{{ tab }}

1.9 จัดการประเภทลูกค้าด้วย Chat Tag



จัดประเภทลูกค้าด้วยการตั้งสถานะและChat Tag


คุยง่าย ตอบไว ลูกค้าประทับใจด้วยแชท ยังสามารถจัดระเบียบ แชทให้ง่ายขึ้น ด้วยการตั้งสถานะหรือติดแท็กตามประเภท ที่ต้องการ เช่น ลูกค้า VIP กลุ่ม Influencers ชอบแต่งหน้า โทนส้ม ชอบคอร์สผิวขาว ลูกเล็ก 1-3 ขวบ เพื่อ สามารถพูดคุย ได้อย่างรู้ใจลูกค้ายิ่งขึ้น


วิธีการจัดประเภทลูกค้า


1. เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz (LINE Official Account Manager)
*แนะนำให้ใช้ Google Chrome 


2. คลิก ‘แชท’ เพื่อเข้าสู่หน้าแชท
สามารถพิมพ์ข้อความ ส่งสติกเกอร์ หรือส่งไฟล์ เพื่อโต้ตอบกับลูกค้าได้เลย โดยสามารถส่งได้ทั้งไฟล์ภาพ วิดิโอ PDF หรือ Powerpoint ได้


3. คลิก ‘แชทของลูกค้า’ ที่ต้องการตั้งสถานะ


4. เลือก ‘ตั้งสถานะ’ ให้ลูกค้า
สามารถตั้งค่าเป็น ‘ต้องดำเนินการ’ หากอยู่ระหว่างการดำเนินการ หรือเลือก ‘ดำเนินการแล้ว’ หากการดำเนินการได้เสร็จสิ้นแล้ว


5. คลิก ‘ทั้งหมด’ เพื่อแสดงสถานะต่าง ๆ
แล้วเลือกตอบแชทตามสถานะของลูกค้าได้โดยห้องแชทจะแสดงเฉพาะสถานะที่ถูกเลือก




1. คลิกที่แชทของลูกค้าที่ต้องการติด Tag

2. คลิก ‘ไอคอนดินสอด้านล่าง’ หากต้องการติด Tag เพื่อตั้งสถานะลูกค้าหรือจัดกลุ่ม
*การติด Tag ได้ไม่เกิน 10 แท็กต่อคน

3. สร้าง Tag ใหม่ได้ด้วยกการพิมพ์ในช่อง
ใส่ Tag แล้วกด Enter หรือเลือกจาก Tag ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ก็ได้
*การสร้าง Tag ได้ไม ่เกิน 200 แท็ก โดยแต่ละแท็กมีความยาวไม่เกิน 20 ตัวอักษร


การค้นหาตาม Chat Tag


1. คลิกในช่อง ‘ค้นหา’


2. พิม Chat Tag ที่ต้องการค้นหา
ห้องแชท จะแสดงเฉพาะลูกค้าที่ถูกติด Tag นั้นไว้ 

การจัดเก็บประวัติแชท



1. คลิกที่แชทของลูกค้าที่ต้องการจัดเก็บประวัติแชท

2. คลิก ‘จุด 3 จุด’

3. เลือก ‘ดาวน์โหลดประวัติการแชท’
โดยประวัติการแชทที่เป็นตัวอักษรและสติกเกอร์จะถูกเก็บไว้ 2 เดือน ส่วนรูปภาพและวีดีโอจะถูก เก็บไว้สองสัปดาห์ในรูปแบบไฟล์ csv



1. คลิกที่แชทของลูกค้าที่ต้องการบันทึกข้อมูล

2. คลิก ‘+’ ในช่องโน้ต (Note)

3. บันทึกข้อมูล
สามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ได้โดยข้อมูลในโน้ตจะแสดงเฉพาะแอดมินเท่านั้น


ตอบลูกค้ารวดเร็วด้วย Quick Reply


1. คลิก ‘ตั้งค่าแชท’


2. คลิก ‘ข้อความตอบกลับ’ ในหน้าตั้งค่าแชท


3. คลิก ‘+ สร้างใหม่’


4. สร้างข้อความตอบกลับ
สามารถกำหนดให้แสดง ‘ชื่อผู้ใช้ (Display name)’ ในข้อความได้


วิธีเพิ่มแอดมิน ช่วยดูแลลูกค้า


เพิ่มแอดมินช่วยดูแลลูกค้า


ถ้าตอบคนเดียวไม่ทัน อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนาน เพิ่มเพื่อน หรือ พนักงานให้มาเป็นแอดมินช่วยตอบแชท หรือจัดการโพสต์ต่างๆ ดีกว่า โดยแอดมินจะมีด้วยกัน 4 สิทธิ์แต่ละสิทธิ์จะสามารถเข้าถึงและจัดการ ข้อมูล ต่างกัน สามารถเลือกประเภทแอดมินที่เหมาะสมให้กับพนักงาน หรือเพื่อนที่ต้องการเพิ่มเข้ามาช่วยดูแล บัญชีได้เลย

