LINE Official Account คือ บัญชีทางการของ LINE สำหรับธุรกิจเพื่อช่วยให้ร้านค้าสามารถสร้างฐานผู้ติดตาม สื่อสารและส่งข้อมูลกิจกรรมทางการขายหรือโปรโมชั่นไปยังลูกค้าผ่านทางไลน์ ตอบโจทย์ทุกธุรกิจด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมทั้งช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารจัดการการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การสร้างข้อความทักทาย, ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ, คูปองและบัตรสะสมแต้ม, การแชทแบบ 1-1, หรือการบรอดแคลต์หาผู้ติดตาม เป็นต้น
แนะนำสำหรับใช้ได้แก่บนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager และแอปพลิเคชันในมือถือ ดังต่อไปนี้
แอปพลิเคชัน
ระบบปฏิบัติการ: Android เวอร์ชัน 6 ขึ้นไป, iOS เวอร์ชัน 13 ขึ้นไป
*ไม่รองรับการใช้งานบนแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android
เว็บไซต์ LINE Official Account Manager
ระบบปฏิบัติการ: Windows OS, Mac OS
เบราว์เซอร์: เวอร์ชันล่าสุดของ Chrome, Safari, Firefox, Edge
*ไม่รองรับการใช้งานบน Internet Explorer
การจัดการบนเว็บไซต์
บัญชี LINE Official Account สามารถเปิดได้ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ได้ โดยสามารถเปิดผ่านเว็บไซต์ได้ผ่านขั้นตอนต่อไปนี้
1. เข้าไปที่ https://lineforbusiness.com/th/ > Product & Services > LINE Official Account > แล้วเลือก “สร้างบัญชี OA”
2. เลือก เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE หรือ เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีทางธุรกิจ หรือ สร้างบัญชีใหม่
2.1. กรณีเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE - สามารถล็อกอินด้วยบัญชี LINE ที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันได้
2.2. กรณีเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจ – สามารถลงทะเบียนด้วยอีเมลที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันได้
2.3. กรณีที่ต้องการใช้อีเมลของที่ทำงาน หรือไม่ต้องการใช้บัญชี LINE เลือก “สร้างบัญชี”
เลือก “ลงทะเบียนด้วยบัญชี LINE” หรือ “ลงทะเบียนด้วยอีเมล”
หากเลือก ลงทะเบียนด้วยอีเมล กรอกที่อยู่อีเมลของคุณ แล้วคลิก “ส่งลิงก์ลงทะเบียนใช้บริการ”
อีเมลจะถูกส่งไปยังที่อยู่อีเมลที่คุณกรอกไว้ในหัวข้อ LINE Business ID: ลิงก์ลงทะเบียนใช้บริการ
โปรดคลิก “ลงทะเบียนใช้บริการ” ในอีเมลที่ส่ง
หลังจากที่คุณตั้งค่าชื่อและรหัสผ่านแล้ว โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้บริการให้เรียบร้อยก่อนกด “ลงทะเบียน”
ตรวจสอบรายละเอียดการสมัคร หากไม่พบข้อความผิดพลาด เลือก “เสร็จสิ้น”
เมื่อการสมัครเรียบร้อยแล้ว ให้เลือก “เริ่มใช้บริการ”
3. สร้างบัญชี LINE Official Account
โปรดระบุข้อมูลตามความเป็นจริง และ ยอมรับ ข้อตกลงการใช้บริการ เมื่อคุณเลือก “ตกลง” ระบบจะยืนยันการสมัครบัญชีของคุณ
4. คุณสามารถเข้าถึงหน้าต่างจัดการ LINE Official Account Manager ได้ทันทีหลังจากสมัครเรียบร้อย
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
บัญชี LINE Official Account สามารถเปิดได้ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยสามารถเปิดผ่านแอปพลิเคชันได้ผ่านขั้นตอนต่อไปนี้
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LINE Official Account ผ่าน Apple store หรือ Google Play store
*แนะนำให้สร้าง LINE Official Account ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ คลิกที่นี่ เพื่อสร้างบัญชีธุรกิจ
2. เปิดแอปพลิเคชัน > คลิก ลงทะเบียนด้วยบัญชี LINE หรือ ลงทะเบียนด้วยบัญชีธุรกิจ
กรณีเลือก ลงทะเบียน & เข้าสู่ระบบด้วย LINE
กรณีเลือก “ลงทะเบียน & เข้าสู่ระบบด้วยอีเมล” คุณสามารเลือกเข้าสู่ระบบได้ผ่าน บัญชีธุรกิจ และ บัญชี LINE หากคุณเลือก บัญชีธุรกิจ
คุณสามารถเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและรหัสผ่านของคุณที่ได้สมัครไว้
หากคุณเลือก บัญชี LINE
3.เลือก “สร้างบัญชี” หลังยืนยันตัวตน ระบบจะพาคุณเข้าสู่หน้าสร้างบัญชี
กรุณาใส่ข้อมูลบัญชี แล้วเลือก “ต่อไป” แล้วอ่านข้อกำหนดการใช้บริการแล้วเลือก “สร้างบัญชี”
4. เมื่อคุณสร้างบัญชีเสร็จสิ้นแล้ว ระบบจะพาคุณเข้าสู่หน้าจัดการบัญชี
หากต้องการสร้างบัญชีเพิ่มสามารถทำได้โดยเลือก “☰“ ด้านมุมบนซ้ายมือ แล้วเลือก “สร้างบัญชี”
ประโยชน์ของการเป็นบัญชีรับรอง
คุณสามารถรับรองบัญชีทางการได้ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
สามารถ สมัครได้ผ่าน manager.line.biz หรือแอปพลิเคชัน LINE Official Account แล้วเลือก “รับรองบัญชี”
หากต้องการอัปเกรดบัญชีทั่วไปเป็นบัญชีรับรอง สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
การจัดการบนเว็บไซต์
1. เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz (LINE Official Account Manager)
2. เลือก “เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี LINE”
3. หากมีหลายรายชื่อหลายบัญชี เลือก “บัญชีที่ต้องการเริ่มใช้งาน:
4. เข้าไปที่ “ตั้งค่า” มุมบนขวามือ
5. เลือก “รับรองบัญชี”
5. กรอก ข้อมูลธุรกิจ แล้วกด “ตกลง”
กรอกข้อมูลบัญชี ประเภทธุรกิจ/การสมัคร รายละเอียดธุรกิจ ชื่อธุรกิจที่จดทะเบียน
ข้อมูลผู้สมัคร(ชื่อบุคคลธรรมดาเท่านั้น) โดยข้อมูลนั้นต้องเป็นข้อมูลเดียวกับชื่อธุรกิจบัญชี
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
วิธีการยืนยันบัญชีรับรอง
คุณสามารถรับรองบัญชีทางการได้ผ่านทั้งแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.เข้าไปที่ “ตั้งค่า”
2.เลือก “บัญชี” > “สถานการณ์รับรอง” > “รับรองบัญชี”
3. กรอก ข้อมูลธุรกิจ
กรอกข้อมูลบัญชี ประเภทธุรกิจ/การสมัคร รายละเอียดธุรกิจ ชื่อธุรกิจที่จดทะเบียน
ข้อมูลผู้สมัคร(ชื่อบุคคลธรรมดาเท่านั้น) โดยข้อมูลนั้นต้องเป็นข้อมูลเดียวกับชื่อธุรกิจบัญชี
4. ตรวจสอบข้อมูลการสมัครแล้วกด ตกลง
5. เสร็จสิ้นการสมัครบัญชีรับรอง รอระบบพิจรณาคำร้อง 2-3 วันทำการ
หากผ่านการพิจรณาจะได้รับอีเมลแจ้งชำระเงินค่าธรรมเนียมยื่นขอบัญชีรับรอง 888 บาท และเมื่อชำระเงินเรียบร้อย กรุณารออีเมลยืนยันการปรับโล่ภายใน 1-2 วันทำการ
6. เพียงเท่านี้บัญชีของคุณเป็นบัญชีรับรองเรียบร้อย
การจัดการบนเว็บไซต์
หน้าหลักบัญชี
ส่วนบนของหน้าต่างถูกจัดการด้วย 7 แถบ
หน้าหลัก | ตั้งค่าบัญชีเบื้องต้น เช่น ส่งข้อความ |
---|---|
ข้อมูลเชิงลึก | คุณสามารถเลือกแสดงข้อมูลสถิติของแต่ละเมนูได้ คุณสามารถส่งข้อความให้กับผู้ใช้แต่ละคนได้ |
แชท | คุณสามารถส่งข้อความให้กับผู้ใช้แต่ละคนได้ |
โปรไฟล์ | คุณสามารถแก้ไขหน้าโปรไฟล์ได้ คุณสามารถแก้ไขหน้า LINE VOOM Studio ได้ |
LINE VOOM | คุณสามารถแก้ไขหน้า LINE VOOM Studio ได้ |
โปรแกรมเสริม | คุณสามารถไปยังหน้าต่างเครื่องมือโปรแกรมเสริมที่ได้เปิดใช้งานสำหรับ LINE Official Account ของคุณ |
ลำดับที่ | รายละเอียด |
---|---|
1 |
เมนูที่แสดงในหน้าหลักของหน้าต่างบัญชี คุณสามารถเลือกแก้ไขในแต่ละเมนูได้ โดยคลิกแต่ละเมนูเพื่อดูรายละเอียด |
2 | คุณสามารถแก้ไขโปรไฟล์ได้ เช่น รูปภาพโปรไฟล์ ปลั๊กอินหน้าโปรไฟล์ |
3 | ประกาศเกี่ยวกับการตั้งค่าบัญชีจะถูกแสดงในส่วนนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยเลือกหัวข้อที่ต้องการ |
4 |
เมื่อคลิกแล้วระบบจะพาคุณไปยังหน้าสร้างข้อความและ |
5 |
คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนได้ โดยเปลี่ยนหัวข้อได้ระหว่าง “แนวโน้ม” “ช่องทางการเพิ่มเพื่อน” และ “ข้อมูลคุณสมบัติ”
ช่องทางการเพิ่มเพื่อน: คุณสามารถเลือกแสดงข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการเพิ่มเพื่อนสำหรับการเพิ่มเพื่อนได้ ข้อมูลคุณสมบัติ: คุณสามารถดูสัดส่วนของเพื่อนได้ *ข้อมูลในส่วนนี้ใช้เวลาไม่เกิน 3 วันในการอัปเดทข้อมูล ข้อมูลที่แสดงทั้งหมดจึงเป็นข้อมูลของ 3 วันที่ผ่านมา |
6 |
การ |
7 | คุณสามารถสร้างหรือแก้ไขบรอดแคสต์ได้ผ่านส่วนนี้ |
8 | คุณสามารถตรวจสอบเนื้อหาที่เกี่ยวกับข้อมูลการช่วยเหลือเกี่ยวกับ LINE ได้ รวมถึงข้อแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน |
9 | คุณสามารถสร้างข้อความใหม่หรือดูแชทล่าสุดได้ในส่วนนี้ |
10 | คุณสามารถโปรโมทการเพิ่มเพื่อนได้โดยสร้างลิงก์ คิวอาร์โค้ด ปุ่ม และ โปสเตอร์ ผ่านส่วนนี้ได้ |
ส่วนหัว
