LINE Official Account คือ บัญชีทางการของ LINE สำหรับธุรกิจเพื่อช่วยให้ร้านค้าสามารถสร้างฐานผู้ติดตาม สื่อสารและส่งข้อมูลกิจกรรมทางการขายหรือโปรโมชั่นไปยังลูกค้าผ่านทางไลน์ ตอบโจทย์ทุกธุรกิจด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมทั้งช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารจัดการการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การสร้างข้อความทักทาย, ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ, คูปองและบัตรสะสมแต้ม, การแชทแบบ 1-1, หรือการบรอดแคลต์หาผู้ติดตาม เป็นต้น
แนะนำสำหรับใช้ได้แก่บนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager และแอปพลิเคชันในมือถือ ดังต่อไปนี้
แอปพลิเคชัน
ระบบปฏิบัติการ: Android เวอร์ชัน 6 ขึ้นไป, iOS เวอร์ชัน 13 ขึ้นไป
*ไม่รองรับการใช้งานบนแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android
เว็บไซต์ LINE Official Account Manager
ระบบปฏิบัติการ: Windows OS, Mac OS
เบราว์เซอร์: เวอร์ชันล่าสุดของ Chrome, Safari, Firefox, Edge
*ไม่รองรับการใช้งานบน Internet Explorer
การจัดการบนเว็บไซต์
บัญชี LINE Official Account สามารถเปิดได้ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ได้ โดยสามารถเปิดผ่านเว็บไซต์ได้ผ่านขั้นตอนต่อไปนี้
1. เข้าไปที่ https://lineforbusiness.com/th/ > Product & Services > LINE Official Account > แล้วเลือก “สร้างบัญชี OA”
2. เลือก เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE หรือ เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีทางธุรกิจ หรือ สร้างบัญชีใหม่
2.1. กรณีเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE - สามารถล็อกอินด้วยบัญชี LINE ที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันได้
2.2. กรณีเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจ – สามารถลงทะเบียนด้วยอีเมลที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันได้
2.3. กรณีที่ต้องการใช้อีเมลของที่ทำงาน หรือไม่ต้องการใช้บัญชี LINE เลือก “สร้างบัญชี”
เลือก “ลงทะเบียนด้วยบัญชี LINE” หรือ “ลงทะเบียนด้วยอีเมล”
หากเลือก ลงทะเบียนด้วยอีเมล กรอกที่อยู่อีเมลของคุณ แล้วคลิก “ส่งลิงก์ลงทะเบียนใช้บริการ”
อีเมลจะถูกส่งไปยังที่อยู่อีเมลที่คุณกรอกไว้ในหัวข้อ LINE Business ID: ลิงก์ลงทะเบียนใช้บริการ
โปรดคลิก “ลงทะเบียนใช้บริการ” ในอีเมลที่ส่ง
หลังจากที่คุณตั้งค่าชื่อและรหัสผ่านแล้ว โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้บริการให้เรียบร้อยก่อนกด “ลงทะเบียน”
ตรวจสอบรายละเอียดการสมัคร หากไม่พบข้อความผิดพลาด เลือก “เสร็จสิ้น”
เมื่อการสมัครเรียบร้อยแล้ว ให้เลือก “เริ่มใช้บริการ”
3. สร้างบัญชี LINE Official Account
โปรดระบุข้อมูลตามความเป็นจริง และ ยอมรับ ข้อตกลงการใช้บริการ เมื่อคุณเลือก “ตกลง” ระบบจะยืนยันการสมัครบัญชีของคุณ
4. คุณสามารถเข้าถึงหน้าต่างจัดการ LINE Official Account Manager ได้ทันทีหลังจากสมัครเรียบร้อย
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
บัญชี LINE Official Account สามารถเปิดได้ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยสามารถเปิดผ่านแอปพลิเคชันได้ผ่านขั้นตอนต่อไปนี้
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE Official Account ผ่าน Apple store หรือ Google Play store
*แนะนำให้สร้าง LINE Official Account ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ คลิกที่นี่ เพื่อสร้างบัญชีธุรกิจ
2. เปิดแอปพลิเคชัน > คลิก ลงทะเบียนด้วยบัญชี LINE หรือ ลงทะเบียนด้วยบัญชีธุรกิจ
กรณีเลือก ลงทะเบียน & เข้าสู่ระบบด้วย LINE
กรณีเลือก “ลงทะเบียน & เข้าสู่ระบบด้วยอีเมล” คุณสามารเลือกเข้าสู่ระบบได้ผ่าน บัญชีธุรกิจ และ บัญชี LINE หากคุณเลือก บัญชีธุรกิจ
คุณสามารถเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและรหัสผ่านของคุณที่ได้สมัครไว้
หากคุณเลือก บัญชี LINE
3.เลือก “สร้างบัญชี” หลังยืนยันตัวตน ระบบจะพาคุณเข้าสู่หน้าสร้างบัญชี
กรุณาใส่ข้อมูลบัญชี แล้วเลือก “ต่อไป” แล้วอ่านข้อกำหนดการใช้บริการแล้วเลือก “สร้างบัญชี”
4. เมื่อคุณสร้างบัญชีเสร็จสิ้นแล้ว ระบบจะพาคุณเข้าสู่หน้าจัดการบัญชี
หากต้องการสร้างบัญชีเพิ่มสามารถทำได้โดยเลือก “☰“ ด้านมุมบนซ้ายมือ แล้วเลือก “สร้างบัญชี”
ประโยชน์ของการเป็นบัญชีรับรอง
คุณสามารถรับรองบัญชีทางการได้ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
สามารถ สมัครได้ผ่าน manager.line.biz หรือแอปพลิเคชัน LINE Official Account แล้วเลือก “รับรองบัญชี”
หากต้องการอัปเกรดบัญชีทั่วไปเป็นบัญชีรับรอง สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
การจัดการบนเว็บไซต์
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz (LINE Official Account Manager)
2. เลือก “เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE”
3. หากมีหลายรายชื่อหลายบัญชี เลือก “บัญชีที่ต้องการเริ่มใช้งาน:
4. เข้าไปที่ “ตั้งค่า” มุมบนขวามือ
5. เลือก “รับรองบัญชี”
5. กรอก ข้อมูลธุรกิจ แล้วกด “ตกลง”
กรอกข้อมูลบัญชี ประเภทธุรกิจ/การสมัคร รายละเอียดธุรกิจ ชื่อธุรกิจที่จดทะเบียน
ข้อมูลผู้สมัคร(ชื่อบุคคลธรรมดาเท่านั้น) โดยข้อมูลนั้นต้องเป็นข้อมูลเดียวกับชื่อธุรกิจบัญชี
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
วิธีการยืนยันบัญชีรับรอง
คุณสามารถรับรองบัญชีทางการได้ผ่านทั้งแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.เข้าไปที่ “ตั้งค่า”
2.เลือก “บัญชี” > “สถานการณ์รับรอง” > “รับรองบัญชี”
3. กรอก ข้อมูลธุรกิจ
กรอกข้อมูลบัญชี ประเภทธุรกิจ/การสมัคร รายละเอียดธุรกิจ ชื่อธุรกิจที่จดทะเบียน
ข้อมูลผู้สมัคร(ชื่อบุคคลธรรมดาเท่านั้น) โดยข้อมูลนั้นต้องเป็นข้อมูลเดียวกับชื่อธุรกิจบัญชี
4. ตรวจสอบข้อมูลการสมัครแล้วกด ตกลง
5. เสร็จสิ้นการสมัครบัญชีรับรอง รอระบบพิจรณาคำร้อง 2-3 วันทำการ
หากผ่านการพิจรณาจะได้รับอีเมลแจ้งชำระเงินค่าธรรมเนียมยื่นขอบัญชีรับรอง 888 บาท และเมื่อชำระเงินเรียบร้อย กรุณารออีเมลยืนยันการปรับโล่ภายใน 1-2 วันทำการ
6. เพียงเท่านี้บัญชีของคุณเป็นบัญชีรับรองเรียบร้อย
การจัดการบนเว็บไซต์
หน้าหลักบัญชี
ส่วนบนของหน้าต่างถูกจัดการด้วย 7 แถบ
หน้าหลัก | ตั้งค่าบัญชีเบื้องต้น เช่น ส่งข้อความ |
---|---|
ข้อมูลเชิงลึก | คุณสามารถเลือกแสดงข้อมูลสถิติของแต่ละเมนูได้ คุณสามารถส่งข้อความให้กับผู้ใช้แต่ละคนได้ |
แชท | คุณสามารถส่งข้อความให้กับผู้ใช้แต่ละคนได้ |
โปรไฟล์ | คุณสามารถแก้ไขหน้าโปรไฟล์ได้ คุณสามารถแก้ไขหน้า LINE VOOM Studio ได้ |
LINE VOOM | คุณสามารถแก้ไขหน้า LINE VOOM Studio ได้ |
โปรแกรมเสริม | คุณสามารถไปยังหน้าต่างเครื่องมือโปรแกรมเสริมที่ได้เปิดใช้งานสำหรับ LINE Official Account ของคุณ |
ลำดับที่ | รายละเอียด |
---|---|
1 |
เมนูที่แสดงในหน้าหลักของหน้าต่างบัญชี คุณสามารถเลือกแก้ไขในแต่ละเมนูได้ โดยคลิกแต่ละเมนูเพื่อดูรายละเอียด |
2 | คุณสามารถแก้ไขโปรไฟล์ได้ เช่น รูปภาพโปรไฟล์ ปลั๊กอินหน้าโปรไฟล์ |
3 | ประกาศเกี่ยวกับการตั้งค่าบัญชีจะถูกแสดงในส่วนนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยเลือกหัวข้อที่ต้องการ |
4 |
เมื่อคลิกแล้วระบบจะพาคุณไปยังหน้าสร้างข้อความและ |
5 |
คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนได้ โดยเปลี่ยนหัวข้อได้ระหว่าง “แนวโน้ม” “ช่องทางการเพิ่มเพื่อน” และ “ข้อมูลคุณสมบัติ”
ช่องทางการเพิ่มเพื่อน: คุณสามารถเลือกแสดงข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการเพิ่มเพื่อนสำหรับการเพิ่มเพื่อนได้ ข้อมูลคุณสมบัติ: คุณสามารถดูสัดส่วนของเพื่อนได้ *ข้อมูลในส่วนนี้ใช้เวลาไม่เกิน 3 วันในการอัปเดทข้อมูล ข้อมูลที่แสดงทั้งหมดจึงเป็นข้อมูลของ 3 วันที่ผ่านมา |
6 |
การ |
7 | คุณสามารถสร้างหรือแก้ไขบรอดแคสต์ได้ผ่านส่วนนี้ |
8 | คุณสามารถตรวจสอบเนื้อหาที่เกี่ยวกับข้อมูลการช่วยเหลือเกี่ยวกับ LINE ได้ รวมถึงข้อแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน |
9 | คุณสามารถสร้างข้อความใหม่หรือดูแชทล่าสุดได้ในส่วนนี้ |
10 | คุณสามารถโปรโมทการเพิ่มเพื่อนได้โดยสร้างลิงก์ คิวอาร์โค้ด ปุ่ม และ โปสเตอร์ ผ่านส่วนนี้ได้ |
ส่วนหัว
ข้อมูลพื้นฐานของบัญชีจะถูกแสดงในส่วนนี้ คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ เช่น เชื่อบัญชี จำนวนเพื่อน
1 | ส่วนของรูปภาพและชื่อบัญชีที่แสดงบนหน้าโปรไฟล์ |
2 | Account ID |
3 | จำนวนเพื่อน |
4 | แสดงสถานการณ์ตอบแชท (เปิด/ปิด) |
5 |
เมื่อกดเข้าไปจะเจอข้อมูลต่อไปนี้
รายชื่อบัญชี : บัญชี LINE Official Account ที่บัญชี LINE ของคุณมีสิทธิในการเข้าถึง
รายชื่อกลุ่ม : กลุ่มบัญชีทางการที่คุณได้ตั้งค่าไว้
|
6 |
คุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
|
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
คุณสามารถจัดการแต่ละเมนูได้ผ่านหน้าหลักบัญชี
ตั้งค่าผู้ใช้
คุณสามารถสลับบัญชีเพื่อใช้งานผ่านหน้าต่างรายชื่อบัญชี นอกจากนี้คุณสามารถเปลี่ยนภาษาได้โดยเข้าไปที่เมนู “ตั้งค่าผู้ใช้”
การแจ้งเตือน: ตั้งค่าการแจ้งเตือนเดี่ยวกับข้อความ แชท และอื่น ๆ ได้
แชท: ตั้งค่าการใช้งานระหว่างการส่งข้อความ
โทร: ตั้งค่าการโทร การแจ้ง เตือน และคุณภาพของการโทรได้
คุณภาพรูป: สามารถเลือกคความละเอียดของรูปที่คุณส่งได้ การตั้งค่านี้จะมีผลต่อรูปข้อความในบรอดแคสต์, LINE VOOM และคูปอง
ขนาดตัวอักษร: สามารถเลือกขนาดของตัวอักษรที่แสดงในแอปพลิเคชันได้ โดยค่าเริ่มต้นจะเป็นขนาดเล็ก
โปรไฟล์ผู้ใช้: ตั้งค่าบัญชีธุรกิจ (หากต้องการเปลี่ยนภาษา กรุณาเข้าไปตั้งค่าภาษาในบัญชีธุรกิจนี้)
สลับบัญชีผู้ใช้
เลือก ”☰” ที่มุมบนซ้ายมือ รายชื่อบัญชีที่คุณมีสิทธิ์ในการจัดการจะถูกแสดงในหน้านี้
กรณีที่คุณมีมากกว่า 5 บัญชี ให้เลือก “แสดงทั้งหมด” เพื่อแสดงบัญชีที่เหลือ
LINE Official Account สามารถล็อกอินเข้าใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์ (LINE Official Account Manager) หรือแอปพลิเคชัน
ล็อกอินเข้าใช้งานบนแอปพลิเคชัน
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Official Account
2. ล็อคอินด้วยบัญชีไลน์ หรือ บัญชีธุรกิจ
ล็อกอินเข้าใช้งานบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เข้า manager.line.biz
2. ล็อคอินด้วยบัญชีไลน์ หรือ บัญชีธุรกิจ
LINE Business ID คือ ระบบการยืนยันตัวตนที่สามารถล็อกอินบริการต่าง ๆ ของ LINE สําหรับนักธุรกิจและ
นักพัฒนาได้ด้วย ID เดียวกัน คุณสามารถล็อกอินเข้า LINE Business ID ได้ด้วยบัญชีLINE หรือบัญชีธุรกิจ
(ล็อกอินด้วยอีเมลแอดเดรส)
กรณีที่ลืมรหัสผ่าน คุณไม่สามารถตรวจสอบรหัสผ่านที่ลงทะเบียนเอาไว ้ได้
กรุณาเปลี่ยนรหัสผ่านจาก LINE บนสมารท์ โฟน ตามขั้
นตอนต่อไปนี้
*กรุณาระมัดระวังอย่าลืมรหัสผ่านใหม่
1. เปิดแอปพลิเคชัน LINE บนสมาร์ทโฟน
2. เลือกที่แท็บ "หน้าหลัก" > "ตงั้ ค่า" (ไอคอนรปู เกียร)์ > "บัญชี"
3. เลือกที่ "รหัสผ่าน"
4. กรอกรหัสผ่านใหม่ แล้วเลือกที่ "ใช้รหัสผ่านนี้"
*บางครงั้ อาจต้องปลดล็อคอุปกรณ์ด้วย
ตั้งค่าบัญชี
การจัดการบนเว็บไซต์
ในเมนูนี้คุณสามารถตั้งค่าข้อมูลเบื้องต้นได้
โดยเข้าไปที่ “ตั้งค่า” > ”ตั้งค่าบัญชี”
1 | ชื่อบัญชี สำหรับบัญชีทั่วไปจะสามารถเปลี่ยนชื่อบัญชีได้ |
2 |
สามารถตั้งค่าข้อความสถานะที่จะแสดงอยู่ส่วนล่างของชื่อบัญชีได้
“ข้อความสถานะสามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง” |
3 |
แก้ไขรูปภาพโปรไฟล์
ขนาดรูป 640 x 640 พิกเซล และไฟล์ไม่เกิน 3MB (เมกะไบต์) *รูปภาพโปรไฟล์สามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง |
4 | ดูตัวอย่างหน้าโปรไฟล์ |
5 | แสดงสถานการณ์การรับรองบัญชี (สำหรับบัญชีทั่วไปสามารถขอสถานการณ์รับรองได้ที่นี่) |
6 | ตำแหน่งที่ตั้งบัญชีจะส่งผลต่อการแสดงผลการค้นหาและคูปอง |
7 | ตั้งค่าการอนุญาตให้เข้าร่วมกลุ่มหรือแชท |
8 | ตั้งค่าการเปิดรับรูป วิดีโอ ไฟล์ทางแชท |
9 | เบสิค ID ไอดีเบื้องต้นสำหรับแต่ละบัญชี |
10 | พรีเมียม ID ไอดีแบบกำหนดเองจากการซื้อแพ็กเกจ |
11 |
ประเทศที่บริษัทหรือบุคคลได้ลงทะเบียนไว้จะเป็นประเทศที่ตั้งบัญชี LINE Official Account (ประเทศที่ตั้งค่าไว้จะแสดง
ในหน้าจอที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดูได้ เช่น หน้าโปรไฟล์บัญชีทางการ) |
12 |
เลือกวัตถุประสงค์การใช้งานของบัญชี โดยสามารถเลือกได้หลายรายการ |
13 |
องค์กร สามารถสร้างและแชร์กลุ่มเป้าหมายด้วยการเก็บและรวบรวมข้อมูลได้ |
การจัดการแอปพลิเคชัน
ในเมนูนี้คุณสามารถตั้งค่าข้อมูลเบื้องต้นได้
โดยเข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “บัญชี”
1 |
**แก้ไขรูปภาพโปรไฟล์** ขนาดรูป 640 x 640 พิกเซล และไฟล์ไม่เกิน 3MB (เมกะไบต์) *รูปภาพโปรไฟล์สามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง |
2 |
สามารถตั้งค่าข้อความสถานะที่จะแสดงอยู่ส่วนล่างของชื่อบัญชีได้ *ข้อความสถานะสามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง |
3 | แสดงสถานการณ์การรับรองบัญชี |
4 | ตำแหน่งที่ตั้งบัญชีจะส่งผลต่อการแสดงผลการค้นหาและคูปอง |
5 | ตรวจสอบ เบสิค ID และ พรีเมียม ID |
6 | เลือกวัตถุประสงค์การใช้งานของบัญชี โดยสามารถเลือกได้หลายรายการ |
7 | องค์กร สามารถสร้างและแชร์กลุ่มเป้าหมายด้วยการเก็บและรวบรวมข้อมูลได้ |
8 | ประเทศที่บริษัทหรือบุคคลได้ลงทะเบียนไว้จะเป็นประเทศที่ตั้งบัญชี LINE Official Account (ประเทศที่ตั้งค่าไว้จะแสดงในหน้าจอที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดูได้ เช่น หน้าโปร ไฟล์บัญชีทางการ) |
9 | ตั้งค่าการอนุญาตให้เข้าร่วมกลุ่มหรือแชท |
10 | ตั้งค่าการเปิดรับรูป วิดีโอ ไฟล์ทางแชท |
การจัดการบนเว็บไซต์
ในเมนูนี้คุณสามารถเพิ่มสมาชิกเพื่อมีสิทธิเข้าถึงในการจัดการบัญชีของคุณได้ หรือ เปลี่ยนแปลงและแก้ไขสมาชิก โดยสมาชิกหลายคนสามารถแก้ไขหน้าการจัดการได้พร้อมกัน สำหรับสมาชิกที่มีสิทธิในการจัดการบัญชีจะมีสิทธิในการลบสมาชิกคนอื่นออกจากสิทธิได้
วิธีจัดการสิทธิ์
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “การจัดการสิทธิ์”
เลือก “เพิ่มสมาชิก” > เลือก ประเภทสิทธิ์ ที่ต้องการให้สมาชิก > เลือก “สร้างลิงก์”
*ลิงก์ที่สร้างขึ้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว ภายใน 24 ชั่วโมง
ตรวจสอบรายชื่อกลุ่ม
คุณสามารถตรวจสอบรายชื่อกลุ่มบัญชี LINE Official Account ได้ ซึ่งสมาชิกกลุ่มสามารถแก้ไขการตั้งค่าของแต่ละบัญชีได้เช่นกัน
เข้าไปที่ ”ตั้งค่า” > “การจัดการสิทธิ์” > “กลุ่ม”
รายชื่อกลุ่มที่ได้ตั้งค่าไว้จะถูกแสดงในหน้านี้
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
ในเมนูนี้คุณสามารถเพิ่มสมาชิกเพื่อมีสิทธิเข้าถึงในการจัดการบัญชีของคุณได้ หรือ เปลี่ยนแปลงและแก้ไขสมาชิก โดยสมาชิกหลายคนสามารถแก้ไขหน้าการจัดการ สำหรับสมาชิกที่มีสิทธิในการจัดการบัญชีจะมีสิทธิในการลบสมาชิกคนอื่นออกจากสิทธิได้
วิธีจัดการสิทธิ์
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “การจัดการสิทธิ์”
เลือก “เพิ่มสมาชิก” > เลือก ประเภทสิทธิ์ ที่ต้องการให้สมาชิก > เลือก “สร้างลิงก์” หรือส่งผ่าน “LINE”
*ลิงก์ที่สร้างขึ้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว ภายใน 24 ชั่วโมง
การจัดการบนเว็บไซต์
คุณจะสามารถแก้ไข้วิธีการตอบกลับและจัดการรายละเอียดสำหรับข้อความได้
ตั้งค่าการตอบกลับ
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “ตั้งค่าการตอบกลับ”
*หากข้อความทักทายเพื่อนใหม่ถูกปิดการใช้งานไว้ แม้ว่าจะมีการตั้งค่า ข้อความทักทายเพื่อนใหม่จะไม่ถูกส่ง
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
คุณจะสามารถแก้ไข้วิธีการตอบกลับและจัดการรายละเอียดสำหรับข้อความได้
ตั้งค่าการตอบกลับ
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “ข้อความตอบกลับ”
*หากข้อความทักทายเพื่อนใหม่ถูกปิดการใช้งานไว้ แม้ว่าจะมีการตั้งค่า ข้อความทักทายเพื่อนใหม่จะไม่ถูกส่ง
การจัดการบนเว็บไซต์
การตั้งค่าเบื้องต้น
เข้าไปที่เมนู “แชท” > ”ตั้งค่าแชท” > “พื้นฐาน” เพื่อตั้งค่าการแจ้งเตือนเบื้องต้น
ในกรณีที่ไม่ต้องการรับการแจ้งเตือนทางอุปกรณ์ขณะใช้งานเว็บไซต์คุณสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอปพลิเคชัน LINE Official Account > ”การแจ้งเตือน” หรือ “รายชือบัญชี” > “ตั้งค่าผู้ใช้” > “การแจ้งเตือน” > “เลือกการแจ้งเตือน” > ปิดการตั้งค่า ข้อความใหม่ขณะใช้งานเว็บไซต์ LINE Official Account Manger
เวลาการตอบกลับ
เข้าไปที่ ”แชท” > ”ตั้งค่าแชท” > “เวลาตอบข้อความ” คุณสามารถตั้งค่าเวลาการตอบข้อความได้
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
การจัดการการแจ้งเตือน คุณสามารถเลือก เปิด/ปิด การแจ้งเตือนสำหรับแต่ละบัญชีได้
*เมื่อบัญชีถูกสร้างขึ้นใหม่ การแจ้งเตือนจะถูกตั้งค่า เปิด ในค่าเริ่มต้น
การตั้งค่าเบื้องต้น
เลือก “☰” มุมขวาบนในหน้าจอหลัก
1 | ตั้งค่าผู้ใช้ |
2 | ตั้งค่าการแจ้งเตือน |
3 | หากคุณปิดการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนทุกบัญชีจะถูกปิดการแจ้งเตือนสำหรับทุกอุปกรณ์ |
4 | เลือกบัญชีที่ต้องการรับการแจ้งเตือน |
5 |
รายชื่อบัญชีทางการที่เชื่อมต่อกับบัญชีของคุณจะแสดงในส่วนนี้
*หากคุณสร้างบัญชีใหม่ ค่าเริ่มต้นของการแจ้งเตือนจะถูก เปิด |
การจัดการบนเว็บไซต์
คุณสามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลของบริษัทหรือร้านค้าได้ในเมนู “ข้อมูลการลงทะเบียน”
แก้ไขข้อมูลลงทะเบียน
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “ข้อมูลลงทะเบียน”
ข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอคือข้อมูลล่าสุดที่คุณได้ลงทะเบียนไว้ คุณสามารถแก้ไขแต่ละหัวข้อข้อได้โดยเลือก “แก้ไข” หลังจากแก้ไขเสร็จแล้วเลือก “บันทึก”
การจัดการบนเว็บไซต์
แดชบอร์ด
คุณสามารถแก้ไขและตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้และจำนวนข้อความที่ส่งได้ โดยเข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “การใช้งานและการเรียกเก็บเงิน” > “แดชบอร์ด”
หากต้องการแก้ไขลิมิตในการส่งข้อความให้เลือก “แก้ไขลิมิต”
แก้ไขแพ็กเกจรายเดือน
เลือก “แพ็กเกจรายเดือน” ในเมนู “การใช้งานและการเรียกเก็บเงิน” เพื่อตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงเพ็กเกจที่ใช้อยู่
คุณสามารถเพิ่มระดับหรือลดระดับของแพ็กเกจได้ โดยในการเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจนั้นคุณจำเป็นต้องกรอกข้อมูลการชำระเงินให้เรียบร้อยก่อน
ตรวจสอบเกี่ยวกับการซื้อพรีเมียม ID
คุณสามารถตรวจสอบสถานะและซื้อการใช้งานพรีเมียม ID ได้ที่เมนู “พรีเมียม ID”
โดยกรอก ID ที่ต้องการใช้ หาก ID สามารถใช้งานได้ให้เลือก “ซื้อพรีเมียม ID”
*การซื้อพรีเมียม ID จำเป็นต้องระบุช่องทางการชำระเงินให้เรียบร้อย
*ลิงก์ URL และ QR code ที่สร้างเพื่อการเพิ่มเพื่อนจะไม่เปลี่ยนแปลงไปแม้ว่า ID จะถูกเปลี่ยนเป็นพรีเมียม ID แล้วก็ตาม
ตรวจสอบประวัติการชำระเงิน
คุณสามารถตรวจสอบการชำระเงินได้โดยเลือก “ประวัติการชำระเงิน” ในเมนู “การใช้งานและการเรียกเก็บเงิน”
ประวัติการชำระเงินจะถูกแสงตามช่วงเวลาที่ได้ระบุ
ตรวจสอบวิธีการชำระเงิน
คุณสามารถตรวจสอบวีธีการชำระเงินแบบเจาะจงแต่ละรายการได้จากประวัติการชำระเงิน หากคุณได้ลงทะเบียนใบกำกับภาษี ข้อมูลจะถูกแสดงในชื่อองค์กรหรือบริษัท
โปรโมชันโค้ด
คุณสามารถใส่โปรโมชันโค้ดได้ในเมนูนี้ เมื่อโปรโมชันโค้ดถูกใช้งานแล้ว จะถูกแสดงในส่วน ”โปรโมชันโค้ดที่ลงทะเบียนในขณะนี้”
*การลงทะเบียนโปรโมชันโค้ดถูกจำกัดในการใช้งานเพียง 1 ครั้ง / 1 แคมเปญ
คุณสามารถตรวจสอบสถานะของโปรโมชันโค้ดที่ลงทะเบียนแล้วได้ที่ “ โปรโมชันโค้ดที่ลงทะเบียนในขณะนี้”
*โปรโมชันโค้ดที่ลงทะเบียนเบียนแล้วจะมีอายุแสดง 1 ปีนับจากวันที่ลงทะเบียน
การใช้งานและการเรียกเก็บเงิน
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
หน้าต่างการสั่งซื้อแพ็กเกจสำหรับอุปกรณ์มือถือ
หากคุณจัดการ LINE Official Account ผ่านอุปกรณ์มือถือ แล้วต้องการเปลี่ยนแปลงหรือจัดการแพ็กเกจที่เกี่ยวกับการชำระเงิน กรุณาจัดการผ่านเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์
หน้าต่างการสั่งซื้อบนอุปกรณ์: https://manager.line.biz/webstore/
แต่จะไม่สามารถจัดการกรณีเหล่านี้ได้
- บัญชีกำลังใช้ special plan?
- บัญชีที่จัดการโดยเอเจนซี่
- บัญชีที่เปิดใช้บริการในที่พื้นที่ที่ไม่รับรอง
หรือสามารถเข้าผ่านแอปพลิเคชันได้ผ่านหน้าหลัก แล้วเลือก “รายละเอียดการใช้งาน”
*กรณีเข้าผ่าน LINE Official Account จะสามารถซื้อพรีเมียม ID และตรวจสอบจำนวนข้อความได้เท่านั้น
เปลี่ยนแปลงแพ็กเกจรายเดือน
ซื้อพรีเมียม ID
*การซื้อพรีเมียม ID จำเป็นต้องระบุช่องทางการชำระเงินให้เรียบร้อย
ลงทะเบียนข้อมูลใบกำกับภาษี
เข้าไปที่ “ข้อมูลใบกำกับภาษี” แล้วระบุหรือแก้ไขข้อมูลบริษัทของคุณ
บรอดแคสต์แบบระบุกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Broadcast) คือ การส่งข้อความบรอดแคสต์ถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดส่วนหนึ่งจากเพื่อนในบัญชีทั้งหมด
การส่งบรอดแคสต์แบบระบุกลุ่มเป้าหมายจำเป็นต้องมีทาร์เก็ตรีช (Target Reach) อย่างน้อย 100 คนจึงจะสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้
ขั้นตอนการตั้งค่าการส่งข้อความแบบระบุกลุ่มเป้าหมายมีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าบน LINE Official Account Manager
1. เลือกที่ “หน้าหลัก” > “บรอดแคสต์”
2. เลือกที่ “สร้างบรอดแคสต์”
3. หัวข้อผู้รับ เลือก “ระบุ”
4. ระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
5. ใส่เนื้อหาบรอดแคสต์ และส่ง
การจัดการบนเว็บไซต์
สร้างบรอดแคสต์
1.เข้าไปที่เมนู “บรอดแคสต์” > ”สร้างบรอดแคสต์”
2.ตั้งค่าในแต่ละส่วน
1 |
ตั้งค่าผู้รับข้อความบรอดแคสต์ เพื่อน/ระบุ หากเลือกระบุผู้รับ สามารถตั้งค่าได้ตามต่อไปนี้
|
2 | ตั้งค่าเวลาบรอดแคสต์ ตอนนี้/ตั้งค่าวันและเวลาตามไทม์โซนบัญชีของคุณ |
3 |
แสดงค่าประมาณผู้รับบรอดแคสต์ *อาจมีการคาดเคลื่อนจากผู้รับจริง |
4 | ตั้งค่าขั้นสูงสำหรับการส่งข้อความ
|
3. ตั้งค่ารูปแบบข้อความที่ต้องการบรอดแคสต์
*ไม่แนะนำการบรอดแคสต์ลิงก์ URL ทางลัด
สามารถเพิ่มจำนวนข้อความที่ต้องการส่งได้โดยเลือก “เพิ่ม” สามารถเพิ่มได้สูงสุด 3 ข้อความ
คุณสามารถดูตัวอย่างข้อความได้ทั้งในหน้าต่างห้องแชท และ รายชื่อแชท และดาวน์โหลดได้โดยเลือกปุ่มด้านบนขวามือของหน้าต่างแสดงตัวอย่าง
4. หลังจากตั้งค่าข้อความเรียบร้อยแล้ว ให้เลือก
บันทึกร่าง: คุณสามารถบันทึกร่างได้สูงสุด 1000 บรอดแคสต์
ทดสอบรอดแคสต์: สำหรับคนที่เข้าสู่ระบบด้วย LINE ระบบจะให้เลือกการทดสอบบรอดแคสต์ไปยัง ตัวฉันเท่านั้น หรือ แอดมินและโอเปอเรเตอร์ทั้งหมด หากเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจระบบจะทำการทดสอบบรอดแคสต์ไปยังแอดมินและโอเปอเรเตอร์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
ส่ง : บรอดแคสต์ข้อความที่คุณได้ตั้งค่าไว้ หากยังไม่ถึงช่วงเวลาที่คุณได้ตั้งค่าเอาไว้บรอดแคสต์จะอยู่ในรายชื่อตั้งเวลาส่ง
ตรวจสอบบรอดแคสต์
บรอดแคสต์ที่คุณได้ตั้งค่า บันทึก หรือส่งแล้วจะอยู่ใน รายชื่อบรอดแคสต์
สามารถเปลี่ยนมุมมองการมองเห็นได้ระหว่างแบบปฏิทินและรายการ ได้ที่มุมบนขวามือ
สำหรับรูปแบบปฏิทิน บรอดแคสต์ที่บันทึกร่างและถูกตั้งค่าเวลาให้บรอดแคสต์ทันทีจะไม่ถูกแสดง และ หากจำนวนของบรอดแคสต์ต่อเดือนมีมากกว่า 1000 ข้อความ อาจไม่ถูกแสดง
เมื่อเข้าไปที่รายการบรอดแคสต์จะพบรายละเอียดการบรอดแคสต์ และสามารถตรวจสอบเวลาและผู้ทำการบรอดแคสต์ได้
วันที่อัปเดต: วันที่สร้างหรือวันที่แก้ไขบรอดแคสต์
ผู้อัปเดทล่าสุด: แสดงชื่อบัญชีผู้ที่ทำการอัปเดทบรอดแคสต์
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
สร้างบรอดแคสต์
1.เลือก ”บรอดแคสต์ข้อความ” ในหน้าหลักบัญชี > เลือก “เพิ่ม” > เลือก รูปแบบข้อความ ที่ต้องการบรอดแคสต์
2.ตั้งค่าเนื้อหาที่ต้องการบรอดแคสต์
หากตั้งค่าเนื้อหาบรอดแคสต์เรียบร้อยแล้วให้เลือก “ต่อไป”
1 | ดูตัวอย่างข้อความที่ต้องการบรอดแคสต์ ทั้งทางห้องแชทและรายชื่อแชท |
2 | ตั้งค่าเนื้อหาที่ต้องการบรอดแคสต์ รายละเอียดอาจมีความแตกต่างกันไปตามรูปแบบข้อความ |
3 | สามารถเพิ่มจำนวนข้อความที่ต้องการบรอดแคสต์ ได้สูงสุด 3 ข้อความ |
3. ตั้งค่าบรอดแคสต์
ตั้งเวลาบรอดแคสต์: เลือกเวลาที่ต้องการบรอดแคสต์ หรือ บรอดแคสต์ทันที หากคุณตั้งเวลาล่วงหน้าบรอดแคสต์จะถูกจัดเข้า “ตั้งเวลาส่ง”
โพสต์ที่ LINE VOOM: เมื่อกด เปิด ข้อความบรอดแคสต์จะถูกโพสต์บนหน้าไทม์ไลน์ทันทีเมื่อมีการบรอดแคสต์
บรอดแคสต์จะไม่ถูกโพสต์บนไทม์ไลน์หากบรอดแคสต์หลายข้อความในเวลาเดียวกัน
จำนวนข้อความบรอดแคสต์ : หาเปิดใช้งานคุณสามารถตั้งค่าจำนวนข้คอวามที่ต้องการบรอดแคสตืได้
ผู้รับ : ตั้งค่าผู้รับเป็นเพื่อนทั้งหมด หรือ กำหนดกลุ่มผู้รับจากคุณสมบัติ
การระบุคุณสมบัติผู้รับทำได้โดยการเลือก “ฟิลเตอร์”
ชื่อฟิลเตอร์: ระบุเพื่อความสะดวกในการจัดการ โดยผู้รับจะไม่เห็นชื่อนี้
ข้อมูลคุณสมบัติ: ระบุเพศ อายุ OSหรือระบบปฏิบัติการ ระยะเวลาที่เป็นเพื่อน และ พื้นที่ของผู้รับ
หากตั้งค่าเรียบร้อยแล้วให้เลือก
ส่ง : บรอดแคสต์ข้อความที่คุณได้ตั้งค่าไว้ หากยังไม่ถึงช่วงเวลาที่คุณได้ตั้งค่าเอาไว้บรอดแคสต์จะอยู่ในรายชื่อตั้งเวลาส่ง
บันทึกร่าง : คุณสามารถบันทึกร่างได้สูงสุด 1000 บรอดแคสต์
ทดสอบรอดแคสต์ : สำหรับคนที่เข้าสู่ระบบด้วย LINE ระบบจะให้เลือกการทดสอบบรอดแคสต์ไปยัง ตัวฉันเท่านั้น หรือ แอดมินและโอเปอเรเตอร์ทั้งหมด หากเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจระบบจะทำการทดสอบบรอดแคสต์ไปยังแอดมินและโอเปอเรเตอร์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
คัดลอกบรอดแคสต์ที่เปิดใช้งาน
ตรวจสอบรายชื่อบรอดแคสต์
ตรวจสอบข้อความบรอดแคสต์ที่คุณได้สร้าง บันทึกร่าง หรือ ส่ง แล้วได้ที่ “บรอดแคสต์”
เมื่อเข้าไปที่รายการบรอดแคสต์จะพบรายละเอียดการบรอดแคสต์ และ สามารถตรวจสอบเวลาและผู้ทำการบรอดแคสต์ได้
