สร้างกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงในการยิงโฆษณา LINE Ads
ด้วย “กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง

Custom Audience

สร้างกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงในการยิงโฆษณา LINE Ads
ด้วย “กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง (Custom Audience)"

บทความนี้ว่ากันด้วยเรื่องของการนำเอาข้อมูลลูกค้าที่ธุรกิจมีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุดเมื่อมีการโฆษณาด้วย LINE Ads ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลพื้นฐานอย่างเบอร์โทรศัพท์
อีเมลของลูกค้า


หรือจะเป็นข้อมูลจากบัญชี LINE Ads ที่มีการปล่อยโฆษณาด้วยการใช้กลุ่มเป้าหมายหลัก (Core Audience) ก็จะได้ข้อมูลผลลัพธ์จากการโฆษณาออกมา เช่น ยอดวิว จำนวนคลิก ฯลฯ รวมถึงข้อมูลจากบัญชี LINE Official Account ที่ใช้งานมาสักระยะ ก็จะเริ่มมีข้อมูล “เพื่อนที่ไม่ได้บล็อคบัญชี” และ “เพื่อนที่บล็อคบัญชี” สะสมอยู่จำนวนหนึ่ง


ข้อมูลข้างต้นทั้งหมดนี้ถือเป็นฐานข้อมูลสำคัญที่นำมาเริ่มใช้งานเพื่อสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง (Custom Audience) ได้ เป็นการนำข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่แล้ว มาทำให้การโฆษณาด้วย LINE Ads มีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มลงโฆษณา สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ได้ที่นี่


ไขกุญแจสำคัญของความสำเร็จในการทำโฆษณา LINE Ads ด้วยการเข้าถึง “กลุ่มเป้าหมาย” ที่ใช่

กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง (Custom Audience) จะสร้างได้มากถึง 9 ประเภทด้วยกัน มาดูกันว่าแต่ละประเภทมีรายละเอียดและข้อดีอย่างไรบ้าง


1. กลุ่มเป้าหมายที่เข้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic Audience)

2. กลุ่มเป้าหมายโมบายล์แอป (Mobile App Audience)

3. กลุ่มเป้าหมายจากการอัพโหลด IDFA/AAID

4. กลุ่มเป้าหมายจากการอัพโหลดหมายเลขโทรศัพท์

5. กลุ่มเป้าหมายจากการอัพโหลดอีเมล

6. กลุ่มเป้าหมายจากเพื่อนใน LINE Official Account

7. กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน (Lookalike Audience)

8. กลุ่มเป้าหมายที่ดูวิดีโอ

9. กลุ่มเป้าหมายคนที่คลิกรูป


พิเศษ! การเพิ่มสิทธิ์ให้บุคคลภายนอกอัพโหลดข้อมูล



1. กลุ่มเป้าหมายที่เข้าชมเว็บไซต์ (Website Traffic Audience)

กลุ่มเป้าหมายนี้ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาติดตามและสร้างกลุ่มเป้าหมายจากผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์ได้โดยใช้ข้อมูลแทร็กกิ้งจาก LINE Tag และสร้างกลุ่มเป้าหมายจากอีเวนท์ที่เกิดขึ้นได้ 3 รูปแบบย่อย ๆ เช่น

  • ทุกคนที่เข้าชมเว็บไซต์ (ทุกหน้าบนเว็บไซต์)
  • เหมาะสำหรับการสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง
  • สามารถเข้าถึงทุกคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์
  • คนที่เข้าชมเพจที่ระบุ (เฉพาะหน้าตามเงื่อนที่ระบุ)
  • กำหนดเงื่อนไข URL ได้ เช่น ผู้ที่เข้าชมหน้าสินค้า A และ หน้าสินค้า B, ผู้ที่เข้าชมหน้าสินค้า A แต่ไม่รวมผู้ที่เข้าชมหน้าสินค้า B เป็นต้น
  • เหมาะสำหรับการทำโฆษณาเฉพาะกลุ่มที่สนใจสินค้าหรือบริการบางประเภท
  • สามารถแยกกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจได้ชัดเจนขึ้น
  • คนที่เข้าชมอีเวนท์เพจ