ข้อมูลพื้นฐานของบัญชีจะถูกแสดงในส่วนนี้ คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ เช่น เชื่อบัญชี จำนวนเพื่อน
1 | ส่วนของรูปภาพและชื่อบัญชีที่แสดงบนหน้าโปรไฟล์ |
2 | Account ID |
3 | จำนวนเพื่อน |
4 | แสดงสถานการณ์ตอบแชท (เปิด/ปิด) |
5 |
เมื่อกดเข้าไปจะเจอข้อมูลต่อไปนี้
รายชื่อบัญชี : บัญชี LINE Official Account ที่บัญชี LINE ของคุณมีสิทธิในการเข้าถึง
รายชื่อกลุ่ม : กลุ่มบัญชีทางการที่คุณได้ตั้งค่าไว้
|
6 |
คุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
|
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
คุณสามารถจัดการแต่ละเมนูได้ผ่านหน้าหลักบัญชี
ตั้งค่าผู้ใช้
คุณสามารถสลับบัญชีเพื่อใช้งานผ่านหน้าต่างรายชื่อบัญชี นอกจากนี้คุณสามารถเปลี่ยนภาษาได้โดยเข้าไปที่เมนู “ตั้งค่าผู้ใช้”
การแจ้งเตือน: ตั้งค่าการแจ้งเตือนเดี่ยวกับข้อความ แชท และอื่น ๆ ได้
แชท: ตั้งค่าการใช้งานระหว่างการส่งข้อความ
โทร: ตั้งค่าการโทร การแจ้ง เตือน และคุณภาพของการโทรได้
คุณภาพรูป: สามารถเลือกคความละเอียดของรูปที่คุณส่งได้ การตั้งค่านี้จะมีผลต่อรูปข้อความในบรอดแคสต์, LINE VOOM และคูปอง
ขนาดตัวอักษร: สามารถเลือกขนาดของตัวอักษรที่แสดงในแอปพลิเคชันได้ โดยค่าเริ่มต้นจะเป็นขนาดเล็ก
โปรไฟล์ผู้ใช้: ตั้งค่าบัญชีธุรกิจ (หากต้องการเปลี่ยนภาษา กรุณาเข้าไปตั้งค่าภาษาในบัญชีธุรกิจนี้)
สลับบัญชีผู้ใช้
เลือก ”☰” ที่มุมบนซ้ายมือ รายชื่อบัญชีที่คุณมีสิทธิ์ในการจัดการจะถูกแสดงในหน้านี้
กรณีที่คุณมีมากกว่า 5 บัญชี ให้เลือก “แสดงทั้งหมด” เพื่อแสดงบัญชีที่เหลือ
LINE Official Account สามารถล็อกอินเข้าใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์ (LINE Official Account Manager) หรือแอปพลิเคชัน
ล็อกอินเข้าใช้งานบนแอปพลิเคชัน
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Official Account
2. ล็อคอินด้วยบัญชีไลน์ หรือ บัญชีธุรกิจ
ล็อกอินเข้าใช้งานบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เข้า manager.line.biz
2. ล็อคอินด้วยบัญชีไลน์ หรือ บัญชีธุรกิจ
LINE Business ID คือ ระบบการยืนยันตัวตนที่สามารถล็อกอินบริการต่าง ๆ ของ LINE สําหรับนักธุรกิจและ
นักพัฒนาได้ด้วย ID เดียวกัน คุณสามารถล็อกอินเข้า LINE Business ID ได้ด้วยบัญชีLINE หรือบัญชีธุรกิจ
(ล็อกอินด้วยอีเมลแอดเดรส)
กรณีที่ลืมรหัสผ่าน คุณไม่สามารถตรวจสอบรหัสผ่านที่ลงทะเบียนเอาไว ้ได้
กรุณาเปลี่ยนรหัสผ่านจาก LINE บนสมารท์ โฟน ตามขั้
นตอนต่อไปนี้
*กรุณาระมัดระวังอย่าลืมรหัสผ่านใหม่
1. เปิดแอปพลิเคชัน LINE บนสมาร์ทโฟน
2. เลือกที่แท็บ "หน้าหลัก" > "ตงั้ ค่า" (ไอคอนรปู เกียร)์ > "บัญชี"
3. เลือกที่ "รหัสผ่าน"
4. กรอกรหัสผ่านใหม่ แล้วเลือกที่ "ใช้รหัสผ่านนี้"
*บางครงั้ อาจต้องปลดล็อคอุปกรณ์ด้วย
ตั้งค่าบัญชี
การจัดการบนเว็บไซต์
ในเมนูนี้คุณสามารถตั้งค่าข้อมูลเบื้องต้นได้
โดยเข้าไปที่ “ตั้งค่า” > ”ตั้งค่าบัญชี”
1 | ชื่อบัญชี สำหรับบัญชีทั่วไปจะสามารถเปลี่ยนชื่อบัญชีได้ |
2 |
สามารถตั้งค่าข้อความสถานะที่จะแสดงอยู่ส่วนล่างของชื่อบัญชีได้
“ข้อความสถานะสามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง” |
3 |
แก้ไขรูปภาพโปรไฟล์
ขนาดรูป 640 x 640 พิกเซล และไฟล์ไม่เกิน 3MB (เมกะไบต์) *รูปภาพโปรไฟล์สามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง |
4 | ดูตัวอย่างหน้าโปรไฟล์ |
5 | แสดงสถานการณ์การรับรองบัญชี (สำหรับบัญชีทั่วไปสามารถขอสถานการณ์รับรองได้ที่นี่) |
6 | ตำแหน่งที่ตั้งบัญชีจะส่งผลต่อการแสดงผลการค้นหาและคูปอง |
7 | ตั้งค่าการอนุญาตให้เข้าร่วมกลุ่มหรือแชท |
8 | ตั้งค่าการเปิดรับรูป วิดีโอ ไฟล์ทางแชท |
9 | เบสิค ID ไอดีเบื้องต้นสำหรับแต่ละบัญชี |
10 | พรีเมียม ID ไอดีแบบกำหนดเองจากการซื้อแพ็กเกจ |
11 |
ประเทศที่บริษัทหรือบุคคลได้ลงทะเบียนไว้จะเป็นประเทศที่ตั้งบัญชี LINE Official Account (ประเทศที่ตั้งค่าไว้จะแสดง
ในหน้าจอที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดูได้ เช่น หน้าโปรไฟล์บัญชีทางการ) |
12 |
เลือกวัตถุประสงค์การใช้งานของบัญชี โดยสามารถเลือกได้หลายรายการ |
13 |
องค์กร สามารถสร้างและแชร์กลุ่มเป้าหมายด้วยการเก็บและรวบรวมข้อมูลได้ |
การจัดการแอปพลิเคชัน
ในเมนูนี้คุณสามารถตั้งค่าข้อมูลเบื้องต้นได้
โดยเข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “บัญชี”
1 |
**แก้ไขรูปภาพโปรไฟล์** ขนาดรูป 640 x 640 พิกเซล และไฟล์ไม่เกิน 3MB (เมกะไบต์) *รูปภาพโปรไฟล์สามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง |
2 |
สามารถตั้งค่าข้อความสถานะที่จะแสดงอยู่ส่วนล่างของชื่อบัญชีได้ *ข้อความสถานะสามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง ต่อ 1 ชั่วโมง |
3 | แสดงสถานการณ์การรับรองบัญชี |
4 | ตำแหน่งที่ตั้งบัญชีจะส่งผลต่อการแสดงผลการค้นหาและคูปอง |
5 | ตรวจสอบ เบสิค ID และ พรีเมียม ID |
6 | เลือกวัตถุประสงค์การใช้งานของบัญชี โดยสามารถเลือกได้หลายรายการ |
7 | องค์กร สามารถสร้างและแชร์กลุ่มเป้าหมายด้วยการเก็บและรวบรวมข้อมูลได้ |
8 | ประเทศที่บริษัทหรือบุคคลได้ลงทะเบียนไว้จะเป็นประเทศที่ตั้งบัญชี LINE Official Account (ประเทศที่ตั้งค่าไว้จะแสดงในหน้าจอที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดูได้ เช่น หน้าโปร ไฟล์บัญชีทางการ) |
9 | ตั้งค่าการอนุญาตให้เข้าร่วมกลุ่มหรือแชท |
10 | ตั้งค่าการเปิดรับรูป วิดีโอ ไฟล์ทางแชท |
การจัดการบนเว็บไซต์
ในเมนูนี้คุณสามารถเพิ่มสมาชิกเพื่อมีสิทธิเข้าถึงในการจัดการบัญชีของคุณได้ หรือ เปลี่ยนแปลงและแก้ไขสมาชิก โดยสมาชิกหลายคนสามารถแก้ไขหน้าการจัดการได้พร้อมกัน สำหรับสมาชิกที่มีสิทธิในการจัดการบัญชีจะมีสิทธิในการลบสมาชิกคนอื่นออกจากสิทธิได้
วิธีจัดการสิทธิ์
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “การจัดการสิทธิ์”
เลือก “เพิ่มสมาชิก” > เลือก ประเภทสิทธิ์ ที่ต้องการให้สมาชิก > เลือก “สร้างลิงก์”
*ลิงก์ที่สร้างขึ้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว ภายใน 24 ชั่วโมง
ตรวจสอบรายชื่อกลุ่ม
คุณสามารถตรวจสอบรายชื่อกลุ่มบัญชี LINE Official Account ได้ ซึ่งสมาชิกกลุ่มสามารถแก้ไขการตั้งค่าของแต่ละบัญชีได้เช่นกัน
เข้าไปที่ ”ตั้งค่า” > “การจัดการสิทธิ์” > “กลุ่ม”
รายชื่อกลุ่มที่ได้ตั้งค่าไว้จะถูกแสดงในหน้านี้
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
ในเมนูนี้คุณสามารถเพิ่มสมาชิกเพื่อมีสิทธิเข้าถึงในการจัดการบัญชีของคุณได้ หรือ เปลี่ยนแปลงและแก้ไขสมาชิก โดยสมาชิกหลายคนสามารถแก้ไขหน้าการจัดการ สำหรับสมาชิกที่มีสิทธิในการจัดการบัญชีจะมีสิทธิในการลบสมาชิกคนอื่นออกจากสิทธิได้
วิธีจัดการสิทธิ์
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “การจัดการสิทธิ์”
เลือก “เพิ่มสมาชิก” > เลือก ประเภทสิทธิ์ ที่ต้องการให้สมาชิก > เลือก “สร้างลิงก์” หรือส่งผ่าน “LINE”
*ลิงก์ที่สร้างขึ้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว ภายใน 24 ชั่วโมง
การจัดการบนเว็บไซต์
คุณจะสามารถแก้ไข้วิธีการตอบกลับและจัดการรายละเอียดสำหรับข้อความได้
ตั้งค่าการตอบกลับ
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “ตั้งค่าการตอบกลับ”
*หากข้อความทักทายเพื่อนใหม่ถูกปิดการใช้งานไว้ แม้ว่าจะมีการตั้งค่า ข้อความทักทายเพื่อนใหม่จะไม่ถูกส่ง
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
คุณจะสามารถแก้ไข้วิธีการตอบกลับและจัดการรายละเอียดสำหรับข้อความได้
ตั้งค่าการตอบกลับ
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “ข้อความตอบกลับ”
*หากข้อความทักทายเพื่อนใหม่ถูกปิดการใช้งานไว้ แม้ว่าจะมีการตั้งค่า ข้อความทักทายเพื่อนใหม่จะไม่ถูกส่ง
การจัดการบนเว็บไซต์
การตั้งค่าเบื้องต้น
เข้าไปที่เมนู “แชท” > ”ตั้งค่าแชท” > “พื้นฐาน” เพื่อตั้งค่าการแจ้งเตือนเบื้องต้น
ในกรณีที่ไม่ต้องการรับการแจ้งเตือนทางอุปกรณ์ขณะใช้งานเว็บไซต์คุณสามารถตั้งค่าได้ผ่านแอปพลิเคชัน LINE Official Account > ”การแจ้งเตือน” หรือ “รายชือบัญชี” > “ตั้งค่าผู้ใช้” > “การแจ้งเตือน” > “เลือกการแจ้งเตือน” > ปิดการตั้งค่า ข้อความใหม่ขณะใช้งานเว็บไซต์ LINE Official Account Manger
เวลาการตอบกลับ
เข้าไปที่ ”แชท” > ”ตั้งค่าแชท” > “เวลาตอบข้อความ” คุณสามารถตั้งค่าเวลาการตอบข้อความได้