วันที่อัปเดต : วันที่สร้างหรือวันที่แก้ไขบรอดแคสต์
ผู้อัปเดทล่าสุด : แสดงชื่อบัญชีผู้ที่ทำการอัปเดทบรอดแคสต์
คุณสามารถกำหนดจำนวนข้อความบรอดแคสต์ได้ตามงบประมาณที่กำหนดไว้ โดยต้องไม่เกินจำนวนข้อความที่ส่งได้ในขณะนั้น ระบบจะเลือกผู้รับด้วยวิธีสุ่มจากเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายโดยประมาณ ณ เวลาที่บรอดแคสต์
วิธีการกำหนดข้อความบรอดแคสต์มีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนกำหนดจำนวนข้อความบรอดแคสต์บนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่ "บรอดแคสต์" > "สร้างใหม่"
2. เพิ่มข้อความแล้วเลือกที่ "ต่อไป"
3. เปิดใช้งานจำนวนข้อความบรอดแคสต์ > ใส่จำนวนข้อความในหัวข้อ "จำนวนข้อความบรอดแคสต์"
ขั้นตอนกำหนดจำนวนข้อความบรอดแคสต์บน LINE Official Account Manager
1. คลิกที่ "บรอดแคสต์" > "สร้างใหม่"
2. คลิกเลือกที่ "กำหนดจำนวนสูงสุดของข้อความบรอดแคสต์" ในห้วข้อ "ตั้งค่าขั้นสูง"
3. ใส่จำนวนข้อความ
คุณสามารถสร้างข้อความ (ตัวแปร) ที่มีเนื้อหาต่างกันหลายข้อความ แล้วทดสอบด้วยการบรอดแคสต์ข้อความแต่ละแบบไปยังผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ ตามสัดส่วนที่กำหนด
หลังจากบรอดแคสต์แล้วให้นำผลการวิเคราะห์ของแต่ละตัวแปรมาพิจารณา เพื่อส่งข้อความที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไปยังผู้ใช้ที่ยังไม่ได้รับข้อความ (ภายใน 3 วันนับตั้งแต่เริ่มทดสอบ)
วิธีการสร้างการทดสอบ A/B test สำหรับการส่งข้อความบรอดแคสต์บน LINE Official Account Manager
ได้โดยการเลือกที่ "ตั้งค่าชั้นสูง"
ขั้นตอนการตั้งค่าผ่าน LINE Official Account Manager
1. คลิกที่ "หน้าหลัก" > "บรอดแคสต์" > "สร้างใหม่"
2. คลิกเลือกที่ "สร้างการทดสอบ A/B test" ในหัวข้อ "ตั้งค่าชั้นสูง"
หมายเหตุ:
*ฟีเจอร์สร้างการทดสอบ A/B test ไม่สามารถใช้งานได้บนแอปพลิเคชัน
**ฟีเจอร์สร้างการทดสอบ A/B test จำเป็นต้องมีทาร์เก็ตรีชตั้งแต่ 5,000 ขึ้นไป
กรุณาตรวจสอบประเภทของข้อความที่นับเป็นจำนวนข้อความบรอดแคสต์และข้อความที่ไม่นับดังต่อไปนี้
ข้อความที่ถูกนับ
- บรอดแคสต์ข้อความ (รวมข้อความแบบระบุเป้าหมาย)
- สเต็ปเมสเสจ
- Messaging API เช่น Push API, Multicast API, Broadcast API
ข้อความที่ไม่นับ
- ข้อความแชทที่รับ / ส่ง
- ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ
- ข้อความตอบกลับ AI
- ข้อความทักทายเพื่อนใหม่
- Messaging API ที่เกี่ยวกับ Reply API
LINE Official Account จะคิดจำนวนข้อความตามจำนวน target reach
ซึ่งหมายถึง จำนวน followers ของเราที่ยัง active อยู่และยังไม่ได้ block เท่านั้น
แพ็กเกจ LINE Official Account สามารถเริ่มใช้งานได้ฟรี โดยจะสามารถบรอดแคสต์ข้อความได้ 500 ข้อความต่อเดือน (โดยนับจากจำนวน Target Reach ที่ได้รับข้อความ)
หากต้องการบรอดแคสต์มากกว่า 500 ข้อความต่อเดือน สามารถอัปเกรดแพ็กเกจเป็น
• แพ็กเกจ Basic สามารถบรอดแคสต์ได้ 15,000 ข้อความต่อเดือน หรือ
• แพ็กเกจ Pro สามารถบรอดแคสต์ได้ 35,000 ข้อความต่อเดือน
และหากต้องการบรอดแคสต์ข้อความมากกว่า 35,000 ข้อความต่อเดือน จำนวนข้อความที่เกินกว่า 35,000 จะคิดตามจริงข้อความละ 4 สตางค์ หรือประมาณ 400 บาท ต่อ 10,000 ข้อความ
การแชท คือ ฟังก์ชันการใช้ข้อความสื่อสารกันระหว่างผู้ใช้กับเจ้าของบัญชี LINE Official Account ซึ่งสามารถใช้งานการแชทได้ดังต่อไปนี้
- แชทแบบตัวต่อตัว (1:1)
- แชทแบบกลุ่ม
- Messaging API
*ไม่สามารถใช้งานการแชท (แชทแบบตัวต่อตัว, แชทแบบกลุ่ม) กับ Messaging API พร้อมกันได้
*กรุณาเลือกใช้งาน "โหมดการตอบกลับ : แชท" เพื่อใช้งานฟังก์ชันการแชท หรือ "โหมดการตอบกลับ : บอต" เพื่อใช้งาน Messaging API อย่างใดอย่างหนึ่ง
การจัดการแชทบนเว็บไซต์
การใช้แชทคุณจำเป็นต้องเปิดการใช้งานก่อน โดยสามารถทำได้โดยเข้าไปที่ ”ตั้งค่า” ทางด้านมุบนขวามือ > เลือกเมนู “ตั้งค่าการตอบกลับ” > เปิดการใช้งาน “แชท”
รายการเมนู
เข้าสู่หน้าต่างการตั้งค่าแชทโดยเลือก “แชท” ในแถบเมนูด้านบน
ตั้งค่าในแต่ละส่วน
แชท สำหรับแชท 1:1 กับผู้ใช้ รวมถึงสามารถตั้งค่าให้ผู้ใช้แต่ละรายได้ ดังนี้
*ข้อความและสติกเกอร์จะอยู่ในระบบตลอดจนกว่าจะลบแชท ส่วนรูปภาพจะอยู่ในระบบ 1 ปี
รายชื่อติดต่อ สามารถดูรายชื่อผู้ใช้ทั้งหมดที่เคยส่งข้อความมายังบัญชีทางการได้ที่นี่
*สำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่ได้เพิ่มบัญชีทางการของคุณเป็นเพื่อน คุณสามารถส่งข้อความหาผู้ใช้ได้ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันส่งข้อความครั้งสุดท้าย
*ห้องแชทสำหรับผู้รับหลายคนจะไม่ถูกแสดงในส่วนนี้
ส่งข้อความถึงผู้ใช้หลายคน คุณสามารถส่งข้อความถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ได้ตั้งค่าไว้
เมื่อคุณเลือกกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการส่งข้อความถึงแล้วให้เลือก “สร้างข้อความใหม่” ระบบจะพาคุณไปยังหน้าตั้งค่าบรอดแคสต์
*จำนวนข้อความที่ส่งจะถูกนับรวมเข้าจำนวนข้อความส่งถึงเพื่อน
ตั้งค่าแชท เมื่อคลิกเข้าไปที่แถบเมนู ตั้งค่าแชท จะเจอแถบย่อยต่าง ๆ
1. พื้นฐาน
ตั้งค่าการแจ้งเตือน: สามารถเปิด/ปิดการแจ้งเตือนของแชทได้ ไม่ว่าจะเป็นแจ้งเตือนด้วยหน้าต่างป๊อบอัพ หรือ แจ้งเตือนด้วยของความเสียง และ สามารถเปิด/ปิดการแจ้งเตือน LINE Call บนเว็บไซต์
ตั้งค่าเสียงและวิดีโอ: สามารถเปิด/ปิดการใช้งาน ไมโครโฟน กล้อง และ ดูตัวอย่างของกล้องได้
*หากการใช้งานบนเบราว์เซอร์ถูกบล็อกสามารถตั้งค่าได้โดยเลือกไอคอนด้านหนาที่อยู่เว็บไซต์ > เลือก เปิด การใช้งานไมโครโฟนและกล้อง
วิธีส่ง: สามารถเลือกวีธีการส่งข้อความได้
ตัวอย่างลิงก์: สามารถเลือกเปิด/ปิดสำหรับการแสดงตัวอย่างลิงก์ในแชท
สำรองข้อมูลประวัติแชท: สามารถสำรองข้อมูลการแชทได้ (ซึ่งสามารถสร้างไฟล์ CSV ได้สัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น)
2. แท็ก สร้างแท็กได้สูงสุด 200 แท็ก และใส่แท็กได้สูงสุด 10 แท็ก ต่อ 1 ผู้ใช้ และ สามารถค้นหาแท็กได้ในช่องค้นหา
3. ข้อความตอบกลับ สามารถกำหนดข้อความตอบกลับที่ต้องใช้บ่อยเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการตอบข้อความเมื่อได้รับการติดต่อสอบถาม
4. เวลาตอบข้อความ สามารถกำหนดช่วงเวลาและวิธีตอบกลับข้อความแชทสำหรับในและนอกเวลาตอบกลับข้อความได้
5. แบนเนอร์แสดงสถานะ เเบนเนอร์สถานะซึ่งแสดงที่ด้านบนของห้องแชท คุณสามารถแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงโหมดการตอบข้อความ เวลาตอบข้อความ หรืออื่น ๆ ผ่านแบนเนอร์สถานะนี้ได้
6. การโทร
สามารถตั้งค่าเกี่ยวกับการโทร
ตรวจสอบรายการแชท
ทั้งหมด: ทุกรายการแชทจะแสดง
อินบ็อกซ์:
ยังไม่ได้อ่าน: รายการที่ยังไม่ได้อ่าน
ดำเนินการ: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า “ดำเนินการ”
เสร็จสิ้น: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า “เสร็จสิ้น”
รับผิดชอบ: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า “รับผิดชอบ”
สแปม: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่าเป็น “สแปม”
ตั้งค่าห้องแชท
เข้าไปที่ ︙ทางด้านขวาของรายการข้อความ
1 | คุณสามารถดูตัวอย่างข้อความโดยผู้ใช้งานแชทอีกฝ่ายไม่รู้ได้ |
2 |
ตั้งค่ารายการแชทเป็น ดำเนินการ
*สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง |
3 | ตั้งค่าปักหมุดรายการแชท รายการแชทใดถูกปักหมุดรายการแชทนั้นจะถูกจัดอยู่บนสุดของรายการแชททั้งหมด |
4 |
ตั้งค่ารายการแชทเป็น สแปม
“คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความใหม่” แชทนี้จะถูกย้ายไปที่โฟลเดอร์ "สแปม" คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนข้อความใหม่อีกต่อไป ต้องการกำหนดเป็นสแปมเมอร์หรือไม่ |
5 |
ลบรายการแชททั้งหมดจะถูกลบออกประวัติการแชท
ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับแชทนี้จะถูกลบ รวมถึงประวัติการแชทและข้อมูลผู้ใช้ ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่ |
แชท
1 | แสดงบทสนทนากับผู้ใช้ทั้งหมด |
2 |
คุณสามารถส่งข้อความหาผู้ใช้ได้ *ตั้งค่าวิธีส่งข้อความได้โดยเข้าที่ "ตั้งค่าแชท" > "พื้นฐาน" > "วิธีส่ง" หากผู้ใช้ออกจากห้องแชท บล็อกบัญชีของคุณ หรือ ลบบัญชี LINE แล้วคุณจะไม่สามารถส่งข้อความหาได้ |
3, 4 | คุณสามารถส่งอิโมจิ สติกเกอร์หรือแบบลิงก์ผ่านทางข้อความได้ |
5 |
คุณสามารถเลือก ข้อความตอบกลับ การ์ดเมสเสจ หรือ คูปองที่ตั้งค่าไว้ส่งหาผู้ใช้ได้
|
6 |
เมื่อคุณกดส่งคำขอการโทร คุณและผู้ใช้สามารถใช้การโทรเพื่อสนทนากันได้ *จำเป็นต้องเปิดใช้งานการโทรก่อน สามารถตั้งค่าได้ที่ "ตั้งค่าแชท" > "การโทร" |
7 | สามารถตั้งค่าแชทแท็กเป็นดำเนินการได้ ห้องแชทดังกล่าวจะถูกจัดกลุ่มเข้ารายการที่ต้องดำเนินการ |
8 | เมื่อตั้งค่าห้องแชทเป็นดำเนินการแล้ว ห้องแชทดังกล่าวจะถูกจัดกลุ่มเข้ารายการเสร็จสิ้น |
9 | กดปุ่มค้นหาเมื่อต้องการค้นหาข้อความในห้องแชท หากมีข้อความที่ตรงกับคำค้นหา รายการข้อความดังกล่าวถูกแสดง |
ตรวจสอบข้อมูลโปรไฟล์ผู้ใช้
1 |
คุณสามารถตั้งค่าผู้ใช้นี้เป็นสแปม
ดาวน์โหลดประวัติการแชทในรูปแบบ CSV และลบรายการแชทได้
|
2 | ชื่อเล่นของผู้ใช้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น |
3 | สร้างแท็กได้สูงสุด 200 แท็ก และใส่แท็กได้สูงสุด 10 แท็ก ต่อ 1 ผู้ใช้ และ สามารถค้นหาแท็กได้ในช่องค้นหา |
4 | คุณสามารถตั้งค่าแอดมินเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละรายการแชทได้ หากไม่มี กำหนดไว้ แอดมินที่ส่งข้อความหาผู้ใช้เป็นคนแรกจะถูกกำหนดเป็นผู้รับผิดชอบ โดยอัตโนมัติ |
5 | สร้างโน้ตได้สูงสุด 200 โน้ต ต่อ 1 ผู้ใช้ |
การจัดการแชทบนแอปพลิเคชัน
1 |
ทั้งหมด: ทุกรายการแชทจะแสดง ยังไม่ได้อ่าน: รายการที่ยังไม่ได้อ่าน ดำเนินการ: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า "ดำเนินการ" เสร็จสิ้น: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า "เสร็จสิ้น" รับผิดชอบ: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า "รับผิดชอบ" สแปม: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่าเป็น "สแปม" แสดงห้องแชทตามสถานะที่คุณเลือก |
2 | แจ้งเตือน: สามารถเปิด/ปิดการแจ้งเตือนแชทได้ |
3 |
ดำเนินการ: ตั้งค่าสถานะของห้องแชทเป็นต้องดำเนินการ หรือ ดำเนินการแล้ว ค้นหา: ค้นหาข้อความในห้องแชท จัดการโปรไฟล์ผู้ใช้: จัดการชื่อเล่น กำหนดผู้รับผิดชอบ ตั้งค่าแท็ก สร้างโน้ตหรือลบประวัติแชท |
4 | คุณสามารถส่งข้อความหาผู้ใช้ได้ และสามารถแนบไฟล์เพิ่มเติมได้ทั้ง สติกเกอร์ รูปภาพ ไฟล์ ข้อความ ตอบกลับ การ์ดเมสเสจ ออเดอร์ และ คำขอการโทร |
5 |
จัดการโปรไฟล์ผู้ใช้ ชื่อเล่น: ชื่อเล่นของผู้ใช้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น ผู้รับผิดชอบ: แอดมินผู้รับผิดชอบในแต่ละแชท แท็ก: สร้างแท็กได้สูงสุด 200 แท็ก และใส่แท็กได้สูงสุด 10 แท็ก ต่อ 1 ผู้ใช้ โน้ต: สร้างได้สูงสุด 200 โน้ต ต่อ 1 ผู้ใช้ สแปมเมอร์: สามารถตั้งค่าผู้ใช้นี้เป็นสแปม ลบ: ลบประวัติแชท |
ตั้งค่าแชท
เวลาตอบกลับข้อความ: สามารถกำหนดช่วงเวลาและวิธีตอบกลับข้อความแชทสำหรับในและนอกเวลาตอบกลับข้อความได้
แบนเนอร์ข้อความตอบกลับ: สถานะเเบนเนอร์สถานะซึ่งแสดงที่ด้านบนของห้องแชท คุณสามารถแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงโหมดการตอบข้อความ เวลาตอบข้อความ หรืออื่น ๆ ผ่านแบนเนอร์สถานะนี้ได้
โทร: ตั้งค่าเกี่ยวกับการโทร การแสดงไอคอน และ ตัวเลือกการโทรรวมถึงวิธีการโปรโมทการโทรได้
แท็ก: สร้างแท็กได้สูงสุด 200 แท็ก และใส่แท็กได้สูงสุด 10 แท็ก ต่อ 1 ผู้ใช้ และ สามารถค้นหาแท็กได้ในช่องค้นหา
ข้อความตอบกลับ: สามารถกำหนดข้อความตอบกลับที่ต้องใช้บ่อยเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการตอบข้อความเมื่อ
ตั้งค่าห้องแชท
ดูตัวอย่างข้อความที่ได้รับ | คุณสามารถดูตัวอย่างข้อความโดยผู้ใช้งานแชทอีกฝ่ายไม่รู้ได้ |
ดำเนินการ, ปักหมุด |
ตั้งค่ารายการแชทเป็น ดำเนินการ หรือ ตั้งค่าปักหมุดรายการแชท
รายการแชทใดถูกปักหมุดรายการแชทนั้นจะถูกจัดอยู่บนสุดของรายการแชททั้งหมด
*สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง |
กำหนดเป็นสแปมเมอร์ |
ตั้งค่ารายการแชทเป็น สแปม
*คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความใหม่ |
ลบ |
รายการแชททั้งหมดจะถูกลบออกประวัติการแชท
*ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับแชทนี้จะถูกลบ รวมถึงประวัติการแชทและข้อมูลผู้ใช้ ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่ |
เปิดการใช้งาน Messaging API ซึ่งสามารถตั้งค่าได้บนเว็บไซต์เท่านั้น โดยผู้มีสิทธิ์ในฐานะแอดมินเท่านั้นที่มีสิทธิแก้ไขได้
Messaging API
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “Messaging API”
เลือก “ใช้ Messaging API” เพื่อสร้างโพรไวเดอร์> ใส่ข้อมูลชื่อและที่อยู่อีเมล เมื่ออ่านข้อตกลง LINE Developers Agreement เรียบร้อยแล้ว > เลือก “ยอมรับ”
*โพรไวเดอร์นี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ในภายหลัง โปรดตรวจสอบรายเอียดให้เรียบร้อยก่อน
