"POW สมุนไพรไทย” ดันยอดขายให้พุ่งโตไว ด้วยการใช้ Step Message กระตุ้นยอดขายแบบ Personalized บน LINE Official Account

POW สมุนไพรไทย

"POW สมุนไพรไทย” ดันยอดขายให้พุ่งโตไว ด้วยการใช้ 

Step Message กระตุ้นยอดขายแบบ Personalized 

บน LINE Official Account

กลยุทธ์ที่เพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ พร้อมแก้ปัญหาการแสดงโฆษณาซ้ำไปยังกลุ่มเป้าหมายเดิม ทำให้ได้จำนวนผู้ติดตามใหม่เพิ่มขึ้น

POW สมุนไพรไทย ลุยตลาดสุขภาพด้วยการเสริมกลยุทธ์ขยายยอดขายให้เติบโตไวขึ้นเท่าตัว ด้วยการคัดกรองและแยกกลุ่มลูกค้าเก่า/ ลูกค้าใหม่/ ลูกค้าที่เพิ่งสนใจ/ ลูกค้าที่ซื้อสินค้าชิ้นใด ๆ และลูกค้าที่บล็อกไป เพื่อกำหนดการสื่อสารข้อความบรอดแคสต์ที่ต่างกันแบบอัตโนมัติด้วยฟีเจอร์บน LINE Official Account จนสร้างยอดขายที่ยั่งยืน 


การใช้การสื่อสารการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมาย ไม่ได้หว่านการสื่อสารรวม ๆ ในแบบที่คุ้นเคยกันในอดีต เป็นเรื่องที่แบรนด์ไหน ๆ ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ด้วยต้นทุนที่เข้าถึงได้ทันที ไม่ต้องเริ่มต้นด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงอย่างที่หลาย ๆ คนยังเข้าใจผิดอยู่


POW สมุนไพรไทย ถือว่าเป็นตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้เครื่องมือบน LINE Official Account มาช่วยคัดกรองลูกค้าในระดับต่าง ๆ ทั้งกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่เคยรู้จัก (Cold Target) หรือกลุ่มเป้าหมายที่เร่ิมรู้จักคุ้นเคย (Warm Target) และกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการซื้อสินค้าของแบรนด์อย่างจริงจังแล้ว (Hot Target) รวมถึงแม้แต่คนที่เคยติดตามแบรนด์อยู่ แต่ได้เลือกที่จะบล็อกการติดตามแบรนด์ไปแล้ว (Blocked Target) ให้กลับกลายมาเป็นลูกค้า และซื้อซ้ำต่อเนื่องได้อย่างยั่งยืน


POW สมุนไพรไทย ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตได้ด้วยการจัดการควบคุมกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ โดยการใช้เครื่องมือจาก LINE ตั้งแต่ เปิดตัวสินค้าของแบรนด์ด้วยการโฆษณาเพื่อเพิ่มผู้ติดตามด้วย LINE Ads ในวัตถุประสงค์เพิ่มเพื่อน จนไปถึงการนำเพื่อนที่ได้มาบริหารจัดการ แยกกลุ่มผ่านเครื่องมือแชทแท็กบน LINE Official Account เพื่อบรอดแคสต์เนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของแต่ละกลุ่มนั้น ๆ 


รวมถึงการบรอดแคสต์แบบอัตโนมัติด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่าสเต็ปเมสเสจ ที่ช่วยส่งคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาต่างกันตามกลุ่มเป้าหมายที่ติดแท็กเอาไว้ ซึ่งทำให้แบรนด์สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้ โดยวัดจากตัวเลข Returns On Ads Spend: ROAS ที่สูงถึง 3.3 เท่าเลยทีเดียว

ในโลกของสุขภาพที่กำลังเติบโตและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แบรนด์ POW สมุนไพรไทย ในฐานะของแบรนด์ที่ขายสินค้าสมุนไพร รวมถึงเป็นผู้รับผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริม ได้กลายเป็นชื่อที่โดดเด่นอย่างมากในตลาดสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดของสังคมไทย ที่กำลังมองหาวิธีการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีพื้นฐานจากสมุนไพรไทย โดยแบรนด์ POW สมุนไพรไทย ไม่เพียงตอบโจทย์สุขภาพแต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแลโรคในกลุ่ม NCD เช่น เบาหวาน ไขมัน ความดัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำคัญในกลุ่มอายุนี้

 