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
การจัดการการแจ้งเตือน คุณสามารถเลือก เปิด/ปิด การแจ้งเตือนสำหรับแต่ละบัญชีได้
*เมื่อบัญชีถูกสร้างขึ้นใหม่ การแจ้งเตือนจะถูกตั้งค่า เปิด ในค่าเริ่มต้น
การตั้งค่าเบื้องต้น
เลือก “☰” มุมขวาบนในหน้าจอหลัก
1 | ตั้งค่าผู้ใช้ |
2 | ตั้งค่าการแจ้งเตือน |
3 | หากคุณปิดการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนทุกบัญชีจะถูกปิดการแจ้งเตือนสำหรับทุกอุปกรณ์ |
4 | เลือกบัญชีที่ต้องการรับการแจ้งเตือน |
5 |
รายชื่อบัญชีทางการที่เชื่อมต่อกับบัญชีของคุณจะแสดงในส่วนนี้
*หากคุณสร้างบัญชีใหม่ ค่าเริ่มต้นของการแจ้งเตือนจะถูก เปิด |
การจัดการบนเว็บไซต์
คุณสามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลของบริษัทหรือร้านค้าได้ในเมนู “ข้อมูลการลงทะเบียน”
แก้ไขข้อมูลลงทะเบียน
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “ข้อมูลลงทะเบียน”
ข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอคือข้อมูลล่าสุดที่คุณได้ลงทะเบียนไว้ คุณสามารถแก้ไขแต่ละหัวข้อข้อได้โดยเลือก “แก้ไข” หลังจากแก้ไขเสร็จแล้วเลือก “บันทึก”
การจัดการบนเว็บไซต์
แดชบอร์ด
คุณสามารถแก้ไขและตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้และจำนวนข้อความที่ส่งได้ โดยเข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “การใช้งานและการเรียกเก็บเงิน” > “แดชบอร์ด”
หากต้องการแก้ไขลิมิตในการส่งข้อความให้เลือก “แก้ไขลิมิต”
แก้ไขแพ็กเกจรายเดือน
เลือก “แพ็กเกจรายเดือน” ในเมนู “การใช้งานและการเรียกเก็บเงิน” เพื่อตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงเพ็กเกจที่ใช้อยู่
คุณสามารถเพิ่มระดับหรือลดระดับของแพ็กเกจได้ โดยในการเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจนั้นคุณจำเป็นต้องกรอกข้อมูลการชำระเงินให้เรียบร้อยก่อน
ตรวจสอบเกี่ยวกับการซื้อพรีเมียม ID
คุณสามารถตรวจสอบสถานะและซื้อการใช้งานพรีเมียม ID ได้ที่เมนู “พรีเมียม ID”
โดยกรอก ID ที่ต้องการใช้ หาก ID สามารถใช้งานได้ให้เลือก “ซื้อพรีเมียม ID”
*การซื้อพรีเมียม ID จำเป็นต้องระบุช่องทางการชำระเงินให้เรียบร้อย
*ลิงก์ URL และ QR code ที่สร้างเพื่อการเพิ่มเพื่อนจะไม่เปลี่ยนแปลงไปแม้ว่า ID จะถูกเปลี่ยนเป็นพรีเมียม ID แล้วก็ตาม
ตรวจสอบประวัติการชำระเงิน
คุณสามารถตรวจสอบการชำระเงินได้โดยเลือก “ประวัติการชำระเงิน” ในเมนู “การใช้งานและการเรียกเก็บเงิน”
ประวัติการชำระเงินจะถูกแสงตามช่วงเวลาที่ได้ระบุ
ตรวจสอบวิธีการชำระเงิน
คุณสามารถตรวจสอบวีธีการชำระเงินแบบเจาะจงแต่ละรายการได้จากประวัติการชำระเงิน หากคุณได้ลงทะเบียนใบกำกับภาษี ข้อมูลจะถูกแสดงในชื่อองค์กรหรือบริษัท
โปรโมชันโค้ด
คุณสามารถใส่โปรโมชันโค้ดได้ในเมนูนี้ เมื่อโปรโมชันโค้ดถูกใช้งานแล้ว จะถูกแสดงในส่วน ”โปรโมชันโค้ดที่ลงทะเบียนในขณะนี้”
*การลงทะเบียนโปรโมชันโค้ดถูกจำกัดในการใช้งานเพียง 1 ครั้ง / 1 แคมเปญ
คุณสามารถตรวจสอบสถานะของโปรโมชันโค้ดที่ลงทะเบียนแล้วได้ที่ “ โปรโมชันโค้ดที่ลงทะเบียนในขณะนี้”
*โปรโมชันโค้ดที่ลงทะเบียนเบียนแล้วจะมีอายุแสดง 1 ปีนับจากวันที่ลงทะเบียน
การใช้งานและการเรียกเก็บเงิน
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
หน้าต่างการสั่งซื้อแพ็กเกจสำหรับอุปกรณ์มือถือ
หากคุณจัดการ LINE Official Account ผ่านอุปกรณ์มือถือ แล้วต้องการเปลี่ยนแปลงหรือจัดการแพ็กเกจที่เกี่ยวกับการชำระเงิน กรุณาจัดการผ่านเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์
หน้าต่างการสั่งซื้อบนอุปกรณ์: https://manager.line.biz/webstore/
แต่จะไม่สามารถจัดการกรณีเหล่านี้ได้
- บัญชีกำลังใช้ special plan?
- บัญชีที่จัดการโดยเอเจนซี่
- บัญชีที่เปิดใช้บริการในที่พื้นที่ที่ไม่รับรอง
หรือสามารถเข้าผ่านแอปพลิเคชันได้ผ่านหน้าหลัก แล้วเลือก “รายละเอียดการใช้งาน”
*กรณีเข้าผ่าน LINE Official Account จะสามารถซื้อพรีเมียม ID และตรวจสอบจำนวนข้อความได้เท่านั้น
เปลี่ยนแปลงแพ็กเกจรายเดือน
ซื้อพรีเมียม ID
*การซื้อพรีเมียม ID จำเป็นต้องระบุช่องทางการชำระเงินให้เรียบร้อย
ลงทะเบียนข้อมูลใบกำกับภาษี
เข้าไปที่ “ข้อมูลใบกำกับภาษี” แล้วระบุหรือแก้ไขข้อมูลบริษัทของคุณ
บรอดแคสต์แบบระบุกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Broadcast) คือ การส่งข้อความบรอดแคสต์ถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดส่วนหนึ่งจากเพื่อนในบัญชีทั้งหมด
การส่งบรอดแคสต์แบบระบุกลุ่มเป้าหมายจำเป็นต้องมีทาร์เก็ตรีช (Target Reach) อย่างน้อย 100 คนจึงจะสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้
ขั้นตอนการตั้งค่าการส่งข้อความแบบระบุกลุ่มเป้าหมายมีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าบน LINE Official Account Manager
1. เลือกที่ “หน้าหลัก” > “บรอดแคสต์”
2. เลือกที่ “สร้างบรอดแคสต์”
3. หัวข้อผู้รับ เลือก “ระบุ”
4. ระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
5. ใส่เนื้อหาบรอดแคสต์ และส่ง
การจัดการบนเว็บไซต์
สร้างบรอดแคสต์
1.เข้าไปที่เมนู “บรอดแคสต์” > ”สร้างบรอดแคสต์”
2.ตั้งค่าในแต่ละส่วน
1 |
ตั้งค่าผู้รับข้อความบรอดแคสต์ เพื่อน/ระบุ หากเลือกระบุผู้รับ สามารถตั้งค่าได้ตามต่อไปนี้
|
2 | ตั้งค่าเวลาบรอดแคสต์ ตอนนี้/ตั้งค่าวันและเวลาตามไทม์โซนบัญชีของคุณ |
3 |
แสดงค่าประมาณผู้รับบรอดแคสต์ *อาจมีการคาดเคลื่อนจากผู้รับจริง |
4 | ตั้งค่าขั้นสูงสำหรับการส่งข้อความ
|
3. ตั้งค่ารูปแบบข้อความที่ต้องการบรอดแคสต์
*ไม่แนะนำการบรอดแคสต์ลิงก์ URL ทางลัด
สามารถเพิ่มจำนวนข้อความที่ต้องการส่งได้โดยเลือก “เพิ่ม” สามารถเพิ่มได้สูงสุด 3 ข้อความ
คุณสามารถดูตัวอย่างข้อความได้ทั้งในหน้าต่างห้องแชท และ รายชื่อแชท และดาวน์โหลดได้โดยเลือกปุ่มด้านบนขวามือของหน้าต่างแสดงตัวอย่าง
4. หลังจากตั้งค่าข้อความเรียบร้อยแล้ว ให้เลือก
บันทึกร่าง: คุณสามารถบันทึกร่างได้สูงสุด 1000 บรอดแคสต์
ทดสอบรอดแคสต์: สำหรับคนที่เข้าสู่ระบบด้วย LINE ระบบจะให้เลือกการทดสอบบรอดแคสต์ไปยัง ตัวฉันเท่านั้น หรือ แอดมินและโอเปอเรเตอร์ทั้งหมด หากเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจระบบจะทำการทดสอบบรอดแคสต์ไปยังแอดมินและโอเปอเรเตอร์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
ส่ง : บรอดแคสต์ข้อความที่คุณได้ตั้งค่าไว้ หากยังไม่ถึงช่วงเวลาที่คุณได้ตั้งค่าเอาไว้บรอดแคสต์จะอยู่ในรายชื่อตั้งเวลาส่ง
ตรวจสอบบรอดแคสต์
บรอดแคสต์ที่คุณได้ตั้งค่า บันทึก หรือส่งแล้วจะอยู่ใน รายชื่อบรอดแคสต์
สามารถเปลี่ยนมุมมองการมองเห็นได้ระหว่างแบบปฏิทินและรายการ ได้ที่มุมบนขวามือ
สำหรับรูปแบบปฏิทิน บรอดแคสต์ที่บันทึกร่างและถูกตั้งค่าเวลาให้บรอดแคสต์ทันทีจะไม่ถูกแสดง และ หากจำนวนของบรอดแคสต์ต่อเดือนมีมากกว่า 1000 ข้อความ อาจไม่ถูกแสดง
เมื่อเข้าไปที่รายการบรอดแคสต์จะพบรายละเอียดการบรอดแคสต์ และสามารถตรวจสอบเวลาและผู้ทำการบรอดแคสต์ได้
วันที่อัปเดต: วันที่สร้างหรือวันที่แก้ไขบรอดแคสต์
ผู้อัปเดทล่าสุด: แสดงชื่อบัญชีผู้ที่ทำการอัปเดทบรอดแคสต์
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
สร้างบรอดแคสต์
1.เลือก ”บรอดแคสต์ข้อความ” ในหน้าหลักบัญชี > เลือก “เพิ่ม” > เลือก รูปแบบข้อความ ที่ต้องการบรอดแคสต์
2.ตั้งค่าเนื้อหาที่ต้องการบรอดแคสต์
หากตั้งค่าเนื้อหาบรอดแคสต์เรียบร้อยแล้วให้เลือก “ต่อไป”
1 | ดูตัวอย่างข้อความที่ต้องการบรอดแคสต์ ทั้งทางห้องแชทและรายชื่อแชท |
2 | ตั้งค่าเนื้อหาที่ต้องการบรอดแคสต์ รายละเอียดอาจมีความแตกต่างกันไปตามรูปแบบข้อความ |
3 | สามารถเพิ่มจำนวนข้อความที่ต้องการบรอดแคสต์ ได้สูงสุด 3 ข้อความ |
3. ตั้งค่าบรอดแคสต์
ตั้งเวลาบรอดแคสต์: เลือกเวลาที่ต้องการบรอดแคสต์ หรือ บรอดแคสต์ทันที หากคุณตั้งเวลาล่วงหน้าบรอดแคสต์จะถูกจัดเข้า “ตั้งเวลาส่ง”
โพสต์ที่ LINE VOOM: เมื่อกด เปิด ข้อความบรอดแคสต์จะถูกโพสต์บนหน้าไทม์ไลน์ทันทีเมื่อมีการบรอดแคสต์
บรอดแคสต์จะไม่ถูกโพสต์บนไทม์ไลน์หากบรอดแคสต์หลายข้อความในเวลาเดียวกัน
จำนวนข้อความบรอดแคสต์ : หาเปิดใช้งานคุณสามารถตั้งค่าจำนวนข้คอวามที่ต้องการบรอดแคสตืได้
ผู้รับ : ตั้งค่าผู้รับเป็นเพื่อนทั้งหมด หรือ กำหนดกลุ่มผู้รับจากคุณสมบัติ
การระบุคุณสมบัติผู้รับทำได้โดยการเลือก “ฟิลเตอร์”
ชื่อฟิลเตอร์: ระบุเพื่อความสะดวกในการจัดการ โดยผู้รับจะไม่เห็นชื่อนี้