วิธีการเพิ่มแอดมิน


1. เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz (LINE Official Account Manager)
*แนะนำให้ใช้ Google Chrome


2. คลิก ‘ตั้งค่า’


3. คลิก ‘การจัดการสิทธิ์’
เพื่อเพิ่มแอดมินหรือจัดการสิทธิ์ในการใช้งาน LINE Official Account


4. คลิก ‘เพิ่มสมาชิก’


5. เลือก ‘ประเภทสิทธิ์’
เพื่อมอบสิทธิ์ให้เพื่อนเพื่อเป็นแอดมินในการใช้งาน LINE Official Account



ทำความรูู้จักกับแอดมินแต่ละประเภท


แอดมิน
สามารถจัดการเพิ่มหรือลบแอดมินอื่น และเข้าถึง ฟีเจอร์ทุกอย่างได้ และสามารถสมัครแพ็กเกจ รายเดือน และชื่อ Premium ID ได้
โอเปอร์เรเตอร์
สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ได้ ยกเว้นการจัดการเพิ่ม หรือลบแอดมินอื่น
โอเปอเรเตอร์(ไม่มีสิทธิ์บรอดแคสต์)
สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ได้ ยกเว้นการจัดการเพิ่ม หรือลบแอดมินอื่น และการส่งข้อความ
โอเปอเรเตอร์(ไม่มีสิทธิ์ดูข้อมูลเชิงลึก)
สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ได้ ยกเว้นการจัดการเพิ่ม หรือลบแอดมินอื่น และการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก

6. คลิก ‘ออกลิงก์’
คลิก ‘ออกลิงก์’ แล้วคัดลอกลิงก์ URL ที่ได้ส่งให้เพื่อนหรือคนที่เราอยากให้เป็นแอดมินผ่าน LINE, อีเมล หรืออื่น ๆ เมื่อเพื่อนกดลิงก์แอดมินดังกล่าว ระบบจะล็อกอินให้อัตโนมัติถือว่าการเป็นแอดมินเสร็จสมบูรณ์
* ลิงก์จะมีอายุใช้งาน 24 ชั่วโมง หลังถูกปล่อยออกมา และ 1 ลิงก์ สามารถกดรับสิทธิ์เพื่อเป็นแอดมิน ได้เพียงครั้ง เดียวเท่านั้น


วิธีการเปิด Chat Bot


1. เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz (LINE Official Account Manager)
*แนะนำให้ใช้ Google Chrome

2. คลิก ‘ข้อความอัตโนมัติ’

3. คลิก ‘สร้างใหม่’


4. ใส่รายละเอียดของข้อความตอบกลับอัตโนมัติ จากนั้นคลิก ‘บันทึกการแก้ไข’


ชื่อ : ชื่อหัวข้อข้อความตอบกลับอัตโนมัติแต่ชื่อนี้จะไม่แสดงต่อผู้ใช้งาน
สถานะ : ตั้ง ‘เปิด’ เมื่อต้องการเปิดใช้งานข้อความอัตโนมัตินี้
ตั้งเวลาส่งข้อความ : กําหนดวันและเวลาในการใช้งานข้อความตอบอัตโนมัติโดยข้อความจะถูกส่งไปหาลูกค้าเฉพาะ ในระยะเวลาที่ต้งไว้เท่าน้น ควรต้งให้ระบบตอบกลับทํางานนอกเวลาทําการ เพื่อสลับกับการตอบแชทโดยแอดมิน
คีย์เวิร์ด : ใส่คีย์เวิร์ดแล้วกด “Enter”จะเป็นการบันทึกคีย์เวิร์ดไว้คีย์เวิร์ดต้องไม่เกิน 30 ตัวอักษร สามารถ ใส่คีย์เวิร์ดได้สูงสุด 51 คํา (ไม่สามารถใส่อีโมติคอนได้)


กล่องคำตอบ : ใส่ข้อความที่ต้องการตอบตามแต่ละคีย์เวิร์ด โดยเพิ่มกล่องข้อความได้สูงสุด 5 กล่อง แนะนําให้ใส่ไม่เกิน 3 กล่องข้อความ เพื่อให้น่าอ่านและคอนเทนต์ทั้งหมดรวมอยู่บนหน้าจอเดียว