POW สมุนไพรไทย หลายเป็นแบรนด์ที่ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว เพราะได้เริ่มใช้ประโยชน์จากทุก ๆ แพลตฟอร์มโฆษณาเพื่อเข้าถึงลูกค้า และล่าสุดได้เลือกใช้ LINE Ads ให้เป็นหนึ่งในช่องทางหลักในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในไทย ที่มีมากกว่า 54 ล้านคน โดยเฉพาะการใช้โฆษณาที่มีวัตถุประสงค์ “เพิ่มเพื่อน” บน LINE ที่สร้างการเชื่อมต่อที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า ผ่านการสนทนาที่มีความส่วนตัวและปลอดภัย 


และในปีที่ผ่านมา ผู้คนกำลังกังวลเกี่ยวกับมิจฉาชีพทางโทรศัพท์และการหลอกลวงออนไลน์ จึงทำให้การเลือกใช้ LINE Official Account ไม่เพียงแต่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า แต่ยังช่วยให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าพวกเขากำลังสื่อสารกับแบรนด์ที่เชื่อถือได้และปลอดภัย และสร้างให้เกิดการซื้อซ้ำที่ยั่งยืน

ความท้าทายของ POW สมุนไพรไทย

ความท้าทายของสินค้ากลุ่มนี้คือ ลูกค้าจะใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อค่อนข้างนานกว่าสินค้าบริโภคโดยทั่วไป เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องมีการอธิบายรายละเอียดสรรพคุณ แล้วยิ่งไม่ได้เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้างด้วยแล้ว ก็ต้องใช้รีวิวจากลูกค้าที่เคยใช้สินค้ามาพูดสร้างความเชื่อมั่นให้ตัดสินใจซื้อในที่สุด

ดังนั้นการใช้สื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียวแล้วจะหวังผลให้เกิดการซื้อตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นและรู้จักกับแบรนด์เลยนั้น คงเป็นเรื่องที่อาจจะมีความท้าทายเกินไป จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจ มั่นใจ และเชื่อใจกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแน่นอนว่าอาจใช้ระยะเวลามากกว่าสินค้าประเภทอื่น ๆ

 รวมถึงการทำให้ลูกค้าเดิมที่เคยซื้อสินค้าไปแล้วได้นั้นกลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งต้องอาศัยการติดตามและต้องใช้เนื้อหาคอนเทนต์มาคอยกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งถ้ามีจำนวนลูกค้าเยอะ และแต่ละคนก็ซื้อสินค้าที่มีความแตกต่างกัน การติดตามเพื่อกระตุ้นยอดซื้อซ้ำ จะต้องเลือกและคัดกรองการสื่อสารเนื้อหาที่แตกต่างกันไปเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนจริง ๆ

โซลูชั่น

POW สมุนไพรไทย ได้เลือกใช้โซลูชั่นของไลน์เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงสุดปลายทางของ Customer Journey ซึ่งช่วยสร้างให้เกิดยอดขายใหม่กับลูกค้าที่เพิ่งรู้จักแบรนด์ และกระตุ้นให้ลูกค้าเดิมที่เคยซื้อสินค้าของแบรนด์มาแล้ว กลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่องได้ด้วยการเลือกใช้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดดิจิทัลดังต่อไปนี้


การใช้โฆษณาผ่าน LINE Ads ด้วยวัตถุประสงค์เพิ่มเพื่อน

กลยุทธ์ของ POW สมุนไพรไทย ในการโฆษณาเพิ่มเพื่อนนั้นใช้การแบ่งแคมเปญออกเป็น 3 แบบด้วยกัน เพื่อสื่อสารเนื้อหาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ได้แก่

  1. แคมเปญเพิ่มเพื่อน ด้วยกลยุทธ์ “ตัวเปิด” (Cold Stage) การใช้กลุ่มเป้าหมายที่ได้มาจากเบอร์โทรศัพท์ 1,300 หมายเลข ที่ได้รับจากการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายจากช่องทางในการทำการตลาดอื่น ๆ ของแบรนด์ โดยนำมาสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมยที่คล้ายกัน (Lookalike Audience) เพื่อให้โฆษณาไปแสดงผลยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากขึ้น โดยใช้ชิ้นงานโฆษณาในรูปแบบคลิป Video Value ที่เล่าถึงสรรพคุณและการผลิตที่ทันสมัย สะอาด มีมาตรฐานสากล (GMP, HACCP)
  2. แคมเปญเพิ่มเพื่อน ด้วยกลยุทธ์ “ตัวตาม” (Warm Stage) แคมเปญที่ใช้กลยุทธ์ที่นำเอากลุ่มเป้าหมายจากแคมเปญในข้อ 1 ที่ได้เห็นคลิป Video Value โดยเลือกเอาเฉพาะที่รับชมคลิป Video นาน 50% ขึ้นไป ซึ่งนั่นหมายถึงโฆษณาจะแสดงแค่คนที่เคยรู้จักแบรนด์มาระดับหนึ่งแล้วเท่านั้น โดยชิ้นงานโฆษณาจะเป็นรูปแบบคลิป Video Review จากลูกค้าที่ใช้งานสินค้าของแบรนด์จริง เช่น การพูดถึงข้อดีของสินค้า หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการทาน ซึ่งคลิปแนวนี้ถ้าไปแสดงผลกับกลุ่มลูกค้าที่ถูกต้อง (ต้องรู้จักแบรนด์อยู่แล้ว) จะช่วยทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่าการไปแสดงผลกับลูกค้าที่ยังไม่เคยรู้จักแบรนด์มาก่อนเลย
  3. แคมเปญเพิ่มเพื่อน ด้วยกลยุทธ์ “ตัวง้อ” (Blocked Stage) กลุ่มเป้าหมายที่เคยบล็อก LINE Official Account ของแบรนด์ไปแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจมาจากการเผลอกดบล็อกด้วยความไม่ตั้งใจ โดยเราสามารถสร้างโฆษณาไปแสดงผลให้กับกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นเพื่อให้กลับมาติดตามใหม่อีกครั้ง แคมเปญนี้ใช้ภาพนิ่ง เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าสามารถขอคำปรึกษาได้ฟรี ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงใด ๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์