*หากคุณต้องการเชื่อมกับช่องทางการเข้าสู่ระบบ LINE กรุณาเลือกที่อยู่ของโพรไวเดอร์และช่องทางให้เหมือนกัน
หลักจาก “ยอมรับ” แล้วให้เลือก “OK” ในหน้าจอการยืนยันเพื่อเปิดใช้งาน
คุณสามารถจัดการสิทธิ์ของบัญชีทางการในรูปแบบกลุ่มได้ ซึ่งสามารถตั้งค่าเมนูสำหรับบัญชีทางการที่เป็นสมาชิกของกลุ่มภายในครั้งเดียวได้
สามารถตั้งค่าได้เฉพาะบนเว็บไซต์
สร้างกลุ่ม
เข้าไปที่ โปรไฟล์ ของคุณทางด้านมุมบนขวามือ > แล้วเลือก “ตั้งค่า” > “กลุ่ม” > ”สร้างใหม่”
หัวข้อ | คำอธิบาย |
---|---|
บัญชี |
เพิ่มสมาชิก (สูงสุด 5000 คนต่อ 1 กลุ่ม) โดยบัญชีที่อยู่คนละพื้นที่บริการจะไม่ สามารถเข้าร่วมกลุ่มเดียวกันได้ *1 บัญชีสามารถจัดการกลุ่มได้มากสุด 100 กลุ่ม *ผู้ใช้ที่ไม่ได้มีสิทธิ์แอดมินในบัญชีนั้นจะไม่มีสิทธิ์สร้างกลุ่มได้ |
จัดการกลุ่ม
สามารถสร้างเนื้อหาสำหรับบัญชีทางการที่เป็นสมาชิกในกลุ่ม
ในหน้าหลักนี้จะแสดงแสดงประวัติการตั้งค่าของกลุ่ม
1 | รายการเมนูที่คุณสามารถจัดการกับกลุ่มบัญชีทางการได้ ได้แก่ บรอดแคสต์ ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ เมสเสจประเภทต่างๆ เครื่องมือ และ หน้าจอแชท |
2 |
คุณสามารถดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ดเพิ่มเพื่อนสำหรับบัญชีทางการที่อยู่ในกลุ่ม
*ไฟล์มีอายุการดาวน์โหลด 24 ชั่วโมงหลังจากสร้างคิวอาร์โค้ด |
3 | สามารถตั้งค่าบัญชีพื้นฐาน ได้แก่ ชื่อบัญชี รูปโปรไฟล์ สถานะ ตั้งค่าการเปิดใช้งานข้อมูลที่อยู่และแผนที่ แสดงบัญชีที่ผลการค้นหาและการแนะนำ, การเข้าร่วมกลุ่ม&แชท, เปิด/ปิดข้อความทักทายเพื่อนใหม่ และ ประเทศที่ตั้งบริษัท/ธุรกิจ |
4 | สามารถตั้งค่าโปรไฟล์บัญชี ได้แก่ คำอธิบาย เวลาทำการ งบประมาณ โทร เว็บไซต์ จอง วิธีชำระเงิน สถานที่ ข้อมูลที่อยู่ และ แผนที่ |
5 | แสดงสถานะการทำงานของฟังก์ชันกลุ่มที่ตั้งค่าไว้ |
6 | ฟังก์ชันที่ถูกใช้สำหรับกลุ่ม |
7 | รายละเอียดในแต่ละฟังก์ชัน |
8 | รูปแบบการจัดการฟังก์ชัน |
9 | แสดงวันเริ่มต้นใช้งานฟังก์ชัน |
10 | แสดงผลลัพธ์การใช้งานฟังก์ชัน |
11 | สามารถดาวน์โหลดผลลัพธ์การใช้งานได้ |
แสดงข้อมูลเชิงลึก
เข้าไปที่แถบ “ข้อมูลเชิงลึก” แล้วเลือก “เอ็กซ์พอร์ต” แล้วเพื่อรับข้อมูลในรูปแบบ CSV
ทั้งหมด: กรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 60 วัน (ไม่รวมข้อมูลคูปอง)
เพื่อน: สำหรับข้อมูลรวมกรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 397 วัน
ข้อความ: กรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 60 วัน
ริชเมนู: เลือกริชเมนูที่ต้องการดาวน์โหลดข้อมูลเชิงลึก
แชท: กรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 397 วัน
คูปอง: เลือกคูปองที่ต้องการดาวน์โหลดข้อมูลเชิงลึก
การจอง: กรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 396 วัน
*ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเอ็กซ์พอร์ตแล้วจะแสดงใน ประวัติการเอ็กซ์พอร์ต
การจัดการกลุ่ม
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” ทางด้านมุมบนขวามือในหน้าหลัก แล้วเลือก “ตั้งค่ากลุ่ม”
สามารถจัดการรูปโปรไฟล์ ชื่อกลุ่ม และการอนุญาตให้สมาชิกกลุ่มเข้าถึงแชทบัญชีทางการ
สิทธิพิเศษการจัดการกลุ่ม
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” ทางด้านมุมบนขวามือในหน้าหลัก แล้วเลือก “การจัดการสิทธิ์กลุ่ม”
คุณสามารถเพิ่มสมาชิกและจัดการสิทธิ์ในฐานะแอดกลุ่มและโอเปอเรเตอร์กลุ่มได้ โดยเลือก ประเภทสิทธิ์ ที่ต้องการ แล้วคัดลอกลิงก์ URL ในกล่องข้อความ เพื่อส่งให้สมาชิก
*ลิงก์มีอายุการใช้งานเพียง 24 ชั่วโมงหลังจากสร้างลิงก์ และสามารถใช้งานได้เพียง 1 ครั้ง
ลบกลุ่ม
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” ทางด้านมุมบนขวามือในหน้าหลัก แล้วเลือก “ลบกลุ่ม”
กรุณาอ่านรายละเอียดการลบกลุ่มก่อนกด “ลบ”
คุณสามารถใช้ LINE สติกเกอร์ที่ซื้อได้โดยล็อกอินด้วยบัญชี LINE เข้าใช้งานเว็บไซต์ LINE Official Account Manager หรือแอปพลิเคชัน
สติกเกอร์ที่สามารถใช้งานได้ มีดังต่อไปนี้
- สติกเกอร์ที่เป็นค่าเริ่มต้นของระบบ
- ครีเอเตอร์สติกเกอร์ที่ซื้อด้วยบัญชี LINE ที่ใช้ล็อกอิน
หมายเหตุ:
*ไม่สามารถใช้สติกเกอร์ทางการได้
*ไม่สามารถใช้ครีเอเตอร์สติกเกอร์ประเภทสติกเกอร์เติมคำ และสติกเกอร์ข้อความได้
*ไม่สามารถใช้ครีเอเตอร์สติกเกอร์ที่ซื้อด้วยบัญชี LINE ได้หากล็อกอินด้วยบัญชีธุรกิจ
OA Call คือฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน LINE สามารถโทรศัพท์หาบัญชีทางการ LINE ได้
หากบัญชีทางการใช้งาน LINE Call ควบคู่กับการแชท จะช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นด้วยการโทรและวิดีโอคอล เมื่อมีเรื่องด่วนหรือเรื่องที่อธิบายผ่านการแชทได้ยาก
*บัญชีทางการ LINE ไม่สามารถเป็นฝ่ายเริ่มต้นใช้ OA Call โทรหาผู้ใช้ได้
กรุณาตรวจสอบวิธีเปิดใช้งาน LINE Call ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการเปิดใช้งานบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “แชท” > “ตั้งค่า” (ไอคอนรูปเกียร์) ทางด้านขวาบน
2. เลือกที่ “โทร”
3. เปิดการตั้งค่า “LINE Call”
ขั้นตอนการเปิดใช้งานบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ “แชท”
2. เลือกที่ “ตั้งค่าแชท” > “โทร”
3. เปิดใช้งาน “LINE Call”
*สามารถใช้งาน OA Call ในโหมดการตอบกลับเป็นโหมดแชทเท่านั้น
*การโทรผ่านหน้าจอการจัดการบนเว็บสามารถใช้งานได้ผ่านเบราว์เซอร์ Google Chrome เท่านั้น
คุณสามารถรับโทรศัพท์เฉพาะเวลาที่จำเป็นได้โดยการส่งคำขอการโทรให้ผู้ใช้
กรุณาตรวจสอบวิธีส่งคำขอการโทรตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการส่งจากแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ "แชท" > เลือกแชทของผู้ใช้ที่ต้องการส่งคำขอการโทรให้
2. เลือกที่ "+" ด้านซ้ายล่าง
3. เลือกที่ "คำขอการโทร" > "ส่ง"
ขั้นตอนการส่งจากเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ "แชท" > เลือกแชทของผู้ใช้ที่ต้องการส่งคำขอการโทรให้
2. เลือกไอคอน "โทรศัพท์" ด้านขวาล่าง > "ส่ง"
คำขอการโทรที่ส่งให้ผู้ใช้ สามารถกำหนดเวลาใช้งาน 30 นาทีได้
โดยคำขอการโทรนั้นจะหมดอายุการใช้งานเมื่อผ่านไป 30 นาที ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเริ่มการโทรได้
ขั้นตอนการตั้งค่าคำขอการโทรที่มีกำหนดเวลาใช้งาน
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ "แชท" > "ตั้งค่าแชท" (ไอคอนรูปเกียร์)
2. เลือกที่ "โทร"
3. เปิดการตั้งค่าที่ "กำหนดเวลาใช้งานคำขอการโทร" ในหัวข้อตั้งค่าตัวเลือก
ขั้นตอนการตั้งค่าบนหน้าจอการจัดการบน LINE Official Account Manager
1. คลิกที่แท็บ "แชท" > "ตั้งค่าแชท" (ไอคอนรูปเกียร์)
2. คลิกที่ "โทร"
3. เลือก "ใช้งาน" ที่ "กำหนดเวลาใช้งานคำขอการโทร" ในหัวข้อตั้งค่าตัวเลือก
หากตั้งค่าข้อความเมื่อไม่สามารถรับโทรศัพท์ ระบบจะส่งข้อความดังกล่าวให้ผู้ใช้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้
สามารถตรวจสอบวิธีตั้งค่าข้อความเมื่อไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ “แชท” > “ตั้งค่าแชท” (ไอคอนรูปเกียร์)
2. เลือก “โทร”
3. เปิดใช้ “ข้อความเมื่อไม่สามารถรับโทรศัพท์”
4. แก้ไขข้อความ
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “แชท” > ตั้งค่า (ไอคอนรูปเกียร์) ทางด้านขวาบน
2. เลือกที่ “โทร”
3. เปิดการตั้งค่า “ข้อความเมื่อไม่สามารถรับโทรศัพท์”
4. แก้ไขข้อความ
สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “การแจ้งเตือน” > “ตั้งค่า” (ไอคอนรูปเกียร์) ด้านขวาบน
2. เลือกที่ “โทร”
3. เปิดการตั้งค่า “รับสาย” หากต้องการรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า หรือปิดหากไม่ต้องการ
ขั้นตอนการตั้งค่าบน LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ “แชท”
2. เลือกที่ “ตั้งค่าแชท” > “พื้นฐาน”
3. เปิดใช้ “รับการแจ้งเตือนบนเว็บไซต์” ที่หัวข้อ “LINE Call”
*กรุณาเปิดการตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Google Chrome แล้วอนุญาตให้ “chat.line.biz” เข้าถึงได้
*การโทรผ่านหน้าจอการจัดการบนเว็บสามารถใช้งานได้ผ่านเบราว์เซอร์ Google Chrome เท่านั้น
ขั้นตอนการตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Google Chrome แล้วอนุญาตให้ “chat.line.biz” เข้าถึงได้
1. คลิกที่ “:” ทางด้านขวาบนของเบราว์เซอร์ Google Chrome > “การตั้งค่า”
2. คลิกที่ “การตั้งค่าเว็บไซต์” ในหัวข้อ “ข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย” > “การแจ้งเตือน”
3. คลิกที่ “chat.line.biz” ภายในหน้าการตั้งค่าการแจ้งเตือน
4. ไปที่หัวข้อการแจ้งเตือนในรายการสิทธิ์แล้วเปลี่ยนสิทธิ์เป็น “อนุญาต”
สามารถโอนสายจาก LINE Call ไปยังโทรศัพท์บ้านของร้านค้าได้
โดยประวัติการโทรและสายที่ไม่ได้รับจะแสดงอยู่ในห้องแชทเหมือนการโทร LINE Call ตามปกติ
ขั้นตอนการตั้งค่าโอนสาย LINE Call
ขั้นตอนการตั้งค่าบนหน้าจอการจัดการบน LINE Official Account Manager
1. คลิกที่แท็บ "แชท" > "ตั้งค่าแชท" (ไอคอนรูปเกียร์)
2. คลิกที่ "ตั้งค่าแชท" > "โทร"
3. คลิกเลือกประเภทการโทรเป็น "โอนสาย" ในหัวข้อ "ประเภทการโทร"
4. กรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการโอนสายในหน้าต่างป๊อปอัพ "ใส่หมายเลขโทรศัพท์" > คลิกที่ "ต่อไป"
5. ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่หน้าต่างป๊อปอัพ "ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์" > คลิกที่ "บันทึก"
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ "แชท" > "ตั้งค่าแชท" (ไอคอนรูปเกียร์)
2. เลือกที่ "โทร"
3. เลือกที่ "ประเภทการโทร" > "โอนสาย"
4. กรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการโอนสายในหน้าต่างป๊อปอัพ "ใส่หมายเลขโทรศัพท์" > เลือกที่ "ต่อไป"
5. ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่หน้าต่างป๊อปอัพ "ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์" > เลือกที่ "บันทึก"
*สามารถใช้งานได้เฉพาะแพ็กเกจเบสิคและโปรเท่านั้น
การจัดการบนเว็บไซต์
วิธีการตั้งค่า
เข้าไปที่ “หน้าหลัก” > “เครื่องมือสำหรับการเพิ่มเพื่อน”
วิธีโปรโมทบัญชีทางการของคุณลงบนโซเชียลมีเดีย
สามารถเพิ่มเพื่อนได้จากการเลือกแชร์รูปภาพหรือแชร์ลิงก์
1.เข้าไปที่ “หน้าหลัก” > “เครื่องมือสำหรับการเพิ่มเพื่อน” > “สร้างลิงก์”
2. สร้างรูปแบบที่ต้องการเพื่อโปท
ในแถบคัดลอกลิงก์ กด “คัดลอก” เมื่อคัดลอกแล้วจะมีข้อความแจ้งเตือนมุมบนขวามือ > เลือกข้อความที่ต้องการให้แสดงบนรูปภาพ > กด “บันทึก” เมื่อบันทึกแล้วจะมีข้อความแจ้งเตือนมุมบนขวามือ
วิธีตั้งค่าการเพิ่มเพื่อด้วย QR code
คุณสามารถดาวน์โหลด QR code เพื่อเพิ่มเพื่อนได้ แล้วนำไปแสดงในพื้นที่ที่ต้องการ
วิธีการสร้างคิวอาร์โค้ดคูปอง
1 |
กด "เลือก" เพื่อเลือกคูปองที่ต้องการสร้างคิวอาร์โค้ด ถ้าไม่มีคูปองที่สามารถเลือกได้ ให้กด "สร้างคูปอง" |
2 | เลือกคูปองที่สามารถใช้ได้ สามารถเลือกได้เฉพาะคูปองที่ยังไม่ถึงกำหนดหมดอายุ |
3 |
คุณสามารถคิวอาร์โค้ดที่ยังไม่ถึงกำหนดหมดอายุได้โดยการเลือก "ดาวน์โหลด" สามารถดูข้อความแจ้งเตือนกำหนดการใช้คูปอง หากต้องการแก้ไข ระยะเวลาดังกล่าว สามารถแก้ไขได้โดยการกด "แก้ไขคูปอง" |
วิธีการสร้างปุ่มเพิ่มเพื่อน
ปุ่มเพิ่มเพื่อนสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในบล็อก, หน้าโฮมเพจ, อีเมลหรืออื่น ๆ คุณสามารถคัดลอก HTML ได้โดยการกด “คัดลอก”
วิธีตั้งค่าช่องทางการเพิ่มเพื่อน
เมื่อตั้งค่าช่องการเพิ่มเพื่อนเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบได้ภายหลังที่ “ข้อมูลเชิงลึก” > “เพื่อน” > “ช่องทางการเพิ่มเพื่อน”
หลังจากใส่ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการเพิ่มเพื่อนเรียบร้อย ให้กด “ตั้งค่า” เพื่อสร้างลิงก์ คิวอาร์โค้ด หรือ ปุ่ม HTML
วิธีการสร้างโปสเตอร์เพื่อเพิ่มเพื่อน
คุณสามารถดาวน์โหลดโปสเตอร์เพื่อใช้เพิ่มเพื่อนได้ โดยนำไปวางในร้านค้าแล้วให้ลูกค้าเพิ่มบัญชีทางการของคุณเป็นเพื่อน หากบัญชีของคุณเป็นบัญชีรับรองแล้วจึงจะสามารถออกแบบโปสเตอร์ได้
บัญชีทั่วไป | บัญชีรับรอง |
---|---|
ข้อมูลเชิงลึกการเพิ่มเพื่อน
เมื่อคุณได้ตั้งค่าพารามิเตอร์ไปก่อนหน้าแล้ว คุณสามารถเช็ครายละเอียดการเพิ่มเพื่อนได้ที่ “ข้อมูลเชิงลึก” > “เพื่อน” > “ช่องทางการเพิ่มเพื่อน”
ช่องทางการเพิ่มเพื่อน | ระบุช่องทางการเพิ่มเพื่อน เช่น หน้าเว็บไซต์ หน้าร้าน สาขา1 |
---|---|
ที่มา |
ที่มาของช่องทางการเพิ่มเพื่อนนั้นๆ เช่น แบนเนอร์หลัก โพสต์ แชร์ทางแชท *หากที่มาใดไม่จำนวนการเพิ่มเพื่อนน้อยกว่า 20 จะถูกแสดงรวมอยู่ในกลุ่ม "อื่นๆ" |
แคมเปญ |
ตั้งชื่อแคมเปญ เช่น คริสต์มาส ปีใหม่ *หากแคมเปญใดไม่จำนวนการเพิ่มเพื่อนน้อยกว่า 20 จะแสดงจัดรวมอยู่ในกลุ่ม "อื่นๆ" |
*เมื่อช่องทางการเพิ่มเพื่อน ที่มา หรือ แคมเปญนั้น มีจำนวนการเพิ่มเพื่อนน้อยกว่า 20 ครั้ง ภายในช่วงเวลาที่ได้เลือกไว้ คุณจะไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลของช่องทางการเพิ่มเพื่อนนั้นได้