สำหรับกลุ่มคนที่เข้าชมอีเวนท์เพจ ผู้ลงโฆษณาสามารถนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้หลายรูปแบบ เช่น หากมีคนเพิ่มสินค้าลงตะกร้าแต่ยังไม่ซื้อ สามารถนำกลุ่มนี้มารีทาร์เก็ตเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อ หรือในทางกลับกัน ผู้ลงโฆษณาอาจจะเลือกไม่ส่งโฆษณาไปยังคนที่เพิ่งซื้อสินค้าไป เพราะคนกลุ่มนี้อาจจะยังไม่มีความต้องการซื้อซ้ำในเร็ว ๆ นี้

  • เลือกได้เฉพาะอีเวนท์ที่กำหนดเอง เช่น ดูรายละเอียดสินค้า (ViewItemDetail), เพิ่มสินค้าลงในตระกร้า (AddToCart), ชำระสินค้า (Purchase) เป็นต้น
  • เหมาะสำหรับติดตามผู้ที่ทำกิจกรรมสำคัญบนเว็บไซต์ เช่น การเพิ่มสินค้าลงตะกร้า, การซื้อสินค้า, การลงทะเบียน


ทั้งนี้ ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ 1-180 วัน ให้เหมาะกับลักษณะธุรกิจและวัตถุประสงค์ของแคมเปญ


กลุ่มเป้าหมายที่เข้าชมเว็บไซต์จะใช้งานได้จะต้องมีการติดตั้ง LINE Tag และ/หรือ Conversion API ที่เว็บไซต์ก่อน ถึงจะสามารถใช้กลุ่มเป้าหมายนี้ได้


อ่านรายละเอียดการติดตั้ง LINE Tag และ Conversion API ได้ที่นี่

2. กลุ่มเป้าหมายโมบายล์แอป (Mobile App Audience)


สำหรับธุรกิจที่มีแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง การสร้างกลุ่มเป้าหมายจากผู้ใช้แอปเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายจากอีเวนท์ที่เกิดขึ้นในแอปได้ เช่น คนที่เปิดแอป, คนที่ซื้อสินค้าในแอป โดยมีขั้นตอนดังนี้:


1.การเตรียมการ:

  • ลงทะเบียนแอปพลิเคชันในส่วน "มีเดีย"
  • เชื่อมต่อ SDK ให้เรียบร้อย
  • ตั้งชื่อกลุ่มเป้าหมายตามต้องการ แล้วเลือกแอปพลิเคชันที่ลงทะเบียนเอาไว้

2.การเลือกอีเวนท์:

  • เลือกอีเวนท์ที่ต้องการติดตาม เช่น การเปิดแอป, การซื้อสินค้าในแอป
  • สามารถระบุพารามิเตอร์เพิ่มเติมได้ตามแต่ละอีเวนท์



ข้อควรระวัง:

  • ระบบจะแสดงเฉพาะอีเวนท์ที่เคยเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
  • เมื่อเกิดอีเวนท์แล้วจะไม่สามารถลบออกได้ภายใน 180 วัน
  • หากอีเวนท์ไม่แสดงในรายการ อาจเกิดจากการเชื่อมต่อผิดพลาดหรือการตั้งค่า SDK ไม่ถูกต้อง

3. กลุ่มเป้าหมายจากการอัพโหลด IDFA/AAID

วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีข้อมูล IDFA (iOS) หรือ AAID (Android) ของผู้ใช้อยู่แล้ว โดยมีข้อกำหนดดังนี้:


ข้อกำหนดของไฟล์:

  • รองรับไฟล์ CSV และ TXT
  • ข้อมูล IDFA/AAID ต้องอยู่ในแถวที่ 1 โดยไม่มีชื่อหัวข้อ มิเช่นนั้นจะไม่สามารถอัปโหลดได้
  • ต้องใส่ IDFA หรือ AAID แค่หนึ่งบรรทัดต่อหนึ่งรายการเท่านั้น
  • ไม่สามารถใช้เครื่องหมายจุลภาค (,) คั่นหลายรายการ
  • ต้องเป็นข้อมูลที่ไม่ได้เข้ารหัสด้วยฟังก์ชันแฮช
  • ขนาดไฟล์ไม่เกิน 60 MB หรือ 1,500,000 แถว
  • สามารถอัพโหลดไฟล์ด้วยตนเอง หรือคัดลอกลิงก์ให้ผู้ที่ดูแลข้อมูลอัพโหลดข้อมูลได้เช่นกัน