การกระตุ้นให้เริ่มซื้อจากลูกค้าใหม่ และให้ซื้อซ้ำจากลูกค้าเก่าด้วย LINE Official Account

เมื่อได้เพื่อนเพิ่มมาแล้ว ยังไม่สามารถสร้างยอดขายได้ทันที จากข้อจำกัดในด้านความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ยังไม่รู้จักหรือไว้ใจที่จะซื้อสินค้าของแบรนด์มาบริโภค แบรนด์จึงเลือกใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ LINE Official Account มาช่วยกระตุ้นการซื้อของลูกค้าในกลุ่มต่าง ๆ ในแต่ละ Stage ดังนี้

1. STEP MESSAGE SELLING เพื่อใช้สำหรับช่วยสื่อสารกับลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงกับลูกค้าที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาติดตามเป็นเพื่อนใน LINE Official Account ของแบรนด์ โดยมีการกำหนดสเต็ปการสื่อสารไล่ลำดับดังนี้

  • 1 วันหลังจากเพิ่มมาเป็นเพื่อน ลูกค้าจะได้รับข้อความในรูปแบบ Value Content ที่บอกประโยชน์ของสินค้าแบรนด์
  • 1 วันต่อมาหลังจากได้ข้อความแรก ลูกค้าจะได้รับข้อความในรูปแบบ Review Content ซึ่งเป็นการรีวิวลูกของค้าหลังทานแล้ว มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง
  • 1 วันต่อมาหลังจากได้ข้อความที่สอง ลูกค้าจะได้รับข้อความในรูปแบบ Offer Content กระตุ้นการซื้อด้วยโปรโมชั่นลูกค้าใหม่ ด้วยการมอบส่วนลดพิเศษให้

 โดยในขั้นนี้แบรนด์ยังใช้ฟีเจอร์แชทแท็ก(Chat Tag) เพื่อติดแท็กข้อความกับลูกค้าผ่านช่องทางแชทไว้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้แบรนด์แยกกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น สำหรับเตรียมนำไปใช้สำหรับการติดตามลูกค้าแต่ละคนได้ด้วย

ตัวอย่างแชทแท็กที่ถูกติดเอาไว้ได้แก่

  • แท็ก “ซื้อแล้ว” สำหรับติดให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าไปแล้ว 
  • แท็ก “สินค้า A” สำหรับติดใ้ห้ลูกค้าที่สั่งสินค้า A
  • แท็ก “สินค้า B” สำหรับติดใ้ห้ลูกค้าที่สั่งสินค้า B
  • แท็ก “สอบถาม” สำหรับติดให้ลูกค้าที่ทักมาสอบถามสินค้า แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ


 2. STEP MESSAGE CRM ที่เป็นการตั้งค่าส่งข้อความเป็นสเต็ป หลังจากที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าแล้ว โดยกำหนดสเต็ปการส่งข้อความ ดังนี้

  • 5 วันหลังจากซื้อสินค้า ลูกค้าจะได้รับข้อความ Follow up จำนวน 1 คอนเทนต์ ซึ่งเป็นเนื้อหาในเชิงการสอบถาม ว่าได้รับสินค้าครบถ้วนหรือไม่ พร้อมกับให้ความเอาใจใส่ด้วยการส่งวิธีการทานที่ถูกต้องให้ด้วยในคราเดียวกัน
  • 7 วันหลังจากได้รับข้อความแรก ลูกค้าจะได้รับข้อความ Follow up จำนวน 2 คอนเทนต์ ซึ่งยังคงใช้เป็นเนื้อหาในเชิงการสอบถาม เช่น ถามว่าทานแล้วเป็นมีผลลัพธ์อย่างไรบ้าง ติดปัญหาการทานอะไรในการทานหรือไม่
  • 14 วันหลังจากได้รับข้อความที่สอง ลูกค้าจะได้รับข้อความ Reorder Content ซึ่งเป็นเนื้อหาในเชิงการแจ้งโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าเก่า