ในกรณีนี้ ช่องทางการเพิ่มเพื่อน ที่มาและแคมเปญจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “อื่น ๆ”
1 | ตัวเลขในพายชาร์ต | จำนวนการเพิ่มเพื่อนต่อครั้งจะถูกแสดงสำหรับทุกช่องทางการเพิ่มเพื่อน |
2 | ตัวเลขบนเส้นกราฟ | จำนวนครั้งของการเพิ่มเพื่อนและการบล็อกของแอคเคาท์จะถูกแสดงในหน้านี้ |
3 | ตัวเลขในตาราง | จำนวนครั้งของการเพิ่มเพื่อนและบล็อกของแอคเคาท์ที่อยู่ในระหว่างช่วงเวลาที่เลือก |
*สำหรับเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว ตัวเลขจะไม่แสดงหากยอดการเพิ่มเพื่อนน้อยกว่า 20 รายการต่อวัน
*สำหรับกราฟปละจำนวนตัวเลขของช่องทางการเพิ่มเพื่อนสามารถสร้างได้โดยเข้าไปที่
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
วิธีการตั้งค่า
ในเมนู “เพิ่มเพื่อนใหม่” คุณมาสามารถแสดง QR code และปุ่ม HTML เพื่อเพิ่มเพื่อนได้ โดยเข้าไปที่เมนูดังกล่าวเพื่อสร้างลิงก์ไปยังเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบริษัทได้
เพิ่มช่องทางการเพิ่มเพื่อนในพื้นที่ร้านค้าของคุณ
1. ทำโปสเตอร์
หลังจากเลือกดีไซน์และข้อความที่ต้องการโปรโมทเรียบร้อยแล้ว เลือก “สร้างโปสเตอร์” เพื่อสร้างรูปภาพโปสเตอร์
คุณสามารถบันทึกรูปภาพได้โดยเลือก “บันทึกโปสเตอร์”
บัญชีทั่วไป | บัญชีรับรอง |
---|---|
|
โปรโมทการเพิ่มเพื่อนแบบออนไลน์
2. สร้างคิวอาร์โค้ดเพิ่มเพื่อน
คุณสามารถสร้าง QR code เพื่อเพิ่มเพื่อนผ่านอุปกรณ์ในช่องทางออนไลน์ได้
เลือก “บันทึกคิวอาร์โค้ด” เพื่อบันทึกรูปภาพคิวอาร์โค้ด
คุณสามารถคัดลอก HTML ได้โดยเลือก “แสดง HTML” > “คัดลอก”
3. สร้างคิวอาร์โค้ดคูปอง
เมื่อผู้ใช้สแกนคิวอาร์โค้ดคูปอง จะได้รับคูปองและเพิ่มบัญชีทางการของร้านค้าเป็นเพื่อนโดยอัตโนมัติ
เมื่อคิวอาร์โค้ดคูปองถูกสแกน คูปองของร้านค้าจะแสดงและสามารถใช้งานได้ทันทีที่บัญชี
(1) เลือก “เลือกคูปอง” เพื่อตั้งค่าคิวอาร์โค้ด
*คุณสามารถเลือกคูปองได้เฉพาะคูปองที่ยังไม่ถึงกำหนดหมดอายุ
(2) เลือกคูปองที่สามารถใช้งานได้บนหน้าจอที่แสดง
(3) คิวอาร์โค้ดจะถูกสร้างขึ้นและสามารถใช้ได้ตามช่วงการใช้งานของคูปองแล้วเลือก
“บันทึกคิวอาร์โค้ด”
4. สร้างลิงก์
สร้างลิงก์การเพิ่มเพื่อนแล้วแชร์บนโซเชียลมีเดียหรืออีเมล
เลือก “คัดลอกลิงก์” เพื่อคัดลอกลิงก์
*เมื่อมีการคัดลอก จะมีข้อความแจ้งเตือนแสดงด้านบนของหน้าจอ
5. สร้างปุ่ม
ทำได้โดยการคัดลอก HTML แล้วนำไปสร้างปุ่มเพิ่มเพื่อนได้อย่างง่ายบนเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณ
สามารถคัดลอก HTML ได้โดยเลือก “แสดง HTML” > “คัดลอก”
6. แชร์ลิงก์ผ่านโซเชียลมีเดียหรืออีเมล
เมื่อคุณเลือกช่องทางการติดต่อที่ต้องการแชร์แล้ว คุณสามารถแก้ไขข้อความได้ก่อนโพสต์หรือส่งข้อความ
7. เลือกรูปภาพสำหรับการแชร์
เลือกแชร์รูปภาพที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ แล้วแชร์ลิงก์หรือช่องทางการติดต่อเพื่อช่วยการเพิ่มเพื่อนได้
(1) เลือก ”เลือกรูปภาพสำหรับการแชร์”
(2) เลือกข้อความที่คุณต้องการให้แสดงในรูปภาพแล้วเลือก “บันทึก”
(3) เมื่อมีการบันทึก จะมีข้อความแจ้งเตือนที่ด้านบนของหน้าจอ
(4) เลือก “คัดลอกลิงก์” หรือ ไอคอนช่องทางการติดต่อเพื่อแชร์รูปภาพพร้อมลิงก์ที่แนบไว้
โฆษณาการเพิ่มเพื่อน
*บัญชีทั่วไปและบัญชีที่ถูกเปิดและดูแลด้วยเอเจนซี่จะสามารถใช้งานโฆษณาการเพิ่มเพื่อนได้
*บัญชีทางการบางกลุ่มธุรกิจอาจไม่สามารถใช้งานได้แม้จะเป็นบัญชีรับรอง
โฆษณาการเพิ่มเพื่อน คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์โฆษณาที่อยู่ภายใต้การดูแลของ LINE Ads
คุณสามารถโฆษณาการเพิ่มเพื่อนได้ผ่านการจัดการผ่านหน้าเว็บไซต์
1.เข้าไปที่แถบเมนู ”เพิ่มเพื่อนใหม่” > เลือก “โฆษณาเพิ่มเพื่อน”
1 | จำนวนการเพิ่มเพื่อนจากการโฆษณาการเพิ่มเพื่อนในเดือนนี้ และค่าใช้จ่ายในการโฆษณาการเพิ่มเพื่อน |
2 |
สถานะโฆษณาการเพิ่มเพื่อนได้แก่ นำส่งแล้ว/ร่าง หากโฆษณาการเพิ่มเพื่อนใดที่ได้นำส่งโฆษณาแล้วจะมีสถานะ กำลังแสดง: โฆษณาการเพิ่มเพื่อนกำลังใช้งาน ณ ขณะนั้น Suspended: โฆษณาการเพิ่มเพื่อนเข้าถึงผู้ใช้เรียบร้อยแล้วหรือหยุดการใช้งานแล้ว Under review: โฆษณากำลังอยู่ระหว่างการพิจรณา ถูกปฏิเสธ: โฆษณาถูกปฏิเสธการพิจรณา |
3 | ค้นหาโฆษณาการเพิ่มเพื่อนจากสถานะ |
4 | รายการโฆษณาการเพิ่มเพื่อน หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมให้เลือกโฆษณาการเพิ่มเพื่อนนั้นๆ |
2. สามารถสร้างโฆษณาใหม่ได้โดยเลือก “สร้างใหม่”
3. ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เห็นโฆษณา *หากคุณกำลังใช้งานบัญชีร้านค้า แนะนำให้ระบุพื้นที่อย่างเจาะจง
1 | ตั้งค่าเพศของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งหมด/ชาย/หญิง |
2 | ตั้งค่าช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมาย |
3 |
ตั้งค่าพื้นที่ของกลุ่มเป้าหมาย สามารถตั้งค่าได้ 2 วิธี ใส่ชื่อพื้นที่: สามารถกำหนดพื้นที่เองได้โดยใส่ชื่อพื้นที่ กำหนดรัศมีพื้นที่: เลือกพื้นที่ต้องการกำหนดรัศมีแล้วเลือกระยะทางที่ต้องการ |
4 | ตั้งค่าความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย สามารถเลือกได้หลายตัวเลือก |
5 | จำนวนคาดการณ์ของกลุ่มเป้าหมายที่โฆษณาของคุณสามารถเข้าถึงได้ จากการกำหนดคุณสมบัติกลุ่มเป้าหมายข้างต้น |
4. กำหนดงบประมาณสำหรับโฆษณา ซึ่งมีผลต่อจำนวนการมองเห็นโฆษณา
*เรียกเก็บเงินเฉพาะผู้ใช้ที่เพิ่มบัญชีทางการของคุณเป็นเพื่อนแล้วเท่านั้10
1 |
กำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายการโฆษณาการเพิ่มเพื่อนต่อวัน
*งบประมาณสูงสุดสำหรับใช้กับงบประมาณโฆษณา 1 วัน จำนวนเงินที่ใช้จริงอาจสูงกว่า งบประมาณที่กำหนดไว้ เนื่องจากการทำงานระบบ |
2 |
กำหนดงบประมาณรวมสำหรับโฆษณาการเพิ่มเพื่อนทั้งแคมเปญ สามารถเลือก ใช้จนครบ
จำนวนสูงสุด/กำหนดเอง
*โฆษณาเพิ่มเพื่อนจะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครบตามที่ กำหนด |
3 |
ตั้งค่างบประมาณสูงสุดต่อการเพิ่มเพื่อน 1 คน
ไม่กำหนด: การไม่กำหนดจะได้กลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น เพราะหากกลุ่มเป้าหมายแคบอาจทำให้ ราคาต่อหน่วยสูงกว่า กำหนด: หากต้องการกำหนด งบประมาณรายวันอาจถูกใช้ไม่หมดเพราะระบบจะเสนอราคา โฆษณาไม่ให้เกินงบประมาณที่กำหนดไว้ |
4 | แสดงผลลัพธ์การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยประมาณต่อวัน |
5. ตั้งค่าครีเอทีฟโฆษณา
ชื่อ | ตั้งค่าชื่อเพื่อบอกผู้ใช้เกี่ยวกับบัญชีของคุณ |
---|---|
คำอธิบาย | บอกความน่าสนใจเกี่ยวกับบัญชีผ่านคำอธิบายสั้น ๆ ไม่เกิน 75 ตัวอักษร |
รูป |
คุณสามารถกำหนดอัตราส่วนของรูปได้ แล้วเพิ่มรูปโดยการเลือกรูป/สร้างรูป หรือสามารถสร้างได้ผ่าน LINE Creative Lab |
ดูตัวอย่าง | สามารถดูตัวอย่างรูปภาพที่คุณสร้างได้ 2 รูปแบบ |
6. ตรวจการตั้งค่าโฆษณาการเพิ่มเพื่อน
ตรวจสอบการตั้งค่าอีกครั้งการนำส่งให้ตรวจสอบ
บันทึกร่าง: บันทึกเพื่อสามารถแก้ไขต่อได้คราวหลัง โดยเลือกโฆษณาที่ต้องการแก้ไขในหน้าโฆษณาการเพิ่มเพื่อน
แก้ไข: แก้ไขข้อมูลแต่ละส่วน
นำส่งตรวจสอบ: นำส่งตรวจสอบ หากผ่านการพิจรณาโฆษณาจะทำงานโดยอัตโนมัติละหยุดเมื่อครบกำหนดที่ได้ตั้งค่าไว้
ริชเมนู (Rich menu) คือ แถบเมนูขนาดใหญ่ที่แสดงอยู่ด้านล่างหน้าจอแชทของ LINE Official Account ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น พาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก, แจกคูปอง, ส่งข้อควาาม, แสดงบัตรสะสมแต้ม, แสดงเบอร์ติดต่อ
จุดเด่นของริชเมนู
- แถบเมนูมีขนาดใหญ่แสดงอยู่ด้านล่างหน้าจอแชท
- สามารถตั้งค่าแต่ละเมนูได้ เช่น พาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก, แจกคูปอง, ส่งข้อควาาม, แสดงบัตรสะสมแต้ม, แสดงเบอร์ติดต่อ
- แสดงริชเมนูได้หลากหลายเทมเพลต
- สามารถกำหนดช่วงเวลาแสดงและซ่อนได้จากหน้าจอจัดการ
การจัดการบนเว็บไซต์
สร้างริชเมนู
เข้าไปที่เมนู “หน้าจอแชท” > “ริชเมนู”
เลือก “สร้างใหม่” ที่มุมขวาบนของหน้าจอ
2. ตั้งค่าข้อมูลแต่ละส่วน
1 | คุณสามารถตั้งชื่อริชเมนูนี้ได้ โดยจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น | ||||||||||
2 |
คุณสามารถตั้งค่าช่วงเวลาที่ริชเมนูจะแสดงบนอุปกรณ์ผู้ใช้ได้ *เมื่อมีการบันทึกตั้งค่าแล้ว ระบบอาจใช้เวลาสักครู่เพื่อแสดงผลให้ผู้ใช้เวลา นั้นขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของริชเมนูและจำนวนเพื่อนที่คุณมี |
||||||||||
3 |
คุณสามารถดูตัวอย่างการตั้งค่าของริชเมนูที่จะแสดงผลบนหน้าจอของผู้ใช้ได้ เลือก เปิด/ปิด แสดงเส้นขอบเทมเพลต เพื่อดูเส้นขอบเทมเพลตแต่ละตัวเลือกได้ *ในการแสดงบนหน้าของผู้ใช้อาจมีความต่างกันตามอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ |
||||||||||
4 | คุณสามารถดาวน์โหลดเทมเพลตเพื่อสร้างรูปภาพที่เหมาะสมกับรูปแบบริชเมนู | ||||||||||
5 | เลือกเทมเพลตของริชเมนู
|
||||||||||
6 |
ตั้งค่ารูปภาพริชเมนู คุณสามารถตั้งค่าได้ 2 แบบ |
||||||||||
อัปโหลดรูปภาพเพื่อใช้เป็นฉากหลังโดยรวม แนะนำให้ตรวจสอบขนาดก่อนอัปโหลดเพื่อความพอดีระหว่างรูปภาพและริชเมนู - ริชเมนูขนาดใหญ่ 2,500px X 1,686px 1,200px X 810px 800px X 540px |
|||||||||||
สร้างรูปภาพสำหรับแต่ละเมนู สามารถใช้เครื่องมือเพื่อแก้ไขรูปภาพสำหรับแต่ละเมนูได้
คุณสามารถใช้ Creative Lab ในการสร้างรูปภาพคุณภาพสูงได้ *คุณจำเป็นต้องใช้บัญชี Adobe ในการใช้งาน (สมัครฟรี) |
|||||||||||
7 | สร้างเนื้อหาที่ต้องการใช้ในแต่ละเมนู *หากคุณเลือก URL/คูปอง คุณต้องใส่ป้ายแอ็กชันกำหนดสูงสุด 20 ตัวอักษร และไม่สามารถละเว้นส่วนนี้ได้ |
||||||||||
8 | ตั้งค่าชื่อส่วนเมนูบาร์ให้แสดง "เมนู" หรือ กำหนดข้อความเอง | ||||||||||
9 | ตั้งค่าการแสดงแถบริซเมนูทันทีเมื่อผู้ใช้เข้ามาในห้องแชทหรือซ่อนไว้แสดงภายหลัง | ||||||||||
10 | เลือก "บันทึก" หรือ "บันทึกร่าง" สามารถแก้ไขภายหลังได้ |
คัดลอกริชเมนู
คุณสามารถคัดลอกริชเมนูที่สร้างขึ้นแล้วได้
*คุณจะไม่สามารถบันทึกริชเมนูได้ หากช่วงที่แสดงเป็นช่องเวลาเดียวกันกับริชเมนูที่เคยมี
หน้าต่างริชเมนู
1 | แสดงริชเมนูที่กำลังใช้งานอยู่ขณะนี้ |
2 | แสดงริชเมนูที่มีระยะเวลารอการใช้งาน |
3 | แสดงริชเมนูที่ได้ผ่านระยะเวลาการใช้งานไปแล้วและริชเมนูที่ถูกบันทึกร่างเอาไว้ |
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
สร้างริชเมนู
1. เข้าไปที่เมนู “ริชเมนู” แล้วเลือก “สร้างใหม่”
2. เลือกเทมเพลต
3. เลือก “อัปโหลดรูป” หรือ “ใช้รูปดีฟอลต์”
*ไฟล์ที่อัปโหลดควรเป็น JPG JPEG PNG ขนาดไม่เกิน 1MB (เมกะไบต์) ขนาดรูป 2500px X 1686px หรือ 2500px X 843px
กรณีอัปโหลดรูปภาพ
แนะนำให้ตรวจสอบขนาดก่อนอัปโหลดเพื่อความพอดีระหว่างรูปภาพและริชเมนู
ริชเมนูขนาดใหญ่
2,500px X 1,686px
1,200px X 810px
800px X 540px
ริชเมนูขนาดเล็ก
2,500px X 843px
1,200px X 405px
800px X 540px
800px X 270px
4.เลือก ”ต่อไป” เพื่อตั้งค่าแอ็กชัน
สร้างเนื้อหาที่ต้องการใช้แต่ละเมนู
*หากคุณเลือก URL/คูปอง คุณต้องใส่ป้ายแอ็กชันกำหนดสูงสุด 20 ตัวอักษร และไม่สามารถละเว้นส่วนนี้ได้
5. ตั้งค่าเมนู
1 | คุณสามารถตั้งชื่อริชเมนูนี้ได้ โดยจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น |
2 |
คุณสามารถตั้งค่าช่วงเวลาที่ริชเมนูจะแสดงบนอุปกรณ์ผู้ใช้ได้ *เมื่อมีการบันทึกตั้งค่าแล้ว ระบบอาจใช้เวลาสักครู่เพื่อแสดงผลให้ผู้ใช้เวลา นั้นขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของริชเมนูและจำนวนเพื่อนที่คุณมี |
3 | ตั้งค่าชื่อส่วนเมนูบาร์ให้แสดง “เมนู” หรือ กำหนดข้อความเอง |
4 | ตั้งค่าการแสดงแถบริชเมนูทันทีเมื่อผู้ใช้เข้ามาในห้องแชทหรือซ่อนไว้แสดงภายหลัง |
5 | เมื่อเลือก "บันทึก" ริชเมนูจะแสดงใน ตั้งเวลา หากเลือก "บันทึกรายชื่อริชเมนูพร้อมใช้งาน" ริชเมนูจะแสดงใน พร้อมใช้งาน |
หน้าต่างริช
1 | แสดงริชเมนูที่กำลังใช้งานอยู่ขณะนี้ |
2 | แสดงริชเมนูที่มีระยะเวลารอการใช้งาน |
3 | แสดงริชเมนูที่ได้ผ่านระยะเวลาการใช้งานไปแล้วและริชเมนูที่ถูกบันทึกร่างเอาไว้ |
คัดลอกริชเมนู
คุณสามารถคัดลอกริชเมนูที่สร้างขึ้นแล้วได้
*คุณจะไม่สามารถบันทึกริชเมนูได้ หากช่วงที่แสดงเป็นช่องเวลาเดียวกันกับริชเมนูที่เคยมี
ปัจจุบันฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้บริการเฉพาะบัญชีพรีเมียม (Premium Account) หรือบัญชีโล่สีเขียวเท่านั้น ซึ่งเป็นบัญชีธุรกิจสำหรับองค์กรหรือหน่วยงานราชการ
โปรไฟล์ เปรียบเหมือนมินิเว็บไซต์ที่คุณสามารถกรอกข้อมูลพื้นฐานของบริษัท, ร้านค้า, หรือแแบรนด์สินค้า โดยข้อมูลบนโปรไฟล์สามารถแชร์บนเว็บในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และข้อมูลดังกล่าวจะเป็นช่องทางการเผยแพร่ที่ดีที่สุดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รู้จักบัญชีทางการของคุณมากขึ้น
การแชร์ข้อมูลบนเว็บสามารถทำได้เฉพาะบัญชีรับรองเท่านั้น
สามารถแก้ไขโปรไฟล์ได้ดังนี้
ขั้นตอนการแก้ไขผ่านแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “หน้าหลัก” > “โปรไฟล์”
2. แก้ไขหัวข้อที่ต้องการในหน้าโปรไฟล์
3. เลือก “เปิดใช้เนื้อหาที่บันทึกไว้” เพื่อบันทึกและแสดงข้อมูลโปรไฟล์บนบัญชีทางการ
