุย เนื่องจากลูกค้ามีการใช้ LINE ในการสื่อสารอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
หรือสามารถพูดอีกอย่างได้ว่าการทำ Chat Tag ก็เป็นเหมือนการทำ Personalized Marketing ไปด้วยเช่นกัน เพราะเป็นประโยชน์ในการบรอดแคสต์คอนเทนต์ที่ตรงความสนใจเฉพาะกลุ่ม และนำไปวางแผนการนำเสนอคอนเทนต์ต่างๆ ได้ ที่สำคัญคือในการมอบสิทธิพิเศษก็จะตรงเป้าหมายด้วย อาทิ สิทธิพิเศษสำหรับคอนโด สำหรับคนที่เคยเข้ามาเยียมชมคอนโดตัวอย่าง
• Rich Menu - การออกแบบ Rich Menu ก็เป็นจุดสำคัญเช่นกัน แบรนด์ควรออกแบบให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลกค้า อาทิ การลงทะเบียนโครงการ ติดต่อสอบถาม โปรโมชัน คำแนะนำในการกู้เงิน และแบรนด์ยังใส่รีแอคชั่นของปุ่มต่างๆ ได้เพิ่มเติม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการได้ในทันที เช่น เมื่อลูกค้ากดปุ่มโครงการ ให้แสดงผลเป็น Auto Reaponse ที่เป็น Rich Message แสดงภาพโครงการ เพื่อให้ลูกค้ากดเลือกโครงการที่สนใจอีกที จากนั้นค่อยขึ้นข้อมูลโครงการ และลิงก์ไปยังหน้าลงทะเบียนของเว็บไซต์
สำหรับแบรนด์ที่ใช้ LINE OA เพิ่มโอกาสในการขาย เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และรองรับดีมานด์ในตลาดที่ยังมีอยู่ เช่น Ananda Development มีการทำโปรโมทโครงการอย่างต่อเนื่อง แจ้งโปรโมชันไม่ให้ผู้ติดตามพลาดข่าวสาร แจ้งสิทธิพิเศษที่จะได้รับ และยังให้ผู้ติดตามแชท 1:1 ได้เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว ให้ความรู้สึกแบบ Exclusive ผู้ติดตามก็จะมีประสบการณ์กับแบรนด์ดีขึ้น นอกจากนี้ในการออกแบบคอนเทนต์ Ananda Development ก็มีการใช้รูปแบบการส่งที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นอัตรา Engage ให้เพิ่มขึ้น
LINE OA ยังสามารถปรับใช้ได้กับหลากหลายวัตถุประสงค์ เพื่อให้เหมาะสมกับการขายในช่วงโรคระบาดด้วย อย่างการพาทัวร์ชมบ้านด้วยวิดีโอคอนเทนต์ หรือใช้ In-LINE LIVE VIEWER พาลูกค้าเข้าชมโครงการใหม่ๆ ให้ได้เห็นพื้นที่โดยรอบ โดยไม่ต้องเดินทางมาถึงที่ แล้วเมื่อลูกค้าอยากดูโซนไหนของบ้านเพิ่มเติม หรือมีคำถามก็สามารถโต้ตอบกับแบรนด์ได้ทันที เพียงเท่านี้ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้อย่างน่าประทับใจ
บริหารหลังการขาย สร้างแต้มต่อให้อสังหาฯ น่าอยู่
LINE OA ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงการสื่อสารในช่วงเริ่มต้น หรือปิดการขายเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นช่องทางที่แบรนด์ใช้เพื่อดูแลบริการหลังการขายได้ด้วย ซึ่งบริการหลังการขายที่ลูกค้าเข้าถึงได้รวดเร็วจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก แบรนด์สามารถใช้ฟีเจอร์บน LINE OA เพื่อยกระดับการดูแลได้ เช่น
สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจใน อุ่นใจ และมั่นใจ ถือเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน
ข้อเสนอที่ดี บริการที่เข้าถึง ทำได้ง่ายๆ บน LINE OA
ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การมีผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่เริ่มทำความรู้จักกับลูกค้า ยื่นข้อเสนอ โปรโมท ให้คำแนะนำ ไปจนถึงการดูแล เป็นส่วนที่จะช่วยธุรกิจให้พัฒนาต่อไปได้อย่างมั่นคง เพราะลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่ดีในทุกด้านและทุกช่วงเวลาของชีวิต LINE จึงเป็นบ้านที่เหมาะสมที่สุดในการผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับโลกดิจิทัล แล้วธุรกิจของคุณก็จะกลายเป็นผู้นำสำหรับการอยู่อาศัยที่ครองใจลูกค้าได้ตลอดไป