3. BROADCAST ตามแชทแท็ก ลูกค้าใน stage ต่าง ๆ ที่เคยติดเอาไว้ เช่น

  • ส่งข้อความบรอดแคสต์ Review Content ของลูกค้าท่านอื่น ๆ เพิ่มเติม สำหรับผู้ติดตามที่ถูกติดแชทแท็ก “สอบถาม” เอาไว้
  • ส่งข้อความบรอดแคสต์ Promotion สินค้า B สำหรับผู้ติดตามที่ถูกติดแชทแท็ก “สินค้า A” เอาไว้
  • ส่งข้อความบรอดแคสต์ Promotion สินค้า A สำหรับผู้ติดตามที่ถูกติดแชทแท็ก “สินค้า B” เอาไว้

ซึ่งกลยุทธ์ในข้อนี้เป็นการสร้างยอดขายแบบ Cross Selling Product คือ ใครซื้อสินค้าใดไปแล้ว จะได้รับ Promotion กระตุ้นให้ซื้อสินค้าอีกตัวหนึ่งแทนนั่นเอง

ผลลัพธ์

ผลลัพธ์จากการใช้กลยุทธ์จากฟีเจอร์จาก LINE Ads และ LINE Official account ทำให้แบรนด์ได้ผลลัพธ์ ดังนี้

  1. ต้นทุนต่อการโฆษณาด้วยวัตถุประสงค์การเพิ่มเพื่อนลดลง จากตัวเลขต้นทุนต่อการเพิ่มเพื่อน (Cost per Friend: CPF) 50 บาท เมื่อใช้กลยุทธ์แคมเปญ “ตัวเปิด” และ “ตัวตาม” ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น ทำให้สามารถลดต้นทุนลงไปเหลือ 35 บาท หรือลดลงไปถึง 30% เลยทีเดียว จากการที่ส่งคอนเทนต์ต่อเนื่องไปหาลูกค้าที่เคยรับชมวีดีโอตัวเปิดมาแล้วเท่านั้น ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้จักและเห็นแบรนด์มาบ้างแล้ว ผลสุดท้ายจึงทำให้ค่า CPF ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
  2. เปอร์เซ็นการบล็อคของลูกค้าลดลง จากปกติที่เคยมีอัตราบล็อคของลูกค้าที่ติดตาม LINE Official Account อยู่ที่ 40% ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 27% เท่านั้น ซึ่งหากเทียบเป็นเปอร์เซ็น ถือว่าลดลงไปถึง 33 % เลย เนื่องจากใช้วิธีการ Broadcast ที่เลือก “ส่งข้อความไปหาลูกค้าที่ต้องการเท่านั้น” จึงไม่เป็นการส่งข้อความทั้งหมดไปรบกวนลูกค้าใน LINE Official Account คนอื่น ๆ หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า ลูกค้าคนที่ยังไม่ซื้อ จะได้รับข้อความเพื่อกระตุ้นการซื้อ ส่วนลูกค้าที่ซื้อแล้ว ถึงจะได้รับข้อความที่เน้นกระตุ้นการซื้อซ้ำ
  3. ตัวเลข ROAS (Returns On Ads Spend) เพิ่มขึ้นจากปกติที่เคยทำได้เพียง 2 เท่า กลายเป็น 3.3 เท่าในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 65% ซึ่งได้มาจากส่วนผสมที่ลงตัว จากการใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ บน LINE Ads และ LINE Official Account นั่นเอง

โค้ชง้วง ชวลิต เดชะนรานนท์ LINE Certified Coach 2024




LINE Solutions ที่ใช้ในแคมเปญนี้

เทคนิคการโฆษณา LINE Ads วัตถุประสงค์เพิ่มเพื่อน การสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากเบอร์โทรศัพท์ และการเซ็ตโฆษณาแบบรีทาร์เก็ตติ้ง จนสามารถสร้างผู้ติดตามที่เป็นลูกค้าตัวจริงของแบรนด์ได้

อ่านเพิ่มเติม

เทคนิคการติดแชทแท็ก การบรอดแคสต์ และการตั้งค่าสเต็ปเมสเสจ บน LINE Official Account เพื่อสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันด้วยเนื้อหาข้อความที่ส่งต่างกัน จนสร้างยอดซื้อ และเกิดการซื้อซ้ำต่อเนื่อง

อ่านเพิ่มเติม