ขั้นตอนการแก้ไขผ่านเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่ “โปรไฟล์”
2. แก้ไขหัวข้อที่ต้องการในหน้าโปรไฟล์
3. เลือก “เปิดใช้เนื้อหาที่บันทึกไว้” เพื่อบันทึกและแสดงข้อมูลโปรไฟล์บนบัญชีทางการ
กรุณาตรวจสอบวิธีทำให้ปุ่มโทรแสดงบนหน้าโปรไฟล์ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “หน้าหลัก” > “โปรไฟล์”
2. เลือกที่ “เพิ่ม” > เลือก “โทร” > เลือกที่ “ต่อไป”
3. เลือก “LINE Call” หรือเบอร์ที่ต้องการ > เลือกที่ “เพิ่ม”
4. เลือกที่ “บันทึก” > “ตกลง”
5. เลือก “เปิดใช้เนื้อหาที่บันทึกไว้” เพื่อบันทึกและแสดงข้อมูลโปรไฟล์บนบัญชีทางการ
ขั้นตอนการตั้งค่าบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่ “โปรไฟล์”
2. เลือกที่ “เพิ่มปุ่ม” > “โทร” > “ต่อไป”
3. เลือก “LINE Call” หรือเบอร์ที่ต้องการ > เลือกที่ “เพิ่ม”
4. เลือกที่ “เปิดใช้”
5. เลือก “บันทึก” > “ตกลง”
6. เลือก “เปิดใช้เนื้อหาที่บันทึกไว้” เพื่อบันทึกและแสดงข้อมูลโปรไฟล์บนบัญชีทางการ
การจัดการบนเว็บไซต์
ในหน้าโปรไฟล์คุณสามารถโพสต์ข้อความเกี่ยวกับองค์กรหรือบริษัทของคุณ
หน้าต่างโปรไฟล์
คุณสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ได้ โดยมีข้อมูลทั้งหมด 4 ส่วน
*หากคุณเพิ่มข้อมูลส่วนส่งเสริมการขาย ข้อมูลนั้นจะแสดงในข้อมูลพื้นฐาน
*แชท เป็นปุ่มค่าเริ่มต้น คุณสามารถเลือกเพิ่มได้อีก 2 ปุ่ม ได้แก่ โพสต์ โทร คูปอง บัตรสะสมแต้ม ตำแหน่งที่ตั้ง เว็บไซต์ของบริการ และ จอง
คอนเทนต์ ได้แก่ ข้อความอิสระ โชว์เคส โพสต์ล่าสุด
เครื่องมือส่งเสริมการขาย ได้แก่ บัตรสะสมแต้ม คูปอง
ข้อมูลบัญชี ได้แก่ คำถามที่พบบ่อย ข้อมูลพื้นฐาน ประกาศ
บริการ ได้แก่ แนวทางปฏืบัติด้านสาธารณสุข ซื้อกลับบ้าน เดลิเวอรี่อาหาร เดลิเวอรี่สินค้า
หน้าต่างการตั้งค่าโปรไฟล์
เมื่อคุณคลิกเข้าไปส่วนที่ต้องการแก้ไข ข้อมูลจะแสดงด้านขวามือ
*แนะนำให้ใช้ Google Chrome หรือ Mozilla Firefox เพื่อการตั้งค่าโปรไฟล์ที่ดีขึ้น
1 | แก้ไข จะเเสดงอยู่มุมซ้ายเยื้องของส่วนที่คุณเลือก เมื่อคลิกปุ่มแก้ไข รายละเอียดของส่วนนี้จะแสดงด้านขวามือ |
2 | คุณสามารถเพิ่มปลั๊กอินได้ |
3 |
เลือกปุ่มนี้หากต้องการใช้เกมเพลต โดยมี 4 แบบได้แก่
คุณสามารถดูตัวอย่างหน้าโปรไฟล์ได้
|
4 | ตรวจสอบ การสถานการณตั้งค่าโปรไฟล์ |
5 | ในการตั้งค่าอย่างละเอียดคุณสามารถเช็คอินโพรไฟล์บนเบราว์เซอร์ และข้อมูลบัญชีได้ |
6 | ล้างข้อมูลการตั้งค่าทั้งหมด |
7 | คุณสามารถตั้งค่ารูปภาพพื้นหลัง ขนาดรูปภาพที่แนะนำ: ไม่้อยกว่ 200px X 200px และไม่เกิน 10MB (เมกะไบต์) |
8 | แสดงข้อมูลบัญชี หากต้องการแก้ไขให้ไปที่ ตั้งค่าบัญชี |
9 | เลือกแสดง/ไม่แสดงจำนวนผู้ติดตาม |
10 |
คุณสามารถตั้งค่าปุ่มที่ต้องการให้แสดงบนหน้าโปรไฟล์ได้ *เเชท เป็นปุ่มค่าเริ่มต้น
คุณสามารถเลือกเพิ่มได้อีก 2 ปุ่มจากทั้งหมดได้แก่
|
11 | คุณสามารถต้องกำพื้นหลังที่ต้องการให้แสดงบนหน้าโปรไฟล์ได้ |
12 | เปลี่ยนสีของปุ่ม เพิ่มเพื่อน สำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่เป็นเพื่อนกับบัญชีคุณ หรือ เเชท สำหรับผู้ใช้ได้ใช้เป็นเพื่อนกับบัญชีของคุณแล้ว |
13 | คุณสามารถเลือกข้อความบนปุ่มข้างล่างได้สูงสุด 3 ข้อความ *กรณีเลือกมากกว่า 1 ข้อความ ระบบจะเเสดงข้อความบนปุ่มในรูปแบบสลับ *หากไม่มีการเลือกข้อความ ระบบจะเเสดง รับข่าวสารพิเศษสำหรับเพื่อน โดยอัตโนมัติ |
14 | บันทึกและเปิดใช้งานข้อมูลที่ตั้งค่าไว้ |
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
ในหน้าโปรไฟล์คุณสามารถโพสต์ข้อความเกี่ยวกับองค์กรหรือบริษัทของคุณ
หน้าต่างโปรไฟล์
คุณสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ได้ โดยมีข้อมูลทั้งหมด 4 ส่วน
*หากคุณเพิ่มข้อมูลส่วนส่งเสริมการขาย ข้อมูลนั้นจะแสดงในข้อมูลพื้นฐาน
*แชท เป็นปุ่มค่าเริ่มต้น คุณสามารถเลือกเพิ่มได้อีก 2 ปุ่ม ได้แก่ โพสต์ โทร คูปอง บัตรสะสมแต้ม ตำแหน่งที่ตั้ง เว็บไซต์ของบริการ และ จอง
คอนเทนต์ ได้แก่ ข้อความอิสระ โชว์เคส โพสต์ล่าสุด
เครื่องมือส่งเสริมการขาย ได้แก่ บัตรสะสมแต้ม คูปอง
ข้อมูลบัญชี ได้แก่ คำถามที่พบบ่อย ข้อมูลพื้นฐาน ประกาศ
บริการ ได้แก่ แนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุข ซื้อกลับบ้าน เดลิเวอรี่อาหาร เดลิเวอรี่สินค้า
1 | คุณสามารถเพิ่มปลั๊กอินได้สูงสุด 20 ปลั๊กอิน |
2 | ตรวจสอบการสถานการณตั้งค่าโปรไฟล์ |
3 | แก้ไขรูปภาพโปรไฟล์ |
4 | เลือกแสดง/ไม่แสดงจำนวนผู้ติดตาม |
5 |
คุณสามารถตั้งค่าปุ่มที่ต้องการให้แสดงบนหน้าโปรไฟล์ได้
*เเชท เป็นปุ่มค่าเริ่มต้น คุณสามารถเลือกเพิ่มได้อีก 2 ปุ่ม ได้แก่
โพสต์: เข้าไปยังหน้าโปรไฟล์ LINE VOOM โทร: สามารถตั้งค่าให้การโทรด้วย LINE call และ เบอร์โทรศัพท์ คูปอง: เข้าไปยังหน้าต่างคูปองของร้านค้า บัตรสะสมแต้ม: เข้าไปยังหน้าต่างบัตรสะสมแต้มของร้านค้า ตำแหน่งที่ตั้ง: แสดงแผนที่ร้านค้าดั้งค่าเอาไว้ เว็บไซต์ของบริการ: ลิงกไปยังเว็บไซต์ที่ตั้งค่าไว้ โดยสามารถเลือกข้อความสำหรับปุ่ม ได้แก่ เว็บไซต์ ร้านค้า และ บริการ |
6 |
คุณสามารถตั้งค่าพื้นหลังและสีของปุ่มได้ และสามารถเลือกข้อความบนปุ่มข้างล่างได้สูงสุด 3 ข้อความ *กรณีเลือกมากกว่า 1 ข้อความ ระบบจะแสดงข้อความบนปุ่มในรูปแบบสลับ *หากไม่มีการเลือกข้อความ ระบบจะแสดง รับข่าวสารพิเศษสำหรับเพื่อน โดยอัตโนมัติ |
7 | แสดงปลั๊กอินที่คุณได้ตั้งค่าไว้ |
8 | คุณสามารถตรวจสอบการแก้ไขโปรไฟล์บนต้องเว็บไซต์ได้ |
9 | บันทึกและเปิดใช้งานข้อมูลที่ตั้งค่าไว้ |
คุณสามารถส่งข้อความหาผู้ใช้ที่เป็นเพื่อนกับบัญชีทางการได้โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ต้องการได้ เช่น มีระยะเวลาเป็นเพื่อนกันตามที่กำหนด
สเต็ปเมสเสจ
1.เข้าไปที่แถบเมนู ”สเต็ปเมสเสจ”
1 | สร้างสเต็ปเมสเสจใหม่ โดยเลือกใช้เทมเพลต หรือ สร้างใหม่
*สามารถสร้างได้สูงสุด 20 สเต็ปเมสเสจ |
2 | ค้นหาสเต็ปเมสเสจจากชื่อหรือสถานะ |
3 | ชื่อของสเต็ปเมสเสจเพื่อความสะดวกในการจัดการ |
4 | สถานะการใช้งาน กำลังใช้งาน หยุดใช้งาน หรือ เก็บถาวร |
5 | ระยะเวลาการใช้งานที่กำหนดไว้ |
6 | จำนวนวันการใช้งานที่เสต็ปเมสเสจได้ถูกใช้ |
7 | การจัดการเพิ่มเติมเกี่ยวกับเต็ปเมสเสจ
ข้อมูลเชิงลึก: ดูข้อมูลเชิงลึกการใช้งานของสเต็ปเมสเสจ คัดลอก: คัดลอกเสต็ปเมสเสจ เก็บถาวร: เมื่อเก็บถาวรจะไม่สามารถยกเลิกหรือแก้ไขสเต็ปเมสเสจนั้นได้ แต่ ยังสามารถดูข้อมูลเชิงลึกได้ ลบ: เมื่อลบสเต็ปเมสเสจแล้วจะไม่สามารถกู้คืนได้ |
สเต็ปเมสเสจเทมเพลต
เลือก “สร้างใหม่” ทางด้านมุมบนขวามือ > ”ใช้เทมเพลต”
คุณสามารถเลือกเทมเพลตที่แนะนำตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างได้ดังนี้
1.ติดตาม เทมเพลตแนะนำสำหรับบัญชีทางการที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหน การส่งข้อความหรือคูปองให้เพื่อนใหม่หลังจากเพิ่มเพื่อนได้สองสามวันหรือหลายสัปดาห์ อาจช่วยให้ผู้ใช้ถูกใจบัญชีของคุณมากยิ่งขึ้น
- ทักทายเพื่อนใหม่ (ระยะสั้น) ส่งข้อความเมื่อครบ 3 วัน หลังจากเพิ่มเพื่อน
- ทักทายเพื่อนใหม่ (ระยะยาว) ส่งข้อความเมื่อครบ 30 วัน หลังจากเพิ่มเพื่อน
2.เชิญชวนให้มาร้าน เทมเพลตสำหรับบัญชีทางการที่โปรโมตการเพิ่มเพื่อนผ่านคิวอาร์โค้ดที่ร้าน กำหนดเวลาให้ส่งข้อความหลังจากผู้ใช้เพิ่มเพื่อนได้สองสามวันหรือหลายสัปดาห์ เพื่อเชิญชวนให้ลูกค้ามาที่ร้านอีกครั้งและกลายเป็นลูกค้าขาประจำ
- เชิญชวนให้มาร้าน (ระยะสั้น) ส่งข้อความเมื่อครบ 5 วันหลังเพิ่มเพื่อนผ่านคิวอาร์โค้ดในร้าน
- เชิญชวนให้มาร้าน (ระยะยาว) ส่งข้อความเมื่อครบ 5 วันหลังเพิ่มเพื่อนผ่านคิวอาร์โค้ดในร้าน
3. ขอให้รีวิวหรือแชท ใช้เทมเพลตนี้เพื่อเชิญชวนลูกค้าให้เขียนรีวิวสินค้าและบริการของคุณ หรือโปรโมตให้ลูกค้าแชทหาบัญชีก็ได้ การจัดการเกี่ยวกับเพื่อนและการเพิ่มจำนวนรีวิวจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4. โปรโมทสินค้าและบริการ เทมเพลตแนะนำสำหรับโปรโมตสินค้าและบริการของบริษัท บอกให้ลูกค้าทราบถึงจุดขายของสินค้าและบริการด้วยข้อความในรูปแบบบทความ แล้วแยกส่งเนื้อหาทีละส่วนตามลำดับจะสร้างความน่าสนใจได้มากกว่าการรวมทั้งหมดไว้ในข้อความเดียว
สร้างสเต็ปเมสเมจ
เลือก “สร้างใหม่” ทางด้านมุมบนขวามือ > ”สร้างใหม่”
1 | ตั้งค่าชื่อสเต็ปเมสเสจ สูงสุด 50 ตัวอักษร |
2 | ตั้งค่าไทม์โซนเพื่อนำไปใช้กับช่วงเวลาการกำหนดส่งข้อความ |
3 | ตั้งค่าเวลาใช้งาน คุณสามารถตั้งเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้งานได้
*เมื่อสิ้นสุดการใช้งานแล้ว เพื่อนใหม่จะไม่ได้รับข้อความดังกล่าวแม้จะมี คุณสมบัติตามที่กำหนด แต่เพื่อนที่ได้รับสเต็ปเมสเสจแล้วจะยังคงได้รับสเต็ป เมสเสจครบตามที่กำหนดไว้ต่อไป |
4 | ตั้งค่าจำนวนลิมิตข้อความ |
5 | บันทึกการตั้งค่าสเต็ปเมสเสจ หรือ ปิดการใช้งาน
*หากปิดการใช้งาน การส่งข้อความจะถูกระงับตลอดการปิดการใช้งาน |
6 | แสดงข้อมูลเชิงลึกของเสต็ปเมสเสจ |
ตั้งค่าข้อความ
1. การตั้งค่าข้อความพื้นฐาน
1 | แสดงการตั้งค่าเส้นทางเสต็ปเมสเสจทั้งหมด สามารถเลื่อนหน้าจอได้โดยการลาก |
2 | แสดงรูปแบบและการตั้งค่าของสเต็ปเมสเสจ |
3 | คลิกเพื่อเพิ่มสเต็ปเมสเสจ *เพิ่มได้สูงสุด 10 สเต็ปต่อเส้นทาง และ 50 สเต็ปต่อการส่งข้อความ |
4 | ป้ายข้อความแจ้งเตือนหัวข้อที่ยังไม่ได้ตั้งค่า |
5 | แสดงสเต็ปเมสเสจสามารถแก้ไขได้โดยการคลิก |
6 | แสดง “เสร็จสิ้น” เมื่อสิ้นสุดเส้นทาง |
7 | หน้าต่างการตั้งค่าสเต็ปเมสเสจ |
8 | ลบเสต็ปเมสเสจ *การลบไม่กระทบต่อสเต็ปเมสเสจถัดไป |
9 | สามารถดูตัวอย่างการส่งข้อความและทดสอบการส่งข้อความได้ |
10 | สามารถเพิ่มอิโมจิ ชื่อผู้ใช้ และชื่อบัญชีในข้อความได้ |
11 | ยกเลิกการตั้งค่าและปิดหน้าต่างการตั้งค่า |
12 | บันทึกการตั้งค่า |
2. ตั้งค่าเงื่อนไขการเริ่มทำงาน (ข้อความเริ่มต้น)
1 | ตั้งค่าเงื่อนไขการเริ่มทำงาน แก้ไขได้โดยการคลิก |
2 |
สามารถเลือกกลุ่มผู้รับข้อความได้ เพิ่มเพื่อน: ส่งข้อความแก่ทุกคนที่ไม่การเพิ่มเพื่อนใหม่ กลุ่มเป้าหมาย: เลือกจากกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่ *รวม คือ การส่งข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายที่รวมกลุ่มเป้าหมายที่เลือก ยกเว้น คือ การส่งข้อความไปหาผู้ใช้ที่ไม่รวมอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่เลือก |
3 | (กรณีเลือกผู้รับ: เพิ่มเพื่อน) ระบุวันเพิ่มเพื่อน เพื่อส่งข้อความแก่ผู้ใช้ที่เพิ่มเพื่อนเข้ามาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว |
4 | (กรณีเลือกผู้รับ: เพิ่มเพื่อน) ระบุช่องทางการเพิ่มเพื่อน: เพื่อส่งข้อความแก่ผู้ใช้ที่เพิ่มเพื่อนเข้ามาผ่านช่องทางดังกล่าว ทุกรูปแบบ: ทุกช่องทางการเพิ่มเพื่อน รูปแบบที่กำหนด: สามารถเลือกได้หลายช่องทาง |
3. ตั้งค่าระยะเวลาการรอ
ระบุจำนวนวันเพื่อส่งข้อความถึงไปหลังจากวันที่กำหนด
*ระบุได้สูงสุด 30 วัน
4. ตั้งค่าเงื่อนไข
1 | เลือกเงื่อนไขที่ต้องการตรวจสอบหรือแก้ไข |
2 | ตั้งชื่อเงื่อนไขเพื่อความสะดวกในการใช้งาน |
3 | ระบุคุณสมบัติผู้รับข้อความ ได้แก่ เพศ อายุ ระบบปฏิบัติการ พื้นที่ |
4 | เลือกกลุ่มเป้าหมายผู้รับข้อความ
*รวม คือ การส่งข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายที่รวมกลุ่มเป้าหมายที่เลือก ยกเว้น คือ การส่งข้อความไปหาผู้ใช้ที่ไม่รวมอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่เลือก |
5. ตั้งค่าข้อความ
เลือก “เพิ่มสเต็ป” > “ส่งข้อความ”
1 | ดูตัวอย่างการส่งข้อความได้ 2 มุมมองคือ ห้องแชทและรายชื่อแชท |
2 | ทดลองส่งข้อความตามที่ได้ตั้งค่าไว้ |
3 | ตั้งชื่อป้ายข้อความเพื่อความสะดวกในการใช้งาน |
4 | ตั้งค่าเวลาการส่งข้อความ
*อาจไม่สามารถส่งข้อความทั้งหมดได้ตามเวลาที่กำหนด หากข้อความมี จำนวนมากเกินไประบบจะส่งให้ในเวลาเดียวกันของวันถัดไป |
5 | ตั้งค่าเนื้อหาข้อความที่ต้องการส่ง |
คุณสามารถสร้างแคมเปญแล้วเชื่อมต่อข้อความหลายข้อความกับแคมเปญนั้นเพื่อเก็บข้อมูลในระดับแคมเปญได้
สร้างแคมเปญใหม่
1. เข้าไปที่แถบเมนู ”บรอดแคสต์” เลือก “แคมเปญ” > ”สร้างแคมเปญ”
2. ตั้งค่าชื่อแคมเปญ > แล้ว “บันทึก”
แคมเปญที่สร้างแล้วจะแสดงใน “ชื่อแคมเปญ”
ตั้งค่าข้อความแคมเปญ
1. เข้าไปที่แถบเมนู ”บรอดแคสต์” เลือก “สร้างบรอดแคสต์”
2. ตั้งค่าชื่อแคมเปญ > แล้ว “บันทึก”
แคมเปญที่สร้างแล้วจะแสดงใน “ชื่อแคมเปญ”
ตั้งค่าข้อความแคมเปญ
1. เข้าไปที่แถบเมนู ”บรอดแคสต์” เลือก “สร้างบรอดแคสต์”
2. เลือก “เชื่อมต่อกับแคมเปญ” ในหัวข้อ ตั้งค่าขั้นสูง
เลือกแคมเปญที่ต้องการเชื่อมต่อกับข้อความ
เมื่อข้อความถูกส่งเรียบร้อยแล้วแล้ว จะแสดงในข้อความที่ “ส่งแล้ว”
การตอบกลับข้อความอัตโนมัติเมื่อมีข้อความส่งมาจากผู้ใช้ โดยมี 2 ประเภทคือ ตอบกลับทุกข้อความ และ ตอบกลับตามคีย์เวิร์ด
สร้างข้อความตอบกลับ
1.เข้าไปที่แถบเมนู ”ข้อความอัตโนมัติ” เลือก “ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ” > ”สร้างใหม่”
*สามารสร้างข้อความตอบกลับได้สูงสุด 1000 ข้อความ
2. ตั้งค่าข้อความตอบกลับ
1 | ตั้ง |
2 |