4. กลุ่มเป้าหมายจากการอัพโหลดหมายเลขโทรศัพท์

การใช้งานกลุ่มเป้าหมายจากการอัพโหลดหมายเลขโทรศัพท์ เป็นวิธีที่ดีในการนำข้อมูล CRM มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผู้ลงโฆษณาสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าตามความสนใจในสินค้าแต่ละประเภท หรือดูจากระยะเวลาที่ลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้า เช่น ถ้าลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้ามาเกิน 3 เดือนแล้ว ก็สามารถส่งโปรโมชันพิเศษไปกระตุ้นให้กลับมาซื้อใหม่ได้


โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบ ดังนี้:


4.1 ข้อมูลที่ไม่ได้เข้ารหัสด้วยฟังก์ชันแฮช

  • ระบบจะเข้ารหัสแฮชให้อัตโนมัติ
  • รองรับไฟล์ CSV และ TXT
  • ต้องใส่ค่าแฮชในแถวที่ 1 และไม่ต้องใส่ชื่อหัวข้อ มิเช่นนั้นจะอัปโหลดไม่ได้ 
  • รูปแบบหมายเลข: ต้องเป็นตัวเลขขนาดหนึ่งไบต์ และมีเครื่องหมายขีดกลางในหมายเลขโทรศัพท์ (จะใส่ช่องว่างหนึ่งเคาะหรือวงเล็บก็ได้) แต่ไม่ต้องใส่รหัสประเทศ เช่น 080-123-4567, 080 123 4567, 0801234567
  • ขนาดไฟล์ไม่เกิน 20 MB หรือ 1,500,000 แถว
  • อัพโหลดได้เฉพาะเบอร์โทรของประเทศเป้าหมายที่กำหนดไว้ในบัญชีโฆษณาเท่านั้น
  • สามารถอัพโหลดไฟล์ด้วยตนเอง หรือคัดลอกลิงก์ให้ผู้ที่ดูแลข้อมูลอัพโหลดข้อมูลได้เช่นกัน


4.2 ข้อมูลที่เข้ารหัสด้วยฟังก์ชันแฮช

  • ต้องเข้ารหัสในรูปแบบ SHA-256 เท่านั้น
  • รองรับไฟล์ CSV และ TXT
  • ต้องใส่ค่าแฮชในแถวที่ 1 และไม่ต้องใส่ชื่อหัวข้อ มิเช่นนั้นจะอัปโหลดไม่ได้
  • รูปแบบข้อมูล: ต้องมีรหัสประเทศ "+66" นำหน้าหมายเลขโทรศัพท์ เช่น +66801234567
  • ใส่ค่าแฮชได้แถวละ 1 รายการเท่านั้น
  • ขนาดไฟล์ไม่เกิน 60 MB
  • สามารถอัพโหลดไฟล์ด้วยตนเอง หรือคัดลอกลิงก์ให้ผู้ที่ดูแลข้อมูลอัพโหลดข้อมูลได้เช่นกัน

5. กลุ่มเป้าหมายจากการอัพโหลดอีเมล

กลุ่มเป้าหมายจากการอัพโหลดอีเมล ก็เป็นอีกช่องทางที่ดีในการเข้าถึงลูกค้า โดยเฉพาะถ้ามีฐานข้อมูลสมาชิกจากการส่ง Newsletter ผู้ลงโฆษณาสามารถแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมการเปิดอีเมลได้ เช่น กลุ่มที่เปิดอ่านเมลสม่ำเสมอ อาจจะส่งข้อเสนอพิเศษให้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ หรือกลุ่มที่ไม่ได้เปิดเมลมานาน อาจจะส่งแคมเปญพิเศษ เช่น ซื้อสินค้าตอนนี้รับส่วนลดทันที เพื่อดึงความสนใจกลับมา


โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบ ดังนี้:


5.1 ข้อมูลที่ไม่ได้เข้ารหัสด้วยฟังก์ชันแฮช

  • ระบบจะเข้ารหัสแฮชให้อัตโนมัติ
  • รองรับไฟล์ CSV และ TXT
  • อีเมลต้องอยู่ในแถวที่ 1 โดยไม่มีชื่อหัวข้อ มิเช่นนั้นจะอัปโหลดไม่ได้
  • ใส่อีเมลได้ 1 รายการต่อ 1 แถว
  • ข้อจำกัดอีเมล:
  • ความยาวไม่เกิน 120 ตัวอักษร
  • ใช้ได้เฉพาะตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวเลข ขีดล่าง (_) ขีดกลาง (-) และ @
  • ห้ามมีช่องว่าง เครื่องหมายจุลภาค (,) เครื่องหมายบวก (+) หรือสัญลักษณ์พิเศษอื่นๆ
  • ขนาดไฟล์ไม่เกิน 20 MB หรือ 1,500,000 แถว
  • สามารถอัพโหลดไฟล์ด้วยตนเอง หรือคัดลอกลิงก์ให้ผู้ที่ดูแลข้อมูลอัพโหลดข้อมูลได้เช่นกัน