ข้อมูลคุณสมบัติ: ระบุเพศ อายุ OSหรือระบบปฏิบัติการ ระยะเวลาที่เป็นเพื่อน และ พื้นที่ของผู้รับ
หากตั้งค่าเรียบร้อยแล้วให้เลือก
ส่ง : บรอดแคสต์ข้อความที่คุณได้ตั้งค่าไว้ หากยังไม่ถึงช่วงเวลาที่คุณได้ตั้งค่าเอาไว้บรอดแคสต์จะอยู่ในรายชื่อตั้งเวลาส่ง
บันทึกร่าง : คุณสามารถบันทึกร่างได้สูงสุด 1000 บรอดแคสต์
ทดสอบรอดแคสต์ : สำหรับคนที่เข้าสู่ระบบด้วย LINE ระบบจะให้เลือกการทดสอบบรอดแคสต์ไปยัง ตัวฉันเท่านั้น หรือ แอดมินและโอเปอเรเตอร์ทั้งหมด หากเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีธุรกิจระบบจะทำการทดสอบบรอดแคสต์ไปยังแอดมินและโอเปอเรเตอร์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
คัดลอกบรอดแคสต์ที่เปิดใช้งาน
ตรวจสอบรายชื่อบรอดแคสต์
ตรวจสอบข้อความบรอดแคสต์ที่คุณได้สร้าง บันทึกร่าง หรือ ส่ง แล้วได้ที่ “บรอดแคสต์”
เมื่อเข้าไปที่รายการบรอดแคสต์จะพบรายละเอียดการบรอดแคสต์ และ สามารถตรวจสอบเวลาและผู้ทำการบรอดแคสต์ได้
วันที่อัปเดต : วันที่สร้างหรือวันที่แก้ไขบรอดแคสต์
ผู้อัปเดทล่าสุด : แสดงชื่อบัญชีผู้ที่ทำการอัปเดทบรอดแคสต์
คุณสามารถกำหนดจำนวนข้อความบรอดแคสต์ได้ตามงบประมาณที่กำหนดไว้ โดยต้องไม่เกินจำนวนข้อความที่ส่งได้ในขณะนั้น ระบบจะเลือกผู้รับด้วยวิธีสุ่มจากเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายโดยประมาณ ณ เวลาที่บรอดแคสต์
วิธีการกำหนดข้อความบรอดแคสต์มีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนกำหนดจำนวนข้อความบรอดแคสต์บนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่ "บรอดแคสต์" > "สร้างใหม่"
2. เพิ่มข้อความแล้วเลือกที่ "ต่อไป"
3. เปิดใช้งานจำนวนข้อความบรอดแคสต์ > ใส่จำนวนข้อความในหัวข้อ "จำนวนข้อความบรอดแคสต์"
ขั้นตอนกำหนดจำนวนข้อความบรอดแคสต์บน LINE Official Account Manager
1. คลิกที่ "บรอดแคสต์" > "สร้างใหม่"
2. คลิกเลือกที่ "กำหนดจำนวนสูงสุดของข้อความบรอดแคสต์" ในห้วข้อ "ตั้งค่าขั้นสูง"
3. ใส่จำนวนข้อความ
คุณสามารถสร้างข้อความ (ตัวแปร) ที่มีเนื้อหาต่างกันหลายข้อความ แล้วทดสอบด้วยการบรอดแคสต์ข้อความแต่ละแบบไปยังผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ ตามสัดส่วนที่กำหนด
หลังจากบรอดแคสต์แล้วให้นำผลการวิเคราะห์ของแต่ละตัวแปรมาพิจารณา เพื่อส่งข้อความที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไปยังผู้ใช้ที่ยังไม่ได้รับข้อความ (ภายใน 3 วันนับตั้งแต่เริ่มทดสอบ)
วิธีการสร้างการทดสอบ A/B test สำหรับการส่งข้อความบรอดแคสต์บน LINE Official Account Manager
ได้โดยการเลือกที่ "ตั้งค่าชั้นสูง"
ขั้นตอนการตั้งค่าผ่าน LINE Official Account Manager
1. คลิกที่ "หน้าหลัก" > "บรอดแคสต์" > "สร้างใหม่"
2. คลิกเลือกที่ "สร้างการทดสอบ A/B test" ในหัวข้อ "ตั้งค่าชั้นสูง"
หมายเหตุ:
*ฟีเจอร์สร้างการทดสอบ A/B test ไม่สามารถใช้งานได้บนแอปพลิเคชัน
**ฟีเจอร์สร้างการทดสอบ A/B test จำเป็นต้องมีทาร์เก็ตรีชตั้งแต่ 5,000 ขึ้นไป
กรุณาตรวจสอบประเภทของข้อความที่นับเป็นจำนวนข้อความบรอดแคสต์และข้อความที่ไม่นับดังต่อไปนี้
ข้อความที่ถูกนับ
- บรอดแคสต์ข้อความ (รวมข้อความแบบระบุเป้าหมาย)
- สเต็ปเมสเสจ
- Messaging API เช่น Push API, Multicast API, Broadcast API
ข้อความที่ไม่นับ
- ข้อความแชทที่รับ / ส่ง
- ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ
- ข้อความตอบกลับ AI
- ข้อความทักทายเพื่อนใหม่
- Messaging API ที่เกี่ยวกับ Reply API
LINE Official Account จะคิดจำนวนข้อความตามจำนวน target reach
ซึ่งหมายถึง จำนวน followers ของเราที่ยัง active อยู่และยังไม่ได้ block เท่านั้น
แพ็กเกจ LINE Official Account สามารถเริ่มใช้งานได้ฟรี โดยจะสามารถบรอดแคสต์ข้อความได้ 500 ข้อความต่อเดือน (โดยนับจากจำนวน Target Reach ที่ได้รับข้อความ)
หากต้องการบรอดแคสต์มากกว่า 500 ข้อความต่อเดือน สามารถอัปเกรดแพ็กเกจเป็น
• แพ็กเกจ Basic สามารถบรอดแคสต์ได้ 15,000 ข้อความต่อเดือน หรือ
• แพ็กเกจ Pro สามารถบรอดแคสต์ได้ 35,000 ข้อความต่อเดือน
และหากต้องการบรอดแคสต์ข้อความมากกว่า 35,000 ข้อความต่อเดือน จำนวนข้อความที่เกินกว่า 35,000 จะคิดตามจริงข้อความละ 4 สตางค์ หรือประมาณ 400 บาท ต่อ 10,000 ข้อความ
การแชท คือ ฟังก์ชันการใช้ข้อความสื่อสารกันระหว่างผู้ใช้กับเจ้าของบัญชี LINE Official Account ซึ่งสามารถใช้งานการแชทได้ดังต่อไปนี้
- แชทแบบตัวต่อตัว (1:1)
- แชทแบบกลุ่ม
- Messaging API
*ไม่สามารถใช้งานการแชท (แชทแบบตัวต่อตัว, แชทแบบกลุ่ม) กับ Messaging API พร้อมกันได้
*กรุณาเลือกใช้งาน "โหมดการตอบกลับ : แชท" เพื่อใช้งานฟังก์ชันการแชท หรือ "โหมดการตอบกลับ : บอต" เพื่อใช้งาน Messaging API อย่างใดอย่างหนึ่ง
การจัดการแชทบนเว็บไซต์
การใช้แชทคุณจำเป็นต้องเปิดการใช้งานก่อน โดยสามารถทำได้โดยเข้าไปที่ ”ตั้งค่า” ทางด้านมุบนขวามือ > เลือกเมนู “ตั้งค่าการตอบกลับ” > เปิดการใช้งาน “แชท”
รายการเมนู
เข้าสู่หน้าต่างการตั้งค่าแชทโดยเลือก “แชท” ในแถบเมนูด้านบน
ตั้งค่าในแต่ละส่วน
แชท สำหรับแชท 1:1 กับผู้ใช้ รวมถึงสามารถตั้งค่าให้ผู้ใช้แต่ละรายได้ ดังนี้
*ข้อความและสติกเกอร์จะอยู่ในระบบตลอดจนกว่าจะลบแชท ส่วนรูปภาพจะอยู่ในระบบ 1 ปี
รายชื่อติดต่อ สามารถดูรายชื่อผู้ใช้ทั้งหมดที่เคยส่งข้อความมายังบัญชีทางการได้ที่นี่
*สำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่ได้เพิ่มบัญชีทางการของคุณเป็นเพื่อน คุณสามารถส่งข้อความหาผู้ใช้ได้ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันส่งข้อความครั้งสุดท้าย
*ห้องแชทสำหรับผู้รับหลายคนจะไม่ถูกแสดงในส่วนนี้
ส่งข้อความถึงผู้ใช้หลายคน คุณสามารถส่งข้อความถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ได้ตั้งค่าไว้
เมื่อคุณเลือกกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการส่งข้อความถึงแล้วให้เลือก “สร้างข้อความใหม่” ระบบจะพาคุณไปยังหน้าตั้งค่าบรอดแคสต์
*จำนวนข้อความที่ส่งจะถูกนับรวมเข้าจำนวนข้อความส่งถึงเพื่อน
ตั้งค่าแชท เมื่อคลิกเข้าไปที่แถบเมนู ตั้งค่าแชท จะเจอแถบย่อยต่าง ๆ
1. พื้นฐาน
ตั้งค่าการแจ้งเตือน: สามารถเปิด/ปิดการแจ้งเตือนของแชทได้ ไม่ว่าจะเป็นแจ้งเตือนด้วยหน้าต่างป๊อบอัพ หรือ แจ้งเตือนด้วยของความเสียง และ สามารถเปิด/ปิดการแจ้งเตือน LINE Call บนเว็บไซต์
ตั้งค่าเสียงและวิดีโอ: สามารถเปิด/ปิดการใช้งาน ไมโครโฟน กล้อง และ ดูตัวอย่างของกล้องได้
*หากการใช้งานบนเบราว์เซอร์ถูกบล็อกสามารถตั้งค่าได้โดยเลือกไอคอนด้านหนาที่อยู่เว็บไซต์ > เลือก เปิด การใช้งานไมโครโฟนและกล้อง
วิธีส่ง: สามารถเลือกวีธีการส่งข้อความได้
ตัวอย่างลิงก์: สามารถเลือกเปิด/ปิดสำหรับการแสดงตัวอย่างลิงก์ในแชท
สำรองข้อมูลประวัติแชท: สามารถสำรองข้อมูลการแชทได้ (ซึ่งสามารถสร้างไฟล์ CSV ได้สัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น)
2. แท็ก สร้างแท็กได้สูงสุด 200 แท็ก และใส่แท็กได้สูงสุด 10 แท็ก ต่อ 1 ผู้ใช้ และ สามารถค้นหาแท็กได้ในช่องค้นหา
3. ข้อความตอบกลับ สามารถกำหนดข้อความตอบกลับที่ต้องใช้บ่อยเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการตอบข้อความเมื่อได้รับการติดต่อสอบถาม
4. เวลาตอบข้อความ สามารถกำหนดช่วงเวลาและวิธีตอบกลับข้อความแชทสำหรับในและนอกเวลาตอบกลับข้อความได้
5. แบนเนอร์แสดงสถานะ เเบนเนอร์สถานะซึ่งแสดงที่ด้านบนของห้องแชท คุณสามารถแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงโหมดการตอบข้อความ เวลาตอบข้อความ หรืออื่น ๆ ผ่านแบนเนอร์สถานะนี้ได้
6. การโทร
สามารถตั้งค่าเกี่ยวกับการโทร
ตรวจสอบรายการแชท
ทั้งหมด: ทุกรายการแชทจะแสดง
อินบ็อกซ์:
ยังไม่ได้อ่าน: รายการที่ยังไม่ได้อ่าน
ดำเนินการ: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า “ดำเนินการ”
เสร็จสิ้น: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า “เสร็จสิ้น”
รับผิดชอบ: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า “รับผิดชอบ”
สแปม: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่าเป็น “สแปม”
ตั้งค่าห้องแชท
เข้าไปที่ ︙ทางด้านขวาของรายการข้อความ
1 | คุณสามารถดูตัวอย่างข้อความโดยผู้ใช้งานแชทอีกฝ่ายไม่รู้ได้ |
2 |
ตั้งค่ารายการแชทเป็น ดำเนินการ
*สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง |
3 | ตั้งค่าปักหมุดรายการแชท รายการแชทใดถูกปักหมุดรายการแชทนั้นจะถูกจัดอยู่บนสุดของรายการแชททั้งหมด |
4 |
ตั้งค่ารายการแชทเป็น สแปม
“คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความใหม่” แชทนี้จะถูกย้ายไปที่โฟลเดอร์ "สแปม" คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนข้อความใหม่อีกต่อไป ต้องการกำหนดเป็นสแปมเมอร์หรือไม่ |
5 |
ลบรายการแชททั้งหมดจะถูกลบออกประวัติการแชท
ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับแชทนี้จะถูกลบ รวมถึงประวัติการแชทและข้อมูลผู้ใช้ ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่ |
แชท
1 | แสดงบทสนทนากับผู้ใช้ทั้งหมด |
2 |
คุณสามารถส่งข้อความหาผู้ใช้ได้ *ตั้งค่าวิธีส่งข้อความได้โดยเข้าที่ "ตั้งค่าแชท" > "พื้นฐาน" > "วิธีส่ง" หากผู้ใช้ออกจากห้องแชท บล็อกบัญชีของคุณ หรือ ลบบัญชี LINE แล้วคุณจะไม่สามารถส่งข้อความหาได้ |
3, 4 | คุณสามารถส่งอิโมจิ สติกเกอร์หรือแบบลิงก์ผ่านทางข้อความได้ |
5 |
คุณสามารถเลือก ข้อความตอบกลับ การ์ดเมสเสจ หรือ คูปองที่ตั้งค่าไว้ส่งหาผู้ใช้ได้
|
6 |
เมื่อคุณกดส่งคำขอการโทร คุณและผู้ใช้สามารถใช้การโทรเพื่อสนทนากันได้ *จำเป็นต้องเปิดใช้งานการโทรก่อน สามารถตั้งค่าได้ที่ "ตั้งค่าแชท" > "การโทร" |
7 | สามารถตั้งค่าแชทแท็กเป็นดำเนินการได้ ห้องแชทดังกล่าวจะถูกจัดกลุ่มเข้ารายการที่ต้องดำเนินการ |
8 | เมื่อตั้งค่าห้องแชทเป็นดำเนินการแล้ว ห้องแชทดังกล่าวจะถูกจัดกลุ่มเข้ารายการเสร็จสิ้น |
9 | กดปุ่มค้นหาเมื่อต้องการค้นหาข้อความในห้องแชท หากมีข้อความที่ตรงกับคำค้นหา รายการข้อความดังกล่าวถูกแสดง |
ตรวจสอบข้อมูลโปรไฟล์ผู้ใช้
1 |
คุณสามารถตั้งค่าผู้ใช้นี้เป็นสแปม
ดาวน์โหลดประวัติการแชทในรูปแบบ CSV และลบรายการแชทได้
|
2 | ชื่อเล่นของผู้ใช้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น |
3 | สร้างแท็กได้สูงสุด 200 แท็ก และใส่แท็กได้สูงสุด 10 แท็ก ต่อ 1 ผู้ใช้ และ สามารถค้นหาแท็กได้ในช่องค้นหา |
4 | คุณสามารถตั้งค่าแอดมินเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละรายการแชทได้ หากไม่มี กำหนดไว้ แอดมินที่ส่งข้อความหาผู้ใช้เป็นคนแรกจะถูกกำหนดเป็นผู้รับผิดชอบ โดยอัตโนมัติ |
5 | สร้างโน้ตได้สูงสุด 200 โน้ต ต่อ 1 ผู้ใช้ |
การจัดการแชทบนแอปพลิเคชัน
1 |
ทั้งหมด: ทุกรายการแชทจะแสดง ยังไม่ได้อ่าน: รายการที่ยังไม่ได้อ่าน ดำเนินการ: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า "ดำเนินการ" เสร็จสิ้น: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า "เสร็จสิ้น" รับผิดชอบ: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่า "รับผิดชอบ" สแปม: รายการแชทที่คุณได้ตั้งค่าเป็น "สแปม" แสดงห้องแชทตามสถานะที่คุณเลือก |
2 | แจ้งเตือน: สามารถเปิด/ปิดการแจ้งเตือนแชทได้ |
3 |
ดำเนินการ: ตั้งค่าสถานะของห้องแชทเป็นต้องดำเนินการ หรือ ดำเนินการแล้ว ค้นหา: ค้นหาข้อความในห้องแชท จัดการโปรไฟล์ผู้ใช้: จัดการชื่อเล่น กำหนดผู้รับผิดชอบ ตั้งค่าแท็ก สร้างโน้ตหรือลบประวัติแชท |
4 | คุณสามารถส่งข้อความหาผู้ใช้ได้ และสามารถแนบไฟล์เพิ่มเติมได้ทั้ง สติกเกอร์ รูปภาพ ไฟล์ ข้อความ ตอบกลับ การ์ดเมสเสจ ออเดอร์ และ คำขอการโทร |
5 |
จัดการโปรไฟล์ผู้ใช้ ชื่อเล่น: ชื่อเล่นของผู้ใช้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น ผู้รับผิดชอบ: แอดมินผู้รับผิดชอบในแต่ละแชท แท็ก: สร้างแท็กได้สูงสุด 200 แท็ก และใส่แท็กได้สูงสุด 10 แท็ก ต่อ 1 ผู้ใช้ โน้ต: สร้างได้สูงสุด 200 โน้ต ต่อ 1 ผู้ใช้ สแปมเมอร์: สามารถตั้งค่าผู้ใช้นี้เป็นสแปม ลบ: ลบประวัติแชท |
ตั้งค่าแชท
เวลาตอบกลับข้อความ: สามารถกำหนดช่วงเวลาและวิธีตอบกลับข้อความแชทสำหรับในและนอกเวลาตอบกลับข้อความได้
แบนเนอร์ข้อความตอบกลับ: สถานะเเบนเนอร์สถานะซึ่งแสดงที่ด้านบนของห้องแชท คุณสามารถแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงโหมดการตอบข้อความ เวลาตอบข้อความ หรืออื่น ๆ ผ่านแบนเนอร์สถานะนี้ได้
โทร: ตั้งค่าเกี่ยวกับการโทร การแสดงไอคอน และ ตัวเลือกการโทรรวมถึงวิธีการโปรโมทการโทรได้
แท็ก: สร้างแท็กได้สูงสุด 200 แท็ก และใส่แท็กได้สูงสุด 10 แท็ก ต่อ 1 ผู้ใช้ และ สามารถค้นหาแท็กได้ในช่องค้นหา
ข้อความตอบกลับ: สามารถกำหนดข้อความตอบกลับที่ต้องใช้บ่อยเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกในการตอบข้อความเมื่อ
ตั้งค่าห้องแชท
ดูตัวอย่างข้อความที่ได้รับ | คุณสามารถดูตัวอย่างข้อความโดยผู้ใช้งานแชทอีกฝ่ายไม่รู้ได้ |
ดำเนินการ, ปักหมุด |
ตั้งค่ารายการแชทเป็น ดำเนินการ หรือ ตั้งค่าปักหมุดรายการแชท
รายการแชทใดถูกปักหมุดรายการแชทนั้นจะถูกจัดอยู่บนสุดของรายการแชททั้งหมด
*สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง |
กำหนดเป็นสแปมเมอร์ |
ตั้งค่ารายการแชทเป็น สแปม
*คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความใหม่ |
ลบ |
รายการแชททั้งหมดจะถูกลบออกประวัติการแชท
*ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับแชทนี้จะถูกลบ รวมถึงประวัติการแชทและข้อมูลผู้ใช้ ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่ |
เปิดการใช้งาน Messaging API ซึ่งสามารถตั้งค่าได้บนเว็บไซต์เท่านั้น โดยผู้มีสิทธิ์ในฐานะแอดมินเท่านั้นที่มีสิทธิแก้ไขได้
Messaging API
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” > “Messaging API”
เลือก “ใช้ Messaging API” เพื่อสร้างโพรไวเดอร์> ใส่ข้อมูลชื่อและที่อยู่อีเมล เมื่ออ่านข้อตกลง LINE Developers Agreement เรียบร้อยแล้ว > เลือก “ยอมรับ”
*โพรไวเดอร์นี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ในภายหลัง โปรดตรวจสอบรายเอียดให้เรียบร้อยก่อน
*หากคุณต้องการเชื่อมกับช่องทางการเข้าสู่ระบบ LINE กรุณาเลือกที่อยู่ของโพรไวเดอร์และช่องทางให้เหมือนกัน
หลักจาก “ยอมรับ” แล้วให้เลือก “OK” ในหน้าจอการยืนยันเพื่อเปิดใช้งาน
คุณสามารถจัดการสิทธิ์ของบัญชีทางการในรูปแบบกลุ่มได้ ซึ่งสามารถตั้งค่าเมนูสำหรับบัญชีทางการที่เป็นสมาชิกของกลุ่มภายในครั้งเดียวได้
สามารถตั้งค่าได้เฉพาะบนเว็บไซต์
สร้างกลุ่ม
เข้าไปที่ โปรไฟล์ ของคุณทางด้านมุมบนขวามือ > แล้วเลือก “ตั้งค่า” > “กลุ่ม” > ”สร้างใหม่”
หัวข้อ | คำอธิบาย |
---|---|
บัญชี |
เพิ่มสมาชิก (สูงสุด 5000 คนต่อ 1 กลุ่ม) โดยบัญชีที่อยู่คนละพื้นที่บริการจะไม่ สามารถเข้าร่วมกลุ่มเดียวกันได้ *1 บัญชีสามารถจัดการกลุ่มได้มากสุด 100 กลุ่ม *ผู้ใช้ที่ไม่ได้มีสิทธิ์แอดมินในบัญชีนั้นจะไม่มีสิทธิ์สร้างกลุ่มได้ |
จัดการกลุ่ม
สามารถสร้างเนื้อหาสำหรับบัญชีทางการที่เป็นสมาชิกในกลุ่ม
ในหน้าหลักนี้จะแสดงแสดงประวัติการตั้งค่าของกลุ่ม
1 | รายการเมนูที่คุณสามารถจัดการกับกลุ่มบัญชีทางการได้ ได้แก่ บรอดแคสต์ ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ เมสเสจประเภทต่างๆ เครื่องมือ และ หน้าจอแชท |
2 |
คุณสามารถดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ดเพิ่มเพื่อนสำหรับบัญชีทางการที่อยู่ในกลุ่ม
*ไฟล์มีอายุการดาวน์โหลด 24 ชั่วโมงหลังจากสร้างคิวอาร์โค้ด |
3 | สามารถตั้งค่าบัญชีพื้นฐาน ได้แก่ ชื่อบัญชี รูปโปรไฟล์ สถานะ ตั้งค่าการเปิดใช้งานข้อมูลที่อยู่และแผนที่ แสดงบัญชีที่ผลการค้นหาและการแนะนำ, การเข้าร่วมกลุ่ม&แชท, เปิด/ปิดข้อความทักทายเพื่อนใหม่ และ ประเทศที่ตั้งบริษัท/ธุรกิจ |
4 | สามารถตั้งค่าโปรไฟล์บัญชี ได้แก่ คำอธิบาย เวลาทำการ งบประมาณ โทร เว็บไซต์ จอง วิธีชำระเงิน สถานที่ ข้อมูลที่อยู่ และ แผนที่ |
5 | แสดงสถานะการทำงานของฟังก์ชันกลุ่มที่ตั้งค่าไว้ |
6 | ฟังก์ชันที่ถูกใช้สำหรับกลุ่ม |
7 | รายละเอียดในแต่ละฟังก์ชัน |
8 | รูปแบบการจัดการฟังก์ชัน |
9 | แสดงวันเริ่มต้นใช้งานฟังก์ชัน |
10 | แสดงผลลัพธ์การใช้งานฟังก์ชัน |
11 | สามารถดาวน์โหลดผลลัพธ์การใช้งานได้ |
แสดงข้อมูลเชิงลึก
เข้าไปที่แถบ “ข้อมูลเชิงลึก” แล้วเลือก “เอ็กซ์พอร์ต” แล้วเพื่อรับข้อมูลในรูปแบบ CSV
ทั้งหมด: กรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 60 วัน (ไม่รวมข้อมูลคูปอง)
เพื่อน: สำหรับข้อมูลรวมกรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 397 วัน
ข้อความ: กรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 60 วัน
ริชเมนู: เลือกริชเมนูที่ต้องการดาวน์โหลดข้อมูลเชิงลึก