ตอบกลับทุกข้อความ: ตอบกลับทุกข้อความที่ถูกส่งมาจากผู้ใช้ ตอบกลับตามคีย์เวิร์ด: ระบุคีย์เวิร์ดเข้าไป แล้วข้อความตอบกลับจะส่งเฉพาะ ให้ผู้ใช้ที่ส่งข้อความมาโดยมีคีย์เวิร์ดดังกล่าว *ในกรณีข้อความนั้นมีหลายคีย์เวิร์ด ระบบจะตอบกลับตามคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่ง |
3 | สามารถตั้งค่าวันและเวลาการตอบกลับเฉพาะข้อความที่ถูกส่งมาในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้นได้ |
4 | ตั้งค่าเนื้อหาข้อความ |
3. เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้วให้เลือก “เริ่มใช้งาน”
หรือ หากต้องการแก้ไขเนื้อหาข้อความตอบกลับที่เคยสร้างแล้ว ให้เลือกข้อความนั้นๆในรายการข้อความ
ตั้งค่าการใช้ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > ”ข้อความการตอบกลับ” > เลือก วิธีตอบข้อความ
หรือ สามารถตรวจสอบการตั้งค่าได้ที่หน้าเมนูข้อความตอบกลับอัตโนมัติ
*ในการใช้งานข้อความตอบกลับอัตโนมัติ คุณสามารถเริ่มต้นหรือหยุดใช้งานได้ทุกเวลา
กรณีที่มีการตั้งค่าหลายข้อความตอบกลับอัตโนมัติ
2.1 ส่งข้อความตอบกลับทุกข้อความที่มีการระบุช่วงเวลาการส่งข้อความไว้
2.2 ส่งข้อความตอบกลับทุกข้อความที่มีการระบุเวลา(ทุกวัน)ไว้
2.3 ส่งข้อความตอบลับที่ไม่ได้มีการตั้งค่าช่วงเวลาไว้
3. หากมีการตั้งค่าเงื่อนไขการส่งข้อความตอบกลับที่เหมือนเอาไว้ ระบบจะส่งข้อความแบบสุ่ม
การตั้งค่าการตอบกลับ / วิธีการตอบแชท
สามารถเลือกแสดงข้อความแจ้งสถานะการตอบข้อความใต้ชื่อบัญชีทางการของคุณในหน้าแชทได้
ไปที่ “ตั้งค่า” > เลือก “ตั้งค่าการตอบกลับ” > หัวข้อ “สถานะการตอบข้อความ” จะแสดงอยู่ต่อจากหัวข้อ วิธีตอบแชท
> เลือก “แสดงสถานะการตอบข้อความ” ตามความต้องการ
หมายเหตุ:
*ฟีเจอร์การตอบข้อความ ตัวเลือก”แชท” จะต้องถูกเปิดใช้งานเสมอ เพื่อให้สามารถใช้งาน “สถานะการตอบข้อความ” ได้
*เพิ่มเติม หากทำการสร้างและบันทึกข้อความทักทายเพื่อนใหม่ แต่ “ปิด” การใช้งานฟีเจอร์ไว้ ข้อความทักทายเพื่อนใหม่จะไม่ถูกส่งออกไป
การแสดงสถานะการตอบข้อความ
หากไม่ต้องการแสดงสถานะการตอบข้อความ สามารถกดเลือก “ไม่แสดง” เพื่อปิดการแสดงสถานะ
แต่ถ้าหากเลือก “แสดง” สถานะการตอบข้อควาาม ระบบจะทำการแสดงสถานะ และเปลี่ยนสถานะให้โดยอัตโนมัติตาม “วิธีการตอบแชท” ที่เลือกไว้
คุณสามารถส่งข้อความทักทายสำหรับเพื่อนใหม่ได้ทันทีเมื่อมีการเพิ่มเพื่อน โดยสามารถส่งข้อความเพื่อประกาศเกี่ยวกับบัญชีทางการหรือสิทธิประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการเพิ่มบัญชีทางการของคุณ โดยที่ไม่ต้องส่งข้อความแยกรายบุคคล ยกตัวอย่างเช่น การแนะนำบัญชีทางการของคุณ แนะนำวิธีการติดต่อ หรือ แจกคูปองและส่วนลดต่าง ๆ
การจัดการบนเว็บไซต์
วิธีการตั้งค่าข้อความทักทายเพื่อนใหม่
1. เลือก “หน้าจอแชท” > “ข้อความทักทายเพื่อนใหม่”
2. ไปที่หน้าต่างการตั้งค่าและแก้ไขเนื้อหาที่ต้องการ
1 |
คุณสามารถตั้งค่าได้เลือกส่งข้อความทักทายเพื่อนใหม่ได้
*ให้เลือกทำเครื่องหมายในกล่อง หากคุณไม่ต้องการส่งข้อความหาผู้ใช้อีกครั้ง หลังจากผู้ใช้อันบล็อกบัญชีทางการของคุณ *ในบางกรณีไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่าผู้ใช้นี้เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของคุณเป็น ครั้งแรก |
2 |
คุณสามารถเลือกรูปแบบที่ต้องการส่งได้
โดยเลือกไอคอนรูปแบบข้อความที่ต้องการส่งในแต่ละข้อความได้ *หากคุณต้องการแก้ไขเนื้อหาข้อความที่เป็นคูปองหรือริชเมสเสจ รูปแบบข้อความนี้จะ ไม่สามารถแก้ไขได้โดยอัตโนมัติ แต่ทำได้โดยการเลือก [x] เพื่อตั้งค่ารูปแบบข้อความใหม่ |
3 | สามารถใส่เนื้อหาข้อความที่ต้องการได้ โดยสามารถดูตัวอย่างข้อความได้ที่หน้าต่าง
"ดูตัวอย่าง" ทางด้านขวาล่างของหน้าจอ |
4 | สามารถใส่เนื้อหาข้อความที่ต้องการได้ โดยสามารถดูตัวอย่างข้อความได้ที่หน้าต่าง
"ดูตัวอย่าง" ทางด้านขวาล่างของหน้าจอ |
5 | เมื่อคุณคลิก ชื่อบัญชีของคุณจะถูกเพิ่มลงในกล่องข้อความในรูปแบบ "ชื่อบัญชี" |
6 | คลิกเพื่อเพิ่มกล่องข้อความ |
7 |
เมื่อมีหลายกล่องข้อความ คุณสามารถจัดลำดับกล่องข้อความได้ตามปุ่มดังกล่าว
หรือหากต้องการลบกล่องข้อความ ให้เลือก [x] เพื่อลบออก |
8 |
เลือก "เลือกข้อความเทมเพลตนี้" หรือ "ลบทุกข้อความแล้วใช้เทมเพลตนี้" เพื่อปรับ
ใช้เทมเพลต โดยคุณสามารถแก้ไขได้ในภายหลัง |
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
วิธีการตั้งค่าข้อความทักทายเพื่อนใหม่
1. เลือก “ข้อความทักทายเพื่อนใหม่” เพื่อตั้งค่าข้อความ
2. คุณสามารถเพิ่มกล่องข้อความได้สูงสุด 5 กล่อง โดยเลือก “+ เพิ่ม” แล้วเลือกรูปแบบข้อความที่ต้องการ
*คุณสามารถเลือกใช้รูปแบบข้อความตามเทมเพลตได้เช่นกัน
3. คุณสามารถตั้งค่าให้ส่งข้อความทักทายเพื่อนใหม่ได้เฉพาะผู้ใช้ที่เพิ่งเพิ่มบัญชีทางการของคุณเป็นเพื่อนครั้งแรก
หากคุณไม่ต้องการส่งข้อความหาผู้ใช้อีกครั้งหลังจากผู้ใช้อันบล็อกบัญชีทางการของคุณ ให้เลือก “เปิด”
*ในบางกรณีไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่าผู้ใช้นี้เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของคุณเป็นครั้งแรก
4. ไปที่ “ตั้งค่า” > “ข้อความตอบกลับ” เพื่อยืนยันการตรวจสอบว่าข้อความทักทายเพื่อนใหม่ได้เปิดใช้งานสำหรับบัญชีทางการของคุณ หากคุณไม่ต้องการส่งข้อความทักทายเพื่อนใหม่สามารถปิดได้โดยการเลือก “ปิด”
กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มของผู้ใช้ที่สร้างขึ้นโดยระบุคุณสมบัติและเงื่อนไขผู้ใช้ เมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายแล้วคุณจะสามารถส่งข้อความไปยังกลุ่มของผู้ใช้ซึ่งมีคุณสมบัติตามต้องการได้
โดยสามารถเลือกประเภทของกลุ่มเป้าหมายได้ดังต่อไปนี้
- คลิกรีทาร์เก็ต
กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใช้ซึ่งเคยคลิกลิงก์ในข้อความบรอดแคสต์ของคุณ
- อิมเพรสชันรีทาร์เก็ต
กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใช้ซึ่งเคยเปิดข้อความที่คุณบรอดแคสต์
- กลุ่มเป้าหมายแชทแท็ก
กลุ่มเป้าหมายที่ระบุตามแท็กที่ติดในการแชทแบบตัวต่อตัวเท่านั้น
- กลุ่มเป้าหมายตามรูปแบบการเพิ่มเพื่อน
กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใช้ซึ่งเพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อนในรูปแบบที่กำหนด
*ดูข้อมูลรูปแบบการเพิ่มเพื่อนได้ที่ “ข้อมูลเชิงลึก” > “เพื่อน” > “รูปแบบการเพิ่มเพื่อน”
*กลุ่มเป้าหมายต้องมีผู้ใช้ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปจึงจะส่งบรอดแคสต์ได้
- กลุ่มเป้าหมายที่เข้าชมเว็บไซต์
คุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายจากข้อมูลแทร็กกิ้งของ LINE Tag
กลุ่มเป้าหมายต้องมีผู้ใช้ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไปจึงจะส่งบรอดแคสต์ได้
- อัปโหลด ID ผู้ใช้
กลุ่มเป้าหมายที่สร้างด้วยการอัปโหลด ID ผู้ใช้
*กรุณาตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับ ID ผู้ใช้ที่ LINE Developers
กลุ่มเป้าหมาย
คุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมาอย่างเจาะจงได้ผ่านฟังก์ชันการใช้งานนี้ และสามารถสร้างประเภทกลุ่มเป้าหมายได้ตามนี้
คลิกข้อความ: กลุ่มเป้าหมายที่เคยคลิกข้อความบรอดแคสต์ของคุณ (ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป)
อิมเพรสชันต่อข้อความ: กลุ่มเป้าหมายที่เคยเปิดข้อความบรอดแคสต์ของคุณ (ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป)
คลิกริชเมนู: กลุ่มเป้าหมายที่เคยคลิกริชเมนูของคุณ (ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป)
ริชเมนูอิมเพรสชัน: กลุ่มเป้าหมายที่เคยดูริชเมนูของคุณ (ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป)
ช่องทางการเพิ่มเพื่อน: กลุ่มเป้าหมายที่เพิ่มเพื่อนผ่านชองทางเฉพาะเจาะจง (ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป)
แชทเท็ก: กลุ่มเป้าหมายที่มีการใส่แท็กในแชท
อัปโหลด ID ผู้ใช้: ID กลุ่มเป้าหมายที่ถูกอัปโหลดผ่านรูปแบบไฟล์ TXT หรือ CSV (ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป)
การเข้าชมเว็บไซต์: ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่สร้างขึ้นด้วยการแทร็กกิ้งด้วย LINE Tag (ตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป)
สร้างกลุ่มเป้าหมาย
1. เข้าไปที่แถบเมนู ”การจัดการข้อมูล” เลือก “กลุ่มเป้าหมาย” > ”สร้างใหม่/สร้างกลุ่มเป้าหมาย”
2. เลือกประเภทกลุ่มเป้าหมาย และ ตั้งชื่อกลุ่มเป้าหมายเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
คลิกข้อความ/อิมเพรสชันต่อข้อความ
คลิกริชเมนู
1.เมื่อคุณเลือกลุ่มเป้าหมาย “คลิกริชเมนู”
2.คลิก “เลือก” บนริชเมนูที่คุณต้องการสร้างกลุ่มเป้าหมาย
3.ตั้งค่าเป้าหมาย
ช่วงข้อมูล | เลือกช่วงเวลาที่ต้องการส่งข้อมูล
ช่วงเวลาผันแปร: ระบุช่วงเวลาสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีแอ็คชันในช่วงเวลาที่กำหนด (จำนวนวัน) *สามารถเลือกจำนวนวันได้ตั้งแต่ 1 วัน ถึง 180 วัน ช่วงเวลาตายตัว: ระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีแอ็คชันในช่วงเวลาที่กำหนด (วันที่) *สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 1 วัน ถึง 1 ปีที่ผ่านมา |
ช่วงเวลา | กรณีเลือกช่วงเวลาผันแปร ให้ระบุจำนวนวัน หรือกรณีเลือกช่วงเวลาตายตัว ให้เลือกช่วงวันที่ต้องการ |
แอ็คชัน (ผู้ใช้ที่คลิก) | เลือกแอ็คชันจากริชเมนูที่ตั้งค่าไว้ |
ริชเมนูอิมเพรสชัน
3. ตั้งค่าเป้าหมาย
ช่วงข้อมูล | เลือกช่วงเวลาที่ต้องการส่งข้อมูล
ช่วงเวลาผันแปร: ระบุช่วงเวลาสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีแอ็คชันในช่วงเวลาที่กำหนด (จำนวนวัน) *สามารถเลือกจำนวนวันได้ตั้งแต่ 1 วัน ถึง 180 วัน ช่วงเวลาตายตัว: ระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีแอ็คชันในช่วงเวลาที่กำหนด (วันที่) *สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 1 วัน ถึง 1 ปีที่ผ่านมา |
ช่วงเวลา | กรณีเลือกช่วงเวลาผันแปร ให้ระบุจำนวนวัน หรือกรณีเลือกช่วงเวลาตายตัว ให้เลือกช่วงวันที่ต้องการ |
ผู้ใช้ที่มีการเข้าถึง | คำนวณจากข้อมูลในปัจจุบัน ขนาดของกลุ่มเป้าหมายอาจเปลี่ยนแปลงได้หลังจากสร้างกลุ่มเป้าหมาย
*หากค่าข้อมูลน้อยกว่า 20 จะแสดง "~19" |
ช่องทางการเพิ่มเพื่อน
1. มื่อคุณเลือกลุ่มเป้าหมาย “ช่องทางการเพิ่มเพื่อน” ช่องทางการเพิ่มเพื่อนที่มีการเพิ่มเพื่อนเข้ามามากกว่า 50 คนในช่วงระยะเวลาที่เลือกจะแสดง
2. ระบุระยะเวลาที่เพิ่มเพื่อน
3. คลิก “เลือก” บนช่องทางการเพิ่มเพื่อนที่คุณต้องการสร้างกลุ่มเป้าหมาย
แชทแท็ก
*ไม่สามารถเลือกแชทแท็กที่นำไปสร้างกลุ่มเป้าหมายแล้วซ้ำอีกได้
*หากแชทแท็กถูกลบ กลุ่มเป้าหมายจะถูกลบไปด้วย
อัปโหลด ID ผู้ใช้
*สูงสุด 1,500,000 รายการ และไม่สามารถอัปโหลด ID ที่ไม่ถูกต้องหรือ ID ซ้ำได้
การเข้าชมเว็บไซต์
คนที่เข้าชมเว็บไซต์: ผู้ใช้ทั้งหมดที่เข้าชมเว็บไซต์จากการติดตั้ง LINE Tag
คนที่เข้าชมหน้าเพจที่กำหนด: ผู้ใช้ที่เข้าชมหน้าเพจที่กำหนด *สามารถกำหนด URL ได้
คนที่เข้าชมอีเว้นท์เพจ: ผู้ใช้ที่เข้าชมอีเว้นท์เพจที่กำหนด *สามารถกำหนด URL ได้
ริชเมสเสจ
ริชเมสเสจ (Rich message) คือ ฟีเจอร์ที่สามารถนำรูปภาพและข้อความมารวมไว้ในที่เดียวกันเพื่อความเป็นระเบียบและเข้าใจง่าย อีกทั้งยังสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ที่เข้ามาอ่านได้อีกด้วย
ริชเมสเสจ 1 ข้อความสามารถตั้งค่าได้หลายลิงก์ และเป็นข้อความที่ค่อนข้างจะดึงดูดสายตาได้ง่าย
ริชวิดีโอเมสเสจ
ริชวิดีโอเมสเสจ (Rich video message) คือ ฟีเจอร์ที่สามารถส่งข้อความเป็นวิดีโอที่จะเล่นโดยอัตโนมัติได้ ฟีเจอร์นี้รองรับวิดีโอหลากหลายรูปแบบ เช่น แนวตั้ง แนวนอน สี่เหลี่ยมจัตุรัส ฯลฯ ซึ่งหากเป็นวิดีโอแนวตั้งจะสามารถเล่นได้เต็มหน้าจอแชทอย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถตั้งค่าลิงก์เพื่อแนะนำให้ผู้รับชมวิดีโอไปยังเว็บไซต์ภายนอกได้อีกด้วย
ริชวิดีโอเมสเสจจะแตกต่างกับวิดีโอทั่วไป คือ ผู้ใช้จะไม่สามารถบันทึก ส่งต่อ แชร์ลงในไทม์ไลน์ได้
*ริชวิดีโอเมสเสจสร้างได้จาก LINE Official Account Manager บนเว็บเท่านั้น ไม่สามารถสร้างจากแอปพลิเคชันจัดการได้
การสร้างรูป คือ ฟีเจอร์การสร้างรูปภาพอย่างง่ายตามเทมเพลตที่กำหนดในการใช้งานริชเมสเสจหรือริชเมนู
กรณีที่ต้องการใช้งานริชเมสเสจหรือริชเมนูแต่ไม่มีรูปภาพ หรือกรณีที่มีรูปภาพแล้วแต่ไม่สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมให้เหมาะกับขนาดของเทมเพลตได้คุณสามารถใช้ฟีเจอร์นี้แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
*สามารถสร้างรูปได้เฉพาะการใช้งานบน LINE Official Account Manager เท่านั้น ไม่สามารถสร้างจากแอปพลิเคชันได้
ขั้นตอนการสร้างบน LINE Official Account Manager (ริชเมสเสจ)
1. คลิกที่ “หน้าหลัก” > “เมสเสจประเภทต่างๆ” > “ริชเมสเสจ”
2. คลิกที่ “สร้างใหม่”
3. คลิกที่ปุ่ม “เลือกเทมเพลต”
4. เลือกเทมเพลตแล้วคลิกที่ “เลือก”
5. คลิกที่ “สร้างรูป”
6. คลิกเลือกไอคอนการปรับแต่งตามต้องการ
7. ปรับแต่งเสร็จแล้วคลิกที่ “ใช้”
การจัดการบนเว็บไซต์
สร้างริชเมสเสจ
1. เข้าไปที่เมนู ”เมสเสจประเภทต่าง ๆ” > เลือก “ริชเมสเสจ” > “สร้างริชเมสเสจ”