5.2 ข้อมูลที่เข้ารหัสด้วยฟังก์ชันแฮช

  • ต้องเข้ารหัสในรูปแบบ SHA-256 เท่านั้น
  • รองรับไฟล์ CSV และ TXT
  • อีเมลต้องอยู่ในแถวที่ 1 โดยไม่มีชื่อหัวข้อ มิเช่นนั้นจะอัปโหลดไม่ได้
  • ใส่ค่าแฮชได้แถวละ 1 รายการเท่านั้น
  • ขนาดไฟล์ไม่เกิน 60 MB
  • สามารถอัพโหลดไฟล์ด้วยตนเอง หรือคัดลอกลิงก์ให้ผู้ที่ดูแลข้อมูลอัพโหลดข้อมูลได้เช่นกัน

6. กลุ่มเป้าหมายจากเพื่อนใน LINE Official Account

กลุ่มเป้าหมายจากเพื่อนใน LINE Official Account ผู้ลงโฆษณาสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งกับกลุ่มที่ยังเป็นเพื่อนกับแบรนด์อยู่ และกลุ่มที่บล็อกไปแล้ว โดยกลุ่มที่ยังเป็นเพื่อนอยู่ ก็สามารถส่งแคมเปญพิเศษหรือโปรโมชันเฉพาะกลุ่มได้ ส่วนกลุ่มที่บล็อกไปแล้ว อาจจะลองทำแคมเปญพิเศษเพื่อดึงดูดให้พวกเขากลับมาเป็นลูกค้าอีกครั้ง 


โดยสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ 2 แบบ:

  • เพื่อนที่ไม่ได้บล็อกบัญชี (Target Reach)
  • เพื่อนที่บล็อกบัญชี



ข้อควรทราบ:

  • ต้องใช้ LINE OA ที่ผูกกับบัญชีเท่านั้น
  • จำนวนเป้าหมายอาจน้อยกว่าจำนวนเพื่อนจริง เนื่องจาก:
  • ไม่นับผู้ใช้ที่ลบเพื่อนไปแล้ว
  • ไม่นับผู้ใช้ที่ไม่ได้ล็อกอิน LINE เป็นเวลานาน
  • ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ในการสร้างกลุ่มเป้าหมาย

7. กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน (Lookalike Audience)

การสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน หรือ Lookalike Audience เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ข้อมูลจาก Custom Audinece มาเป็นกลุ่มเป้าหมายตั้งต้น เพื่อขยายไปหาคนที่มีความคล้ายคลึงกันเป็นจำนวนมาก เช่น สร้าง Cusotom Audience จากกลุ่มลูกค้าที่มียอดซื้อสูงบนเว็บไซต์ หรือเพื่อนที่แอคทีฟใน LINE OA มาสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน หรือที่เรียกว่า Lookalike Audience ซึ่งจะช่วยให้ เข้าถึงกลุ่มคนที่มีโอกาสสนใจสินค้าได้มากขึ้น


ถ้าให้สรุปง่าย ๆ ก็จะเรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยขยายฐานลูกค้า โดยระบบจะวิเคราะห์หาคนที่มีแนวโน้มคล้ายกับลูกค้าชั้นดีที่มีอยู่


การตั้งค่าขนาดกลุ่มเป้าหมาย:


1,แบบอัตโนมัติ

  • ระบบจะปรับขนาดให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
  • ขนาดสูงสุด 15%



2.แบบกำหนดเอง

  • เลือกขนาดได้ตั้งแต่ 1-15%
  • ควรทดลองปรับขนาดเพื่อหาประสิทธิภาพที่ดีที่สุด


ข้อควรทราบ:

  • กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันที่ได้มานั้น จะสร้างได้สูงสุด 10 กลุ่ม
  • ใช้เวลาสูงสุดประมาณ 24 ชั่วโมงในการสร้างกลุ่มเป้าหมาย
  • กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันที่ได้มานั้น จะไม่รวมกลุ่มเป้าหมายต้นแบบ 

8. กลุ่มเป้าหมายที่ดูวิดีโอ

สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ดูวิดีโอ ผู้ลงโฆษณาสามารถเจาะจงไปที่คนที่ดูวิดีโอจนจบ เพราะแสดงว่าพวกเขามีความสนใจในเนื้อหาจริง ๆ หรือ เลือกทำโฆษณาสั้นสรุปเนื้อหาแบบรวบรัด สำหรับคนที่ดูวิดีโอประมาณ 50% เพราะลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะต้องการเพียงเนื้อหาส่วนสำคัญ อาจจะเป็นจุดเด่นของสินค้า หรือโปรโมชั่น ซึ่งผู้ลงโฆษณาเองก็สามารถนำข้อมูลในส่วนนี้ไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย


สามารถกำหนดคุณสมบัติได้หลากหลาย ดังนี้:

  • คนที่คลิกวิดีโอ
  • คนที่ดูวิดีโอ
  • คนที่ดูวิดีโออย่างน้อย 3 วินาที
  • คนที่ดูวิดีโอ 25%
  • คนที่ดูวิดีโอ 50%
  • คนที่ดูวิดีโอ 75%
  • คนที่ดูวิดีโอ 95%
  • คนที่ดูวิดีโอจนจบ
  • โดยสามารถกำหนดระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1-30 วัน

9. กลุ่มเป้าหมายคนที่คลิกรูป

กลุ่มเป้าหมายคนที่คลิกรูป ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถติดตามและทำโฆษณา กับคนที่เคยสนใจสินค้า เช่น ถ้าเคยโฆษณาขายเสื้อผ้าและมีคนคลิกดูรูปแจ็คเก็ตใหม่ ก็สามารถส่งโปรโมชันพิเศษของแจ็คเก็ตตัวนั้น หรือแนะนำสินค้าที่เข้าชุดกันให้ลูกค้าได้ทันที วิธีนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายเพราะรู้ว่าลูกค้าสนใจสินค้าแบบไหนบ้าง


การตั้งค่า:

  • เลือกแคมเปญ ID ที่ต้องการนำมาสร้างกลุ่มเป้าหมาย
  • กำหนดระยะเวลาใช้งานได้ตั้งแต่ 1-180 วัน
  • เหมาะสำหรับการรีมาร์เก็ตติ้งไปยังผู้ที่เคยสนใจโฆษณาที่เคยปล่อยออกไปก่อนหน้านี้แล้ว

การเพิ่มสิทธิ์ให้บุคคลภายนอกอัพโหลดข้อมูล

LINE Ads มียังมีฟีเจอร์แชร์ URL สำหรับอัพโหลดข้อมูลกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ ช่วยให้ทีมงานหรือบุคคลภายนอกสามารถอัพโหลดข้อมูลได้ โดยไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีโฆษณาอื่นๆ โดย:


  • แอดมินบัญชีผู้ใช้โฆษณาหรือผู้ดำเนินงานจะต้องสร้างและคัดลอก URL สำหรับอัพโหลดเพื่อส่งให้ผู้อัพโหลด
  • ผู้รับ URL สามารถอัพโหลดข้อมูลได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโฆษณา
  • URL มีอายุการใช้งาน 5 วันหลังจากคลิก "คัดลอก"
  • รองรับการอัพโหลดข้อมูลประเภท เช่น:
  • เบอร์โทรศัพท์
  • อีเมล
  • IDFA/AAID


การใช้งานผ่าน Business Manager จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง ระยะเวลาการใช้งาน และติดตามประวัติการอัพโหลดข้อมูลได้ ทำให้สร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น


ทั้งหมดนี้คือการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำทั้ง 9 ประเภท ที่จะช่วยเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของแคมเปญโฆษณา ซึ่ง LINE Ads ได้พัฒนาเครื่องมือที่หลากหลายเพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น:


  • การติดตามพฤติกรรมบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
  • การใช้ฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่
  • การขยายฐานลูกค้าด้วยกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน
  • การรีมาร์เก็ตติ้งผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณา


ด้วยการเลือกใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างเหมาะสม ผู้ลงโฆษณาจะสามารถสร้างแคมเปญที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่า