แชท: กรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 397 วัน
คูปอง: เลือกคูปองที่ต้องการดาวน์โหลดข้อมูลเชิงลึก
การจอง: กรุณาเลือกช่วงเวลาภายใน 396 วัน
*ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเอ็กซ์พอร์ตแล้วจะแสดงใน ประวัติการเอ็กซ์พอร์ต
การจัดการกลุ่ม
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” ทางด้านมุมบนขวามือในหน้าหลัก แล้วเลือก “ตั้งค่ากลุ่ม”
สามารถจัดการรูปโปรไฟล์ ชื่อกลุ่ม และการอนุญาตให้สมาชิกกลุ่มเข้าถึงแชทบัญชีทางการ
สิทธิพิเศษการจัดการกลุ่ม
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” ทางด้านมุมบนขวามือในหน้าหลัก แล้วเลือก “การจัดการสิทธิ์กลุ่ม”
คุณสามารถเพิ่มสมาชิกและจัดการสิทธิ์ในฐานะแอดกลุ่มและโอเปอเรเตอร์กลุ่มได้ โดยเลือก ประเภทสิทธิ์ ที่ต้องการ แล้วคัดลอกลิงก์ URL ในกล่องข้อความ เพื่อส่งให้สมาชิก
*ลิงก์มีอายุการใช้งานเพียง 24 ชั่วโมงหลังจากสร้างลิงก์ และสามารถใช้งานได้เพียง 1 ครั้ง
ลบกลุ่ม
เข้าไปที่ “ตั้งค่า” ทางด้านมุมบนขวามือในหน้าหลัก แล้วเลือก “ลบกลุ่ม”
กรุณาอ่านรายละเอียดการลบกลุ่มก่อนกด “ลบ”
คุณสามารถใช้ LINE สติกเกอร์ที่ซื้อได้โดยล็อกอินด้วยบัญชี LINE เข้าใช้งานเว็บไซต์ LINE Official Account Manager หรือแอปพลิเคชัน
สติกเกอร์ที่สามารถใช้งานได้ มีดังต่อไปนี้
- สติกเกอร์ที่เป็นค่าเริ่มต้นของระบบ
- ครีเอเตอร์สติกเกอร์ที่ซื้อด้วยบัญชี LINE ที่ใช้ล็อกอิน
หมายเหตุ:
*ไม่สามารถใช้สติกเกอร์ทางการได้
*ไม่สามารถใช้ครีเอเตอร์สติกเกอร์ประเภทสติกเกอร์เติมคำ และสติกเกอร์ข้อความได้
*ไม่สามารถใช้ครีเอเตอร์สติกเกอร์ที่ซื้อด้วยบัญชี LINE ได้หากล็อกอินด้วยบัญชีธุรกิจ
OA Call คือฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน LINE สามารถโทรศัพท์หาบัญชีทางการ LINE ได้
หากบัญชีทางการใช้งาน LINE Call ควบคู่กับการแชท จะช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้นด้วยการโทรและวิดีโอคอล เมื่อมีเรื่องด่วนหรือเรื่องที่อธิบายผ่านการแชทได้ยาก
*บัญชีทางการ LINE ไม่สามารถเป็นฝ่ายเริ่มต้นใช้ OA Call โทรหาผู้ใช้ได้
กรุณาตรวจสอบวิธีเปิดใช้งาน LINE Call ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการเปิดใช้งานบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “แชท” > “ตั้งค่า” (ไอคอนรูปเกียร์) ทางด้านขวาบน
2. เลือกที่ “โทร”
3. เปิดการตั้งค่า “LINE Call”
ขั้นตอนการเปิดใช้งานบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ “แชท”
2. เลือกที่ “ตั้งค่าแชท” > “โทร”
3. เปิดใช้งาน “LINE Call”
*สามารถใช้งาน OA Call ในโหมดการตอบกลับเป็นโหมดแชทเท่านั้น
*การโทรผ่านหน้าจอการจัดการบนเว็บสามารถใช้งานได้ผ่านเบราว์เซอร์ Google Chrome เท่านั้น
คุณสามารถรับโทรศัพท์เฉพาะเวลาที่จำเป็นได้โดยการส่งคำขอการโทรให้ผู้ใช้
กรุณาตรวจสอบวิธีส่งคำขอการโทรตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการส่งจากแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ "แชท" > เลือกแชทของผู้ใช้ที่ต้องการส่งคำขอการโทรให้
2. เลือกที่ "+" ด้านซ้ายล่าง
3. เลือกที่ "คำขอการโทร" > "ส่ง"
ขั้นตอนการส่งจากเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ "แชท" > เลือกแชทของผู้ใช้ที่ต้องการส่งคำขอการโทรให้
2. เลือกไอคอน "โทรศัพท์" ด้านขวาล่าง > "ส่ง"
คำขอการโทรที่ส่งให้ผู้ใช้ สามารถกำหนดเวลาใช้งาน 30 นาทีได้
โดยคำขอการโทรนั้นจะหมดอายุการใช้งานเมื่อผ่านไป 30 นาที ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเริ่มการโทรได้
ขั้นตอนการตั้งค่าคำขอการโทรที่มีกำหนดเวลาใช้งาน
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ "แชท" > "ตั้งค่าแชท" (ไอคอนรูปเกียร์)
2. เลือกที่ "โทร"
3. เปิดการตั้งค่าที่ "กำหนดเวลาใช้งานคำขอการโทร" ในหัวข้อตั้งค่าตัวเลือก
ขั้นตอนการตั้งค่าบนหน้าจอการจัดการบน LINE Official Account Manager
1. คลิกที่แท็บ "แชท" > "ตั้งค่าแชท" (ไอคอนรูปเกียร์)
2. คลิกที่ "โทร"
3. เลือก "ใช้งาน" ที่ "กำหนดเวลาใช้งานคำขอการโทร" ในหัวข้อตั้งค่าตัวเลือก
หากตั้งค่าข้อความเมื่อไม่สามารถรับโทรศัพท์ ระบบจะส่งข้อความดังกล่าวให้ผู้ใช้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้
สามารถตรวจสอบวิธีตั้งค่าข้อความเมื่อไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ “แชท” > “ตั้งค่าแชท” (ไอคอนรูปเกียร์)
2. เลือก “โทร”
3. เปิดใช้ “ข้อความเมื่อไม่สามารถรับโทรศัพท์”
4. แก้ไขข้อความ
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “แชท” > ตั้งค่า (ไอคอนรูปเกียร์) ทางด้านขวาบน
2. เลือกที่ “โทร”
3. เปิดการตั้งค่า “ข้อความเมื่อไม่สามารถรับโทรศัพท์”
4. แก้ไขข้อความ
สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “การแจ้งเตือน” > “ตั้งค่า” (ไอคอนรูปเกียร์) ด้านขวาบน
2. เลือกที่ “โทร”
3. เปิดการตั้งค่า “รับสาย” หากต้องการรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า หรือปิดหากไม่ต้องการ
ขั้นตอนการตั้งค่าบน LINE Official Account Manager
1. เลือกที่แท็บ “แชท”
2. เลือกที่ “ตั้งค่าแชท” > “พื้นฐาน”
3. เปิดใช้ “รับการแจ้งเตือนบนเว็บไซต์” ที่หัวข้อ “LINE Call”
*กรุณาเปิดการตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Google Chrome แล้วอนุญาตให้ “chat.line.biz” เข้าถึงได้
*การโทรผ่านหน้าจอการจัดการบนเว็บสามารถใช้งานได้ผ่านเบราว์เซอร์ Google Chrome เท่านั้น
ขั้นตอนการตั้งค่าการแจ้งเตือนของ Google Chrome แล้วอนุญาตให้ “chat.line.biz” เข้าถึงได้
1. คลิกที่ “:” ทางด้านขวาบนของเบราว์เซอร์ Google Chrome > “การตั้งค่า”
2. คลิกที่ “การตั้งค่าเว็บไซต์” ในหัวข้อ “ข้อมูลส่วนบุคคลและความปลอดภัย” > “การแจ้งเตือน”
3. คลิกที่ “chat.line.biz” ภายในหน้าการตั้งค่าการแจ้งเตือน
4. ไปที่หัวข้อการแจ้งเตือนในรายการสิทธิ์แล้วเปลี่ยนสิทธิ์เป็น “อนุญาต”
สามารถโอนสายจาก LINE Call ไปยังโทรศัพท์บ้านของร้านค้าได้
โดยประวัติการโทรและสายที่ไม่ได้รับจะแสดงอยู่ในห้องแชทเหมือนการโทร LINE Call ตามปกติ
ขั้นตอนการตั้งค่าโอนสาย LINE Call
ขั้นตอนการตั้งค่าบนหน้าจอการจัดการบน LINE Official Account Manager
1. คลิกที่แท็บ "แชท" > "ตั้งค่าแชท" (ไอคอนรูปเกียร์)
2. คลิกที่ "ตั้งค่าแชท" > "โทร"
3. คลิกเลือกประเภทการโทรเป็น "โอนสาย" ในหัวข้อ "ประเภทการโทร"
4. กรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการโอนสายในหน้าต่างป๊อปอัพ "ใส่หมายเลขโทรศัพท์" > คลิกที่ "ต่อไป"
5. ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่หน้าต่างป๊อปอัพ "ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์" > คลิกที่ "บันทึก"
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ "แชท" > "ตั้งค่าแชท" (ไอคอนรูปเกียร์)
2. เลือกที่ "โทร"
3. เลือกที่ "ประเภทการโทร" > "โอนสาย"
4. กรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการโอนสายในหน้าต่างป๊อปอัพ "ใส่หมายเลขโทรศัพท์" > เลือกที่ "ต่อไป"
5. ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่หน้าต่างป๊อปอัพ "ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์" > เลือกที่ "บันทึก"
*สามารถใช้งานได้เฉพาะแพ็กเกจเบสิคและโปรเท่านั้น
การจัดการบนเว็บไซต์
วิธีการตั้งค่า
เข้าไปที่ “หน้าหลัก” > “เครื่องมือสำหรับการเพิ่มเพื่อน”
วิธีโปรโมทบัญชีทางการของคุณลงบนโซเชียลมีเดีย
สามารถเพิ่มเพื่อนได้จากการเลือกแชร์รูปภาพหรือแชร์ลิงก์
1.เข้าไปที่ “หน้าหลัก” > “เครื่องมือสำหรับการเพิ่มเพื่อน” > “สร้างลิงก์”
2. สร้างรูปแบบที่ต้องการเพื่อโปท
ในแถบคัดลอกลิงก์ กด “คัดลอก” เมื่อคัดลอกแล้วจะมีข้อความแจ้งเตือนมุมบนขวามือ > เลือกข้อความที่ต้องการให้แสดงบนรูปภาพ > กด “บันทึก” เมื่อบันทึกแล้วจะมีข้อความแจ้งเตือนมุมบนขวามือ
วิธีตั้งค่าการเพิ่มเพื่อด้วย QR code
คุณสามารถดาวน์โหลด QR code เพื่อเพิ่มเพื่อนได้ แล้วนำไปแสดงในพื้นที่ที่ต้องการ
วิธีการสร้างคิวอาร์โค้ดคูปอง
1 |
กด "เลือก" เพื่อเลือกคูปองที่ต้องการสร้างคิวอาร์โค้ด ถ้าไม่มีคูปองที่สามารถเลือกได้ ให้กด "สร้างคูปอง" |
2 | เลือกคูปองที่สามารถใช้ได้ สามารถเลือกได้เฉพาะคูปองที่ยังไม่ถึงกำหนดหมดอายุ |
3 |
คุณสามารถคิวอาร์โค้ดที่ยังไม่ถึงกำหนดหมดอายุได้โดยการเลือก "ดาวน์โหลด" สามารถดูข้อความแจ้งเตือนกำหนดการใช้คูปอง หากต้องการแก้ไข ระยะเวลาดังกล่าว สามารถแก้ไขได้โดยการกด "แก้ไขคูปอง" |