นอกจากใส่ข้อความแล้ว ก็ยังสามารถใส่ ‘ชื่อผู้ใช้’ หรือ (display name) ลงในข้อความด้วย เมื่อตอบข้อความ ระบบจะส่งข้อความที่ดึงชื่อลูกค้ามีแชทมาโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกข้อความตอบกลับอัตโนมัติได้ 10 ประเภทเนื้อหา
1. ข้อความตัวอักษร
2. สติกเกอร์
3. รูปภาพ
4. คูปอง
5. ริชเมสเสจ
6. ริชวิดีโอเมสเสจ
7. วิดีโอ
8. ข้อความเสียง
9. แบบสอบถาม
10.การ์ดเมสเสจ


การสร้าง Chat Tag



1. คลิกที่แชทของลูกค้าที่ต้องการติด Tag

2. คลิก ‘ไอคอนดินสอด้านล่าง’ หากต้องการติด Tag เพื่อตั้งสถานะลูกค้าหรือจัดกลุ่ม
*การติด Tag ได้ไม่เกิน 10 แท็กต่อคน

3. สร้าง Tag ใหม่ได้ด้วยกการพิมพ์ในช่อง
ใส่ Tag แล้วกด Enter หรือเลือกจาก Tag ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ก็ได้
*การสร้าง Tag ได้ไม ่เกิน 200 แท็ก โดยแต่ละแท็กมีความยาวไม่เกิน 20 ตัวอักษร


การค้นหาตาม Chat Tag

1. คลิกในช่อง ‘ค้นหา’

2. พิม Chat Tag ที่ต้องการค้นหา
ห้องแชท จะแสดงเฉพาะลูกค้าที่ถูกติด Tag นั้นไว้ 

การจัดเก็บประวัติแชท



1. คลิกที่แชทของลูกค้าที่ต้องการจัดเก็บประวัติแชท

2. คลิก ‘จุด 3 จุด’

3. เลือก ‘ดาวน์โหลดประวัติการแชท’
โดยประวัติการแชทที่เป็นตัวอักษรและสติกเกอร์จะถูกเก็บไว้ 2 เดือน ส่วนรูปภาพและวีดีโอจะถูก เก็บไว้สองสัปดาห์ในรูปแบบไฟล์ csv


บันทึกข้อมูลลูกค้าด้วย Note


1. คลิกที่แชทของลูกค้าที่ต้องการบันทึกข้อมูล

2. คลิก ‘+’ ในช่องโน้ต (Note)

3. บันทึกข้อมูล
สามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ได้โดยข้อมูลในโน้ตจะแสดงเฉพาะแอดมินเท่านั้น


ตอบลูกค้ารวดเร็วด้วย Quick Reply


1. คลิก ‘ตั้งค่าแชท’


2. คลิก ‘ข้อความตอบกลับ’ ในหน้าตั้งค่าแชท


3. คลิก ‘+ สร้างใหม่’


4. สร้างข้อความตอบกลับ
สามารถกำหนดให้แสดง ‘ชื่อผู้ใช้ (Display name)’ ในข้อความได้


วิธีเพิ่มแอดมิน ช่วยดูแลลูกค้า


เพิ่มแอดมินช่วยดูแลลูกค้า


ถ้าตอบคนเดียวไม่ทัน อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนาน เพิ่มเพื่อน หรือ พนักงานให้มาเป็นแอดมินช่วยตอบแชท หรือจัดการโพสต์ต่างๆ ดีกว่า โดยแอดมินจะมีด้วยกัน 4 สิทธิ์แต่ละสิทธิ์จะสามารถเข้าถึงและจัดการ ข้อมูล ต่างกัน สามารถเลือกประเภทแอดมินที่เหมาะสมให้กับพนักงาน หรือเพื่อนที่ต้องการเพิ่มเข้ามาช่วยดูแล บัญชีได้เลย

วิธีการเพิ่มแอดมิน


1. เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz (LINE Official Account Manager)
*แนะนำให้ใช้ Google Chrome

2. คลิก ‘ตั้งค่า’


3. คลิก ‘การจัดการสิทธิ์’
เพื่อเพิ่มแอดมินหรือจัดการสิทธิ์ในการใช้งาน LINE Official Account

4. คลิก ‘เพิ่มสมาชิก’

5. เลือก ‘ประเภทสิทธิ์’
เพื่อมอบสิทธิ์ให้เพื่อนเพื่อเป็นแอดมินในการใช้งานLINE Official Account



ทำความรูู้จักกับแอดมินแต่ละประเภท


แอดมิน
สามารถจัดการเพิ่มหรือลบแอดมินอื่น และเข้าถึง ฟีเจอร์ทุกอย่างได้ และสามารถสมัครแพ็กเกจ รายเดือน และชื่อ Premium ID ได้
โอเปอร์เรเตอร์
สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ได้ ยกเว้นการจัดการเพิ่ม หรือลบแอดมินอื่น
โอเปอเรเตอร์(ไม่มีสิทธิ์บรอดแคสต์)
สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ได้ ยกเว้นการจัดการเพิ่ม หรือลบแอดมินอื่น และการส่งข้อความ
โอเปอเรเตอร์(ไม่มีสิทธิ์ดูข้อมูลเชิงลึก)
สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ได้ ยกเว้นการจัดการเพิ่ม หรือลบแอดมินอื่น และการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก


6. คลิก ‘ออกลิงก์’
คลิก ‘ออกลิงก์’ แล้วคัดลอกลิงก์ URLที่ได้ส่งให้เพื่อนหรือคนที่เราอยากให้เป็นแอดมินผ่าน LINE, อีเมล หรืออื่น ๆ เมื่อเพื่อนกดลิงก์แอดมินดังกล่าว ระบบจะล็อกอินให้อัตโนมัติถือว่าการเป็นแอดมินเสร็จสมบูรณ์
* ลิงก์จะมีอายุใช้งาน 24 ชั่วโมง หลังถูกปล่อยออกมา และ 1 ลิงก์ สามารถกดรับสิทธิ์เพื่อเป็นแอดมิน ได้เพียงครั้ง เดียวเท่านั้น

ดูแลลูกค้าตลอด 24 ชม. ด้วย Chat Bot หรือ ระบบตอบกลับอัตโนมัติ

ดูแลลูกค้าตลอด 24 ชม. ด้วย Chat Bot หรือ ระบบตอบกลับอัตโนมัติ


ระบบตอบกลับอัตโนมัติเป็นเหมือน Chat Bot ที่สามารถสร้างเองได้ง่าย ๆ ซึ่ง จะช่วยตอบคำถามลูกค้าของคุณนอกเวลาทำการ โดยระบบจะตอบกลับทันทีที่ลูก ค้าพิมคียเวิร์ดที่เรากำหนดไว้เข้ามา
แม้จะไม่มีแอดมินตอบแชทช่วงนอกเวลาทำการ ลูกค้าก็ยังได้รับบริการอย่างดี เมื่อมี Chat Bot แบบนี้ทำให้เหมือนร้านคุณเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง ช่วย สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อย่างง่าย ๆ


วิธีการเปิด Chat Bot


1. เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz (LINE Official Account Manager)
*แนะนำให้ใช้ Google Chrome

2. คลิก ‘ข้อความอัตโนมัติ’

3. คลิก ‘สร้างใหม่’


4. ใส่รายละเอียดของข้อความตอบกลับอัตโนมัติ จากนั้นคลิก ‘บันทึกการแก้ไข’


ชื่อ : ชื่อหัวข้อข้อความตอบกลับอัตโนมัติแต่ชื่อนี้จะไม่แสดงต่อผู้ใช้งาน
สถานะ : ตั้ง ‘เปิด’ เมื่อต้องการเปิดใช้งานข้อความอัตโนมัตินี้
ตั้งเวลาส่งข้อความ : กําหนดวันและเวลาในการใช้งานข้อความตอบอัตโนมัติโดยข้อความจะถูกส่งไปหาลูกค้าเฉพาะ ในระยะเวลาที่ต้งไว้เท่าน้น ควรต้งให้ระบบตอบกลับทํางานนอกเวลาทําการ เพื่อสลับกับการตอบแชทโดยแอดมิน
คีย์เวิร์ด : ใส่คีย์เวิร์ดแล้วกด “Enter”จะเป็นการบันทึกคีย์เวิร์ดไว้คีย์เวิร์ดต้องไม่เกิน 30 ตัวอักษร สามารถ ใส่คีย์เวิร์ดได้สูงสุด 51 คํา (ไม่สามารถใส่อีโมติคอนได้)


กล่องคำตอบ : ใส่ข้อความที่ต้องการตอบตามแต่ละคีย์เวิร์ด โดยเพิ่มกล่องข้อความได้สูงสุด 5 กล่อง แนะนําให้ใส่ไม่เกิน 3 กล่องข้อความ เพื่อให้น่าอ่านและคอนเทนต์ทั้งหมดรวมอยู่บนหน้าจอเดียว

นอกจากใส่ข้อความแล้ว ก็ยังสามารถใส่ ‘ชื่อผู้ใช้’ หรือ (display name) ลงในข้อความด้วย เมื่อตอบข้อความ ระบบจะส่งข้อความที่ดึงชื่อลูกค้ามีแชทมาโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกข้อความตอบกลับอัตโนมัติได้ 10 ประเภทเนื้อหา
1. ข้อความตัวอักษร
2. สติกเกอร์
3. รูปภาพ
4. คูปอง
5. ริชเมสเสจ
6. ริชวิดีโอเมสเสจ
7. วิดีโอ
8. ข้อความเสียง
9. แบบสอบถาม
10.การ์ดเมสเสจ
Was this helpful?
{{ messageFromTheServer.text }}

Related Content