2. ตั้งค่าแต่ละหัวข้อ
1 | ตั้งค่าชื่อเพื่อแสดงในการแจ้งเตือนแบบพุชและรายชื่อแชท |
2 | เลือกเทมเพลตตามรูปแบบที่ต้องการส่ง |
3 |
เลือกรูปภาพโดย
ใช้รูปโดยไม่แต่งหรือแก้ไข: ใช้รูปภาพที่คุณอัปโหลด ขนาดไม่เกิน 10MB (เมกะไบต์) *โปรดตรวจสอบเทมเพลตที่เลือกก่อนอัปโหลดรูป แต่งหรือแก้ไขรูปก่อนใช้: สามารถกำหนดขนาดรูป เพิ่มข้อความ เพิ่มสีพื้นหลัง |
4 |
เลือกแอ็คชันสำหรับริชเมสเสจ
ลิงก์: เมื่อกดริชเมสเสจจะเข้าไปยังที่อยู่เว็บไซต์ที่เลือก (สูงสุด 1000 ตัวอักษร) คูปอง: เมื่อกดริชเมสเสจจะเข้าไปยังคูปอง *สามารถตั้งค่าวันหมดอายุคูปองได้ ข้อความ: ข้อความจะถูกส่งไปยังห้องแชทโดยอัตโนมัติเมื่อแตะริชเมสเสจ ถ้าใน ข้อความมีค่าตรงกันกับคีย์เวิร์ด ระบบจะตอบกลับข้อความนั้นอัตโนมัติด้วย ข้อความที่กำหนดไว้ล่วงหน้า *คุณสามารถใส่ข้อความในริชเมสเสจได้สูงสุด 100 ตัวอักษร โปรดใส่คำอธิบาย สำหรับแอ็คชันเช่น ลิงก์ |
3. เลือก “บันทึก” การตั้งค่า
คุณสามารถดูริชเมสเสจที่สร้างไว้ได้ในรายการริชเมสเสจ สามารถสร้างได้สูงสุด 5000 ริชเมสเสจ
ขนาดเทมเพลต
สร้างรูปภาพ
1 | แสดงตัวอย่างรูปภาพที่คุณแต่งหรือแก้ไข |
2 | พื้นที่ในการแต่งหรือแก้ไขรูป ขนาดจะขึ้นอยู่กับรูปแบบเทมเพลตที่เลือกไว้ |
3 | ไอคอนสำหรับจัดการการแต่งหรือแก้ไขรูปภาพ อธิบายเริ่มต้นจากไอคอนด้านซ้ายมือ
ย้อนกลับไป 1 ขั้นตอน ทำใหม่ 1 ขั้นตอน เพิ่มข้อความ เพิ่มรูปภาพ ทำมหดสีพื้นหลัง เพิ่มเส้นขอบ ลบรายการที่เลือก |
4 | บันทึกรูปภาพในรูปแบบไฟล์ JPG |
5 | ใช้งานรูปภาพที่แต่งหรือแก้ไข
*โปรดบันทึกเป็นไฟล์ก่อนใช้งาน |
ริชเมสเสจ
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
สร้างริชเมสเสจ
1. เข้าไปที่หน้าหลัก > เลือกเมนู “ริชเมสเสจ” > “สร้างเมสเสจ”
2. เลือกเทมเพลตที่ต้องการ โดยกด “เปลี่ยน” ทางด้านมุมบนขวามือ
3. อัปโหลดรูปภาพแล้วเลือก “ต่อไป”
4. ตั้งค่าข้อมูลริชเมสเสจ
ชื่อ | ตั้งค่าชื่อเพื่อแสดงในการแจ้งเตือนแบบพุชและรายชื่อแชท |
แอ็กชัน | เลือกแอ็กชันสำหรับริชเมสเสจ
ลิงก์: เมื่อกดริชเมสเสจจะเข้าไปยังที่อยู่เว็บไซต์ที่เลือก (สูงสุด 1000 ตัวอักษร) คูปอง: เมื่อกดริชเมสเสจจะเข้าไปยังคูปอง *สามารถตั้งค่าวันหมดอายุคูปองได้ ข้อความ: ข้อความจะถูกส่งไปยังห้องแชทโดยอัตโนมัติเมื่อแตะริชเมสเสจ ถ้าใน ข้อความมีค่าตรงกันกับคีย์เวิร์ด ระบบจะตอบกลับข้อความนั้นอัตโนมัติด้วย ข้อความที่กำหนดไว้ล่วงหน้า *คุณสามารถใส่ข้อความในริชเมสเสจได้สูงสุด 100 ตัวอักษร โปรดใส่คำอธิบาย สำหรับแอ็กชันเช่น ลิงก์ |
5. ดูตัวอย่างริชเมสเสจ โดยเลือก “ดูตัวอย่าง” ทางด้านมุมบนขวามือ
6. เมื่อกดบันทึกการตั้งค่าริชเมสเสจ คุณสามารถตรวจสอบรายการที่สร้างไว้ที่หน้าเมนูริชเมสเสจ
เทมเพลต
การจัดการริชวอดีโอเมสเสจ สามารถทำได้ผ่านการจัดการบนเว็บไซต์เท่านั้น
สร้างริชวิดีโอเมสเสจ
1. สร้างริชวิดีโอเมสเสจ เข้าไปที่แถบเมนู “เมสเสจประเภทต่าง ๆ” > เลือก “ริชวิดีโอเมสเสจ” > “สร้างข้อความใหม่”
2. ตั้งค่าแต่ละหัวข้อ
1 | ตั้งค่าชื่อเพื่อแสดงในการแจ้งเตือนแบบพุชและรายชื่อแชท |
2 | อัปโหลดวิดีโอที่ต้องการใช้
*ในการอัปโหลดอาจใช้เวลาประมาณหนึ่ง *ขนาดสูงสุดไม่เกิน 200MB (เมกะไบต์) |
3 | คุณสามารถเลือกที่จะแสดง/ซ่อนปุ่มแอ็กชันในริชวิดีโอเมสเสจได้ |
4 | ใส่ลิงก์ที่ต้องการเชื่อมโยงกับริชวิดีโอเมสเสจ (กรณีเลือกแสดงปุ่มแอ็กชัน) |
5 | ตั้งค่าข้อความบนปุ่มแอ็กชัน โดยเลือกจากข้อความที่กำหนดมาให้หรือกำหนดเองได้ไม่เกิน 20 ตัวอักษร (กรณีเลือกแสดงปุ่มแอ็กชัน) |
3. เลือก “บันทึก” การตั้งค่าทั้งหมดคุณสามารถตรวจสอบรายการที่สร้างไว้ที่หน้าเมนูริชวิดีโอเมสเสจ และสามารถแก้ไขหรือลบได้โดยเลือกริชวอดีโอเมสเสจนั้น ๆ
สร้างรูปภาพ
1 | แสดงตัวอย่างรูปภาพที่คุณแต่งหรือแก้ไข |
2 | พื้นที่ในการแต่งหรือแก้ไขรูป ขนาดจะขึ้นอยู่กับรูปแบบเทมเพลตที่เลือกไว้ |
3 | ไอคอนสำหรับจัดการการแต่งหรือแก้ไขรูปภาพ อธิบายเริ่มต้นจากไอคอนด้านซ้ายมือ
ย้อนกลับไป 1 ขั้นตอน ทำใหม่ 1 ขั้นตอน เพิ่มข้อความ เพิ่มรูปภาพ กำหนดสีพื้นหลัง เพิ่มเส้นขอบ ลบรายการที่เลือก |
4 | บันทึกรูปภาพในรูปแบบไฟล์ JPG |
5 | ใช้งานรูปภาพที่แต่งหรือแก้ไข *โปรดบันทึกเป็นไฟล์ก่อนใช้งาน |
ริชเมสเสจ
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
สร้างริชเมสเสจ
1. เข้าไปที่หน้าหลัก > เลือกเมนู “ริชเมสเสจ” > “สร้างเมสเสจ”
2. เลือกเทมเพลตที่ต้องการ โดยกด “เปลี่ยน” ทางด้านมุมบนขวามือ
3. อัปโหลดรูปภาพแล้วเลือก “ต่อไป”
4. ตั้งค่าข้อมูลริชเมสเสจ
ชื่อ | ตั้งค่าชื่อเพื่อแสดงในการแจ้งเตือนแบบพุชและรายชื่อแชท |
---|---|
แอ็กชัน |
เลือกแอ็กชันสำหรับริชเมสเสจ
*คุณสามารถใส่ข้อความในริชเมสเสจได้สูงสุด 100 ตัวอักษร
|
5. ดูตัวอย่างริชเมสเสจ โดยเลือก “ดูตัวอย่าง” ทางด้านมุมบนขวามือ
6. เมื่อกดบันทึกการตั้งค่าริชเมสเสจ คุณสามารถตรวจสอบรายการที่สร้างไว้ที่หน้าเมนูริชเมสเสจ
เทมเพลต
การจัดการบนเว็บไซต์
สร้างริชวิดีโอเมสเสจ
1.สร้างริชวิดีโอเมสเสจ เข้าไปที่แถบเมนู “เมสเสจประเภทต่าง ๆ” > เลือก “การ์ดเมสเสจ” > “สร้างข้อความใหม่”
2. ตั้งค่าแต่ละหัวข้อ
1 | ตั้งค่าชื่อเพื่อแสดงในการแจ้งเตือนแบบพุชและรายชื่อแชท |
2 | เลือกประเภทของการ์ด
|
3. เมื่อเลือกการ์ดเสร็จแล้วให้ใส่รายละเอียดต่าง ๆ ตามประเภทการ์ด
การ์ดสินค้า
- แบนเนอร์ ข้อความแบนเนอร์ ใส่ได้สูงสุด 10 ตัวอักษร
- รูป สามารถใส่รูปได้สูงสุด 3 รูปภาพ
- ชื่อการ์ด สามารถใส่ได้สูงสุด 20 ตัวอักษร
- คำอธิบาย คำอธิบายของการ์ด สามารถใส่ได้สูงสุด 60 ตัวอักษร
- ราคา สามารถเลือก สกุลเงิน และ ใส่จำนวนเงินได้
- แอ็กชัน สามารถเลือดได้สูงสุด 2 แอ็กชัน และเลือกแอ็กชันได้ เช่น ลิงก์ คูปอง บัตรสะสมแต้ม หรือ แบบสอบถาม
การ์ดสถานที่
- แบนเนอร์ ข้อความแบนเนอร์ ใส่ได้สูงสุด 10 ตัวอักษร
- รูป สามารถใส่รูปได้สูงสุด 3 รูปภาพ
- ชื่อการ์ด สามารถใส่ได้สูงสุด 20 ตัวอักษร
- ที่อยู่ สามารถใส่ตัวอักษรได้สูงสุด 60 ตัวอักษร หรือ สามารถกดเลือกตำแหน่งที่ตั้งได้
- ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเลือกเวลาหรือราคาได้
- แอ็กชัน สามารถเลือดได้สูงสุด 2 แอ็กชัน และเลือกแอ็กชันได้ เช่น ลิงก์ คูปอง บัตรสะสมแต้ม หรือ แบบสอบถาม
การ์ดบุคคล
- รูป สามารถใส่ได้ 1 รูป หรือ ใช้รูปเริ่มต้น
- ชื่อ สามารถใส่ได้สูงสุด 20 ตัวอักษร
- แท็ก สามารถใส่ได้สูงสุด 10 ตัวอักษร และ สูงสุด 3 แท็ก
- คำอธิบาย คำอธิบายของการ์ด สามารถใส่ได้สูงสุด 60 ตัวอักษร
- แอ็กชัน สามารถเลือดได้สูงสุด 2 แอ็กชัน และเลือกแอ็กชันได้ เช่น ลิงก์ คูปอง บัตรสะสมแต้ม หรือ แบบสอบถาม
การ์ดรูปภาพ
- แบนเนอร์ ข้อความแบนเนอร์ ใส่ได้สูงสุด 10 ตัวอักษร
- รูป สามารถใส่ได้ 1 รูป
- ชื่อ สามารถใส่ได้สูงสุด 20 ตัวอักษร
- แอ็กชัน สามารถเลือกได้ 1 แอ็กชัน และเลือกแอ็กชันได้ เช่น ลิงก์ คูปอง บัตรสะสมแต้ม หรือ แบบสอบถาม
4.เมื่อตั้งค่าข้อมูลเสร็จเรียบร้อยให้เลือก “บันทึก”
*สามารถสร้างได้สูงสุด 9 การ์ด และการ์ดปิดท้าย 1 การ์ด
ข้อมูลเชิงลึก คือ ฟีเจอร์ที่สามารถตรวจสอบข้อมูลสถิติการใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น เพื่อน, ข้อความ, บรอดแคสต์, คูปอง, หรือบัตรสะสมแต้ม เป็นต้น
ขั้นตอนการเข้าดูข้อมูลเชิงลึกบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ "ข้อมูลเชิงลึก"
2. ดูข้อมูลเชิงมูลเชิงลึกตามหัวข้อค่าง ๆ ที่ต้องการ
ขั้นตอนการเข้าดูข้อมูลเชิงลึกบน LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ "ข้อมูลเชิงลึก"
2. ดูข้อมูลเชิงมูลเชิงลึกตามหัวข้อค่าง ๆ ที่ต้องการ
*จะแสดงข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นวันเมื่อวาน
วิธีการอ่านข้อมูลเชิงลึกบรอดแคสต์
- เปิด คือ จำนวนของผู้ใช้ที่เข้าไปในห้องแชทแล้วมีการแสดงบอลลูนข้อความขึ้นมา โดยจะไม่มีการนับซ้ำจำนวนการเปิดอ่านข้อความที่เคยแสดงขึ้นไปแล้วก่อนหน้า
- ผู้ใช้ที่คลิก คือ จำนวนผู้ใช้ที่คลิกลิงก์ในข้อความ
- ผู้ใช้ที่เริ่มดู คือ จำนวนผู้ใช้ที่เปิดวิดีโอหรือคลิปเสียงในข้อความ
- อิมเพรสชัน คือ จำนวนครั้งที่บอลลูนข้อความแสดงต่อผู้ใช้ โดยจะนับเพิ่มทุกครั้งที่ผู้ใช้เข้าไปในห้องแชทแล้วมีการแสดงบอลลูนข้อความขึ้นมา
การวัดค่าคอนเวอร์ชัน คือ การแทร๊กและวัด converison ที่ต้องการวัดผล ทุกอย่างที่เราต้องการนับเป็น คอนเวอร์ชัน เช่น ลงทะเบียนสำเร็จ, สั่งซื้อสำเร็จ, กดปุ่มที่ต้องการสำเร็จ
*หากต้องการวัดค่าคอนเวอร์ชันบนเว็บไซต์ คุณต้องติดตั้ง LINE Tag ในเว็บไซต์ดังกล่าว
LINE Tag
คุณสามารถวัดคอนเวอชันของข้อความที่บรอดแคสต์และสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้ด้วยการติดตั้ง LINE Tag บนเว็บไซต์
เข้าไปที่แถบเมนู “การจัดการข้อมูล” > เลือก “แทร็กกิ้ง (LINE Tag)”
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน LINE Tag แล้วเลือก “เริ่มใช้ LINE Tag”
ตั้งค่า LINE Tag
1 | เปิด/ปิด การใช้งาน LINE Tag
*หากปิดการใช้งาน จะไม่มีการวัดผลคอนเวอร์ชัน หรือหากมีการแชร์ LINE Tag ไว้ผู้ที่ใช้ข้อมูลร่วมกันก็จะไม่สามารถติดตามคอนเวอร์ชันได้เช่นกัน |
2 | เปิด/ปิด การแชร์ LINE Tag
สามารถแชร์ LINE Tag กับบัญชีผู้ใช้โฆษณาทั้งหมดที่ใช้บัญชีทางการเดียวกัน รวมถึงคงการวัดผลคอนเวอร์ชันของ LINE Ads ได้เช่นกัน |
3 | แสดง LINE Tag ที่ใช้ร่วมกัน
*แสดงเฉพาะเมื่อมีการเปิดใช้งานการแชร์ LINE Tag เท่านั้น |
4 | ตรวจสอบสถานะของแท็ก |
5 | คุณสามารถคัดลอกเบสโค้ดได้ |
6 | คุณสามารถคัดลอกอีเว้นท์โค้ดได้ |
ต้องนำเบสโค้ดของ LINE Tag ไปติดตั้งในเฮดเดอร์โค้ดของเว็บไซต์ จึงจะสามารถใช้วัดค่าคอนเวอร์ชันได้
กรุณาติดตั้งเบสโค้ดไว้ระหว่างแท็ก <head>...</head> ของเว็บไซต์ หรือติดตั้งเบสโค้ดโดยใช้ตัวจัดการแท็ก
*ภายใน 1 URL สามารถติดตั้งแท็กได้ไม่จำกัดจำนวน แต่ติดตั้งเบสโค้ดที่ได้รับจากบัญชีเดียวกันได้เพียง 1 แท็กต่อบัญชีเท่านั้น
*หากภายในโค้ดมีการเว้นบรรทัดหรือเว้นช่องว่างที่ไม่จำเป็น อาจทำให้แท็กทำงานผิดปกติ โปรดใช้ความระมัดระวังในการติดตั้ง (โดยเฉพาะการติดตั้งโดยคัดลอกและวางโค้ด)
Conversion code คือ โค้ดสำหรับการแทร็ก conversion ที่ต้องการวัดผล ทุกอย่างที่เราต้องการนับเป็น conversion เช่น ลงทะเบียนสำเร็จ, สั่งซื้อสำเร็จ, กดปุ่มที่ต้องการสำเร็จ
กรุณาติดตั้งคอนเวอร์ชันโค้ดเป็นเซ็ตคู่กับเบสโค้ด โดยวางคอนเวอร์ชันโค้ดตามหลังต่อจากเบสโค้ดในเพจที่จะกำหนดให้เป็นคอนเวอร์ชันพอยท์
*หากภายในโค้ดมีการเว้นบรรทัดหรือเว้นช่องว่างที่ไม่จำเป็น อาจทำให้แท็กทำงานผิดปกติ โปรดใช้ความระมัดระวังในการติดตั้ง (โดยเฉพาะการติดตั้งโดยคัดลอกและวางโค้ด)
เมื่อใช้งานอีเวนท์ที่กำหนดเอง คุณจะสามารถแบ่งประเภทเว็บเพจแล้วแทร็กกิ้งได้โดยอิสระ
กรุณาติดตั้งอีเวนท์โค้ดที่กำหนดเองเป็นเซ็ตคู่กับเบสโค้ด
หากเปลี่ยน "CustomEvent" ของแท็กให้เป็นชื่ออีเวนท์ที่คุณต้องการแล้วติดตั้งในเว็บไซต์ จะสามารถเลือกอีเวนท์ที่กำหนดเองตอนสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้
*ชื่อของอีเวนท์ที่กำหนดเองต้องเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลข ความยาวไม่เกิน 20 ตัวอักษร
*หากภายในโค้ดมีการเว้นบรรทัดหรือเว้นช่องว่างที่ไม่จำเป็น อาจทำให้แท็กทำงานผิดปกติ โปรดใช้ความระมัดระวังในการติดตั้ง (โดยเฉพาะการติดตั้งโดยคัดลอกและวางโค้ด)
กรณีที่ติดตั้งแท็กซึ่งเป็น JavaScript ลงในเพจได้ยาก กรุณาใช้แท็ก image
แท็ก image คือส่วน <noscript>...</noscript>...ในเบสโค้ด
กรุณาดึงเฉพาะโค้ดของแท็ก image ไปติดตั้ง
การวัดผลจะดำเนินการด้วยคอนเวอร์ชันแบบกำหนดเอง
*โปรดระวัง เนื่องจากแท็ก image เพียงอย่างเดียวไม่สามารถใช้วัดผลได้
สถานะของ LINE Tag ตรวจสอบได้บน LINE Official Account Manager เท่านั้น
1. คลิกที่ “หน้าหลัก” > “การจัดการข้อมูล” > “แทร็กกิ้ง (LINE Tag)”
2. ตรวจสอบสถานะของเบสโค้ดและคอนเวอร์ชันโค้ดในหัวข้อ “สถานะ”
หาก LINE Tag ไม่ทำงาน กรุณาตรวจสอบดังต่อไปนี้
1. ใส่แท็กถูกต้องหรือไม่
หากปรับเปลี่ยนเนื้อหาของแท็ก จะไม่สามารถวัดค่าได้ตามปกติ
2. ใช้งานตัวจัดการแท็ก
กรุณาตรวจสอบว่าติดตั้งตัวจัดการแท็กถูกต้องหรือไม่
*กรุณาสอบถามเกี่ยวกับวิธีการติดตั้งแท็กในตัวจัดการแท็ก หรือการตั้งค่า Trigger จากผู้ให้บริการตัวจัดการแท็กที่คุณใช้งาน
3. ใช้บริการย่อ URL
หากใช้บริการย่อ URL อาจทำให้ไม่สามารถวัดค่าได้ตามปกติ
1 | เลือกช่วงเวลาที่ต้องการดาวน์โหลดข้อมูล |
2 | แสดงชื่อในแต่ละฟังก์ชันที่สามารถดาวน์โหลดได้ |
3 | แสดงระยะเวลาที่สามารถดาวน์โหลดได้ |
4 | สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเชิงลึกในแต่ละหมวดหมู่ได้ โดยกด "ดาวน์โหลด"
*หากข้อมูลใดสามารถดาวน์โหลดได้ จะแสดงปุ่มดาวน์โหลด |
คุณสามารถตรวจสอบจำนวนการเพิ่มเพื่อนหรือบล็อคบัญชีทางการของคุณได้ผ่านข้อมูลเชิงลึกแดชบอร์ด
แดชบอร์ด
ตรวจสอบผลลัพธ์ของข้อความเพื่อน และ แชท ได้ที่ “ข้อมูลเชิงลึก”
คุณสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องแสดงข้อมูลได้ 7 วัน หรือ 30 วัน ก่อนหน้านี้
*ช่วงเวลาในการอัปเดตข้อมูลตัวเลขทางสถิติอาจแตกต่างกันในแต่ละหันข้อ
เมื่อคลิกแต่ละหัวข้อหน้าจอรายละเอียดจะปรากฏขึ้น