วิธีการสร้างปุ่มเพิ่มเพื่อน
ปุ่มเพิ่มเพื่อนสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในบล็อก, หน้าโฮมเพจ, อีเมลหรืออื่น ๆ คุณสามารถคัดลอก HTML ได้โดยการกด “คัดลอก”
วิธีตั้งค่าช่องทางการเพิ่มเพื่อน
เมื่อตั้งค่าช่องการเพิ่มเพื่อนเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบได้ภายหลังที่ “ข้อมูลเชิงลึก” > “เพื่อน” > “ช่องทางการเพิ่มเพื่อน”
หลังจากใส่ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการเพิ่มเพื่อนเรียบร้อย ให้กด “ตั้งค่า” เพื่อสร้างลิงก์ คิวอาร์โค้ด หรือ ปุ่ม HTML
วิธีการสร้างโปสเตอร์เพื่อเพิ่มเพื่อน
คุณสามารถดาวน์โหลดโปสเตอร์เพื่อใช้เพิ่มเพื่อนได้ โดยนำไปวางในร้านค้าแล้วให้ลูกค้าเพิ่มบัญชีทางการของคุณเป็นเพื่อน หากบัญชีของคุณเป็นบัญชีรับรองแล้วจึงจะสามารถออกแบบโปสเตอร์ได้
บัญชีทั่วไป | บัญชีรับรอง |
---|---|
ข้อมูลเชิงลึกการเพิ่มเพื่อน
เมื่อคุณได้ตั้งค่าพารามิเตอร์ไปก่อนหน้าแล้ว คุณสามารถเช็ครายละเอียดการเพิ่มเพื่อนได้ที่ “ข้อมูลเชิงลึก” > “เพื่อน” > “ช่องทางการเพิ่มเพื่อน”
ช่องทางการเพิ่มเพื่อน | ระบุช่องทางการเพิ่มเพื่อน เช่น หน้าเว็บไซต์ หน้าร้าน สาขา1 |
---|---|
ที่มา |
ที่มาของช่องทางการเพิ่มเพื่อนนั้นๆ เช่น แบนเนอร์หลัก โพสต์ แชร์ทางแชท *หากที่มาใดไม่จำนวนการเพิ่มเพื่อนน้อยกว่า 20 จะถูกแสดงรวมอยู่ในกลุ่ม "อื่นๆ" |
แคมเปญ |
ตั้งชื่อแคมเปญ เช่น คริสต์มาส ปีใหม่ *หากแคมเปญใดไม่จำนวนการเพิ่มเพื่อนน้อยกว่า 20 จะแสดงจัดรวมอยู่ในกลุ่ม "อื่นๆ" |
*เมื่อช่องทางการเพิ่มเพื่อน ที่มา หรือ แคมเปญนั้น มีจำนวนการเพิ่มเพื่อนน้อยกว่า 20 ครั้ง ภายในช่วงเวลาที่ได้เลือกไว้ คุณจะไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลของช่องทางการเพิ่มเพื่อนนั้นได้
ในกรณีนี้ ช่องทางการเพิ่มเพื่อน ที่มาและแคมเปญจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “อื่น ๆ”
1 | ตัวเลขในพายชาร์ต | จำนวนการเพิ่มเพื่อนต่อครั้งจะถูกแสดงสำหรับทุกช่องทางการเพิ่มเพื่อน |
2 | ตัวเลขบนเส้นกราฟ | จำนวนครั้งของการเพิ่มเพื่อนและการบล็อกของแอคเคาท์จะถูกแสดงในหน้านี้ |
3 | ตัวเลขในตาราง | จำนวนครั้งของการเพิ่มเพื่อนและบล็อกของแอคเคาท์ที่อยู่ในระหว่างช่วงเวลาที่เลือก |
*สำหรับเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว ตัวเลขจะไม่แสดงหากยอดการเพิ่มเพื่อนน้อยกว่า 20 รายการต่อวัน
*สำหรับกราฟปละจำนวนตัวเลขของช่องทางการเพิ่มเพื่อนสามารถสร้างได้โดยเข้าไปที่
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
วิธีการตั้งค่า
ในเมนู “เพิ่มเพื่อนใหม่” คุณมาสามารถแสดง QR code และปุ่ม HTML เพื่อเพิ่มเพื่อนได้ โดยเข้าไปที่เมนูดังกล่าวเพื่อสร้างลิงก์ไปยังเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบริษัทได้
เพิ่มช่องทางการเพิ่มเพื่อนในพื้นที่ร้านค้าของคุณ
1. ทำโปสเตอร์
หลังจากเลือกดีไซน์และข้อความที่ต้องการโปรโมทเรียบร้อยแล้ว เลือก “สร้างโปสเตอร์” เพื่อสร้างรูปภาพโปสเตอร์
คุณสามารถบันทึกรูปภาพได้โดยเลือก “บันทึกโปสเตอร์”
บัญชีทั่วไป | บัญชีรับรอง |
---|---|
|
โปรโมทการเพิ่มเพื่อนแบบออนไลน์
2. สร้างคิวอาร์โค้ดเพิ่มเพื่อน
คุณสามารถสร้าง QR code เพื่อเพิ่มเพื่อนผ่านอุปกรณ์ในช่องทางออนไลน์ได้
เลือก “บันทึกคิวอาร์โค้ด” เพื่อบันทึกรูปภาพคิวอาร์โค้ด
คุณสามารถคัดลอก HTML ได้โดยเลือก “แสดง HTML” > “คัดลอก”
3. สร้างคิวอาร์โค้ดคูปอง
เมื่อผู้ใช้สแกนคิวอาร์โค้ดคูปอง จะได้รับคูปองและเพิ่มบัญชีทางการของร้านค้าเป็นเพื่อนโดยอัตโนมัติ
เมื่อคิวอาร์โค้ดคูปองถูกสแกน คูปองของร้านค้าจะแสดงและสามารถใช้งานได้ทันทีที่บัญชี
(1) เลือก “เลือกคูปอง” เพื่อตั้งค่าคิวอาร์โค้ด
*คุณสามารถเลือกคูปองได้เฉพาะคูปองที่ยังไม่ถึงกำหนดหมดอายุ
(2) เลือกคูปองที่สามารถใช้งานได้บนหน้าจอที่แสดง
(3) คิวอาร์โค้ดจะถูกสร้างขึ้นและสามารถใช้ได้ตามช่วงการใช้งานของคูปองแล้วเลือก
“บันทึกคิวอาร์โค้ด”
4. สร้างลิงก์
สร้างลิงก์การเพิ่มเพื่อนแล้วแชร์บนโซเชียลมีเดียหรืออีเมล
เลือก “คัดลอกลิงก์” เพื่อคัดลอกลิงก์
*เมื่อมีการคัดลอก จะมีข้อความแจ้งเตือนแสดงด้านบนของหน้าจอ
5. สร้างปุ่ม
ทำได้โดยการคัดลอก HTML แล้วนำไปสร้างปุ่มเพิ่มเพื่อนได้อย่างง่ายบนเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณ
สามารถคัดลอก HTML ได้โดยเลือก “แสดง HTML” > “คัดลอก”
6. แชร์ลิงก์ผ่านโซเชียลมีเดียหรืออีเมล
เมื่อคุณเลือกช่องทางการติดต่อที่ต้องการแชร์แล้ว คุณสามารถแก้ไขข้อความได้ก่อนโพสต์หรือส่งข้อความ
7. เลือกรูปภาพสำหรับการแชร์
เลือกแชร์รูปภาพที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ แล้วแชร์ลิงก์หรือช่องทางการติดต่อเพื่อช่วยการเพิ่มเพื่อนได้
(1) เลือก ”เลือกรูปภาพสำหรับการแชร์”
(2) เลือกข้อความที่คุณต้องการให้แสดงในรูปภาพแล้วเลือก “บันทึก”
(3) เมื่อมีการบันทึก จะมีข้อความแจ้งเตือนที่ด้านบนของหน้าจอ
(4) เลือก “คัดลอกลิงก์” หรือ ไอคอนช่องทางการติดต่อเพื่อแชร์รูปภาพพร้อมลิงก์ที่แนบไว้
โฆษณาการเพิ่มเพื่อน
*บัญชีทั่วไปและบัญชีที่ถูกเปิดและดูแลด้วยเอเจนซี่จะสามารถใช้งานโฆษณาการเพิ่มเพื่อนได้
*บัญชีทางการบางกลุ่มธุรกิจอาจไม่สามารถใช้งานได้แม้จะเป็นบัญชีรับรอง
โฆษณาการเพิ่มเพื่อน คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์โฆษณาที่อยู่ภายใต้การดูแลของ LINE Ads
คุณสามารถโฆษณาการเพิ่มเพื่อนได้ผ่านการจัดการผ่านหน้าเว็บไซต์
1.เข้าไปที่แถบเมนู ”เพิ่มเพื่อนใหม่” > เลือก “โฆษณาเพิ่มเพื่อน”
1 | จำนวนการเพิ่มเพื่อนจากการโฆษณาการเพิ่มเพื่อนในเดือนนี้ และค่าใช้จ่ายในการโฆษณาการเพิ่มเพื่อน |
2 |
สถานะโฆษณาการเพิ่มเพื่อนได้แก่ นำส่งแล้ว/ร่าง หากโฆษณาการเพิ่มเพื่อนใดที่ได้นำส่งโฆษณาแล้วจะมีสถานะ กำลังแสดง: โฆษณาการเพิ่มเพื่อนกำลังใช้งาน ณ ขณะนั้น Suspended: โฆษณาการเพิ่มเพื่อนเข้าถึงผู้ใช้เรียบร้อยแล้วหรือหยุดการใช้งานแล้ว Under review: โฆษณากำลังอยู่ระหว่างการพิจรณา ถูกปฏิเสธ: โฆษณาถูกปฏิเสธการพิจรณา |
3 | ค้นหาโฆษณาการเพิ่มเพื่อนจากสถานะ |
4 | รายการโฆษณาการเพิ่มเพื่อน หากต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมให้เลือกโฆษณาการเพิ่มเพื่อนนั้นๆ |
2. สามารถสร้างโฆษณาใหม่ได้โดยเลือก “สร้างใหม่”
3. ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เห็นโฆษณา *หากคุณกำลังใช้งานบัญชีร้านค้า แนะนำให้ระบุพื้นที่อย่างเจาะจง
1 | ตั้งค่าเพศของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งหมด/ชาย/หญิง |
2 | ตั้งค่าช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมาย |
3 |
ตั้งค่าพื้นที่ของกลุ่มเป้าหมาย สามารถตั้งค่าได้ 2 วิธี ใส่ชื่อพื้นที่: สามารถกำหนดพื้นที่เองได้โดยใส่ชื่อพื้นที่ กำหนดรัศมีพื้นที่: เลือกพื้นที่ต้องการกำหนดรัศมีแล้วเลือกระยะทางที่ต้องการ |
4 | ตั้งค่าความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย สามารถเลือกได้หลายตัวเลือก |
5 | จำนวนคาดการณ์ของกลุ่มเป้าหมายที่โฆษณาของคุณสามารถเข้าถึงได้ จากการกำหนดคุณสมบัติกลุ่มเป้าหมายข้างต้น |
4. กำหนดงบประมาณสำหรับโฆษณา ซึ่งมีผลต่อจำนวนการมองเห็นโฆษณา
*เรียกเก็บเงินเฉพาะผู้ใช้ที่เพิ่มบัญชีทางการของคุณเป็นเพื่อนแล้วเท่านั้10
1 |
กำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายการโฆษณาการเพิ่มเพื่อนต่อวัน
*งบประมาณสูงสุดสำหรับใช้กับงบประมาณโฆษณา 1 วัน จำนวนเงินที่ใช้จริงอาจสูงกว่า งบประมาณที่กำหนดไว้ เนื่องจากการทำงานระบบ |
2 |
กำหนดงบประมาณรวมสำหรับโฆษณาการเพิ่มเพื่อนทั้งแคมเปญ สามารถเลือก ใช้จนครบ
จำนวนสูงสุด/กำหนดเอง
*โฆษณาเพิ่มเพื่อนจะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครบตามที่ กำหนด |
3 |
ตั้งค่างบประมาณสูงสุดต่อการเพิ่มเพื่อน 1 คน
ไม่กำหนด: การไม่กำหนดจะได้กลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น เพราะหากกลุ่มเป้าหมายแคบอาจทำให้ ราคาต่อหน่วยสูงกว่า กำหนด: หากต้องการกำหนด งบประมาณรายวันอาจถูกใช้ไม่หมดเพราะระบบจะเสนอราคา โฆษณาไม่ให้เกินงบประมาณที่กำหนดไว้ |
4 | แสดงผลลัพธ์การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยประมาณต่อวัน |
5. ตั้งค่าครีเอทีฟโฆษณา
ชื่อ | ตั้งค่าชื่อเพื่อบอกผู้ใช้เกี่ยวกับบัญชีของคุณ |
---|---|
คำอธิบาย | บอกความน่าสนใจเกี่ยวกับบัญชีผ่านคำอธิบายสั้น ๆ ไม่เกิน 75 ตัวอักษร |
รูป |
คุณสามารถกำหนดอัตราส่วนของรูปได้ แล้วเพิ่มรูปโดยการเลือกรูป/สร้างรูป หรือสามารถสร้างได้ผ่าน LINE Creative Lab |
ดูตัวอย่าง | สามารถดูตัวอย่างรูปภาพที่คุณสร้างได้ 2 รูปแบบ |
6. ตรวจการตั้งค่าโฆษณาการเพิ่มเพื่อน
ตรวจสอบการตั้งค่าอีกครั้งการนำส่งให้ตรวจสอบ
บันทึกร่าง: บันทึกเพื่อสามารถแก้ไขต่อได้คราวหลัง โดยเลือกโฆษณาที่ต้องการแก้ไขในหน้าโฆษณาการเพิ่มเพื่อน
แก้ไข: แก้ไขข้อมูลแต่ละส่วน
นำส่งตรวจสอบ: นำส่งตรวจสอบ หากผ่านการพิจรณาโฆษณาจะทำงานโดยอัตโนมัติละหยุดเมื่อครบกำหนดที่ได้ตั้งค่าไว้
ริชเมนู (Rich menu) คือ แถบเมนูขนาดใหญ่ที่แสดงอยู่ด้านล่างหน้าจอแชทของ LINE Official Account ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น พาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก, แจกคูปอง, ส่งข้อควาาม, แสดงบัตรสะสมแต้ม, แสดงเบอร์ติดต่อ
จุดเด่นของริชเมนู
- แถบเมนูมีขนาดใหญ่แสดงอยู่ด้านล่างหน้าจอแชท
- สามารถตั้งค่าแต่ละเมนูได้ เช่น พาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก, แจกคูปอง, ส่งข้อควาาม, แสดงบัตรสะสมแต้ม, แสดงเบอร์ติดต่อ
- แสดงริชเมนูได้หลากหลายเทมเพลต
- สามารถกำหนดช่วงเวลาแสดงและซ่อนได้จากหน้าจอจัดการ
การจัดการบนเว็บไซต์
สร้างริชเมนู
เข้าไปที่เมนู “หน้าจอแชท” > “ริชเมนู”
เลือก “สร้างใหม่” ที่มุมขวาบนของหน้าจอ
2. ตั้งค่าข้อมูลแต่ละส่วน
1 | คุณสามารถตั้งชื่อริชเมนูนี้ได้ โดยจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น | ||||||||||
2 |
คุณสามารถตั้งค่าช่วงเวลาที่ริชเมนูจะแสดงบนอุปกรณ์ผู้ใช้ได้ *เมื่อมีการบันทึกตั้งค่าแล้ว ระบบอาจใช้เวลาสักครู่เพื่อแสดงผลให้ผู้ใช้เวลา นั้นขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของริชเมนูและจำนวนเพื่อนที่คุณมี |
||||||||||
3 |
คุณสามารถดูตัวอย่างการตั้งค่าของริชเมนูที่จะแสดงผลบนหน้าจอของผู้ใช้ได้ เลือก เปิด/ปิด แสดงเส้นขอบเทมเพลต เพื่อดูเส้นขอบเทมเพลตแต่ละตัวเลือกได้ *ในการแสดงบนหน้าของผู้ใช้อาจมีความต่างกันตามอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ |
||||||||||
4 | คุณสามารถดาวน์โหลดเทมเพลตเพื่อสร้างรูปภาพที่เหมาะสมกับรูปแบบริชเมนู | ||||||||||
5 | เลือกเทมเพลตของริชเมนู
|
||||||||||
6 |
ตั้งค่ารูปภาพริชเมนู คุณสามารถตั้งค่าได้ 2 แบบ |
||||||||||
อัปโหลดรูปภาพเพื่อใช้เป็นฉากหลังโดยรวม แนะนำให้ตรวจสอบขนาดก่อนอัปโหลดเพื่อความพอดีระหว่างรูปภาพและริชเมนู - ริชเมนูขนาดใหญ่ 2,500px X 1,686px 1,200px X 810px 800px X 540px |
|||||||||||
สร้างรูปภาพสำหรับแต่ละเมนู สามารถใช้เครื่องมือเพื่อแก้ไขรูปภาพสำหรับแต่ละเมนูได้
คุณสามารถใช้ Creative Lab ในการสร้างรูปภาพคุณภาพสูงได้ *คุณจำเป็นต้องใช้บัญชี Adobe ในการใช้งาน (สมัครฟรี) |
|||||||||||
7 | สร้างเนื้อหาที่ต้องการใช้ในแต่ละเมนู *หากคุณเลือก URL/คูปอง คุณต้องใส่ป้ายแอ็กชันกำหนดสูงสุด 20 ตัวอักษร และไม่สามารถละเว้นส่วนนี้ได้ |
||||||||||
8 | ตั้งค่าชื่อส่วนเมนูบาร์ให้แสดง "เมนู" หรือ กำหนดข้อความเอง | ||||||||||
9 | ตั้งค่าการแสดงแถบริซเมนูทันทีเมื่อผู้ใช้เข้ามาในห้องแชทหรือซ่อนไว้แสดงภายหลัง | ||||||||||
10 | เลือก "บันทึก" หรือ "บันทึกร่าง" สามารถแก้ไขภายหลังได้ |
คัดลอกริชเมนู
คุณสามารถคัดลอกริชเมนูที่สร้างขึ้นแล้วได้
*คุณจะไม่สามารถบันทึกริชเมนูได้ หากช่วงที่แสดงเป็นช่องเวลาเดียวกันกับริชเมนูที่เคยมี
หน้าต่างริชเมนู
1 | แสดงริชเมนูที่กำลังใช้งานอยู่ขณะนี้ |
2 | แสดงริชเมนูที่มีระยะเวลารอการใช้งาน |
3 | แสดงริชเมนูที่ได้ผ่านระยะเวลาการใช้งานไปแล้วและริชเมนูที่ถูกบันทึกร่างเอาไว้ |
การจัดการบนแอปพลิเคชัน
สร้างริชเมนู
1. เข้าไปที่เมนู “ริชเมนู” แล้วเลือก “สร้างใหม่”
2. เลือกเทมเพลต
3. เลือก “อัปโหลดรูป” หรือ “ใช้รูปดีฟอลต์”
*ไฟล์ที่อัปโหลดควรเป็น JPG JPEG PNG ขนาดไม่เกิน 1MB (เมกะไบต์) ขนาดรูป 2500px X 1686px หรือ 2500px X 843px
กรณีอัปโหลดรูปภาพ
แนะนำให้ตรวจสอบขนาดก่อนอัปโหลดเพื่อความพอดีระหว่างรูปภาพและริชเมนู
ริชเมนูขนาดใหญ่
2,500px X 1,686px
1,200px X 810px
800px X 540px
ริชเมนูขนาดเล็ก
2,500px X 843px
1,200px X 405px
800px X 540px
800px X 270px
4.เลือก ”ต่อไป” เพื่อตั้งค่าแอ็กชัน
สร้างเนื้อหาที่ต้องการใช้แต่ละเมนู
*หากคุณเลือก URL/คูปอง คุณต้องใส่ป้ายแอ็กชันกำหนดสูงสุด 20 ตัวอักษร และไม่สามารถละเว้นส่วนนี้ได้
5. ตั้งค่าเมนู
1 | คุณสามารถตั้งชื่อริชเมนูนี้ได้ โดยจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น |
2 |
คุณสามารถตั้งค่าช่วงเวลาที่ริชเมนูจะแสดงบนอุปกรณ์ผู้ใช้ได้ *เมื่อมีการบันทึกตั้งค่าแล้ว ระบบอาจใช้เวลาสักครู่เพื่อแสดงผลให้ผู้ใช้เวลา นั้นขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของริชเมนูและจำนวนเพื่อนที่คุณมี |
3 | ตั้งค่าชื่อส่วนเมนูบาร์ให้แสดง “เมนู” หรือ กำหนดข้อความเอง |
4 | ตั้งค่าการแสดงแถบริชเมนูทันทีเมื่อผู้ใช้เข้ามาในห้องแชทหรือซ่อนไว้แสดงภายหลัง |
5 | เมื่อเลือก "บันทึก" ริชเมนูจะแสดงใน ตั้งเวลา หากเลือก "บันทึกรายชื่อริชเมนูพร้อมใช้งาน" ริชเมนูจะแสดงใน พร้อมใช้งาน |
หน้าต่างริช
1 | แสดงริชเมนูที่กำลังใช้งานอยู่ขณะนี้ |
2 | แสดงริชเมนูที่มีระยะเวลารอการใช้งาน |
3 | แสดงริชเมนูที่ได้ผ่านระยะเวลาการใช้งานไปแล้วและริชเมนูที่ถูกบันทึกร่างเอาไว้ |
คัดลอกริชเมนู
คุณสามารถคัดลอกริชเมนูที่สร้างขึ้นแล้วได้
*คุณจะไม่สามารถบันทึกริชเมนูได้ หากช่วงที่แสดงเป็นช่องเวลาเดียวกันกับริชเมนูที่เคยมี
ปัจจุบันฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้บริการเฉพาะบัญชีพรีเมียม (Premium Account) หรือบัญชีโล่สีเขียวเท่านั้น ซึ่งเป็นบัญชีธุรกิจสำหรับองค์กรหรือหน่วยงานราชการ
โปรไฟล์ เปรียบเหมือนมินิเว็บไซต์ที่คุณสามารถกรอกข้อมูลพื้นฐานของบริษัท, ร้านค้า, หรือแแบรนด์สินค้า โดยข้อมูลบนโปรไฟล์สามารถแชร์บนเว็บในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และข้อมูลดังกล่าวจะเป็นช่องทางการเผยแพร่ที่ดีที่สุดที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รู้จักบัญชีทางการของคุณมากขึ้น
การแชร์ข้อมูลบนเว็บสามารถทำได้เฉพาะบัญชีรับรองเท่านั้น
สามารถแก้ไขโปรไฟล์ได้ดังนี้
ขั้นตอนการแก้ไขผ่านแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “หน้าหลัก” > “โปรไฟล์”
2. แก้ไขหัวข้อที่ต้องการในหน้าโปรไฟล์
3. เลือก “เปิดใช้เนื้อหาที่บันทึกไว้” เพื่อบันทึกและแสดงข้อมูลโปรไฟล์บนบัญชีทางการ
ขั้นตอนการแก้ไขผ่านเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่ “โปรไฟล์”
2. แก้ไขหัวข้อที่ต้องการในหน้าโปรไฟล์
3. เลือก “เปิดใช้เนื้อหาที่บันทึกไว้” เพื่อบันทึกและแสดงข้อมูลโปรไฟล์บนบัญชีทางการ
กรุณาตรวจสอบวิธีทำให้ปุ่มโทรแสดงบนหน้าโปรไฟล์ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน
1. เลือกที่แท็บ “หน้าหลัก” > “โปรไฟล์”
2. เลือกที่ “เพิ่ม” > เลือก “โทร” > เลือกที่ “ต่อไป”
3. เลือก “LINE Call” หรือเบอร์ที่ต้องการ > เลือกที่ “เพิ่ม”
4. เลือกที่ “บันทึก” > “ตกลง”
5. เลือก “เปิดใช้เนื้อหาที่บันทึกไว้” เพื่อบันทึกและแสดงข้อมูลโปรไฟล์บนบัญชีทางการ
ขั้นตอนการตั้งค่าบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager
1. เลือกที่ “โปรไฟล์”
2. เลือกที่ “เพิ่มปุ่ม” > “โทร” > “ต่อไป”
3. เลือก “LINE Call” หรือเบอร์ที่ต้องการ > เลือกที่ “เพิ่ม”
4. เลือกที่ “เปิดใช้”
5. เลือก “บันทึก” > “ตกลง”
6. เลือก “เปิดใช้เนื้อหาที่บันทึกไว้” เพื่อบันทึกและแสดงข้อมูลโปรไฟล์บนบัญชีทางการ
การจัดการบนเว็บไซต์
ในหน้าโปรไฟล์คุณสามารถโพสต์ข้อความเกี่ยวกับองค์กรหรือบริษัทของคุณ
หน้าต่างโปรไฟล์
คุณสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ได้ โดยมีข้อมูลทั้งหมด 4 ส่วน
*หากคุณเพิ่มข้อมูลส่วนส่งเสริมการขาย ข้อมูลนั้นจะแสดงในข้อมูลพื้นฐาน
*แชท เป็นปุ่มค่าเริ่มต้น คุณสามารถเลือกเพิ่มได้อีก 2 ปุ่ม ได้แก่ โพสต์ โทร คูปอง บัตรสะสมแต้ม ตำแหน่งที่ตั้ง เว็บไซต์ของบริการ และ จอง
คอนเทนต์ ได้แก่ ข้อความอิสระ โชว์เคส โพสต์ล่าสุด
เครื่องมือส่งเสริมการขาย ได้แก่ บัตรสะสมแต้ม คูปอง
ข้อมูลบัญชี ได้แก่ คำถามที่พบบ่อย ข้อมูลพื้นฐาน ประกาศ
บริการ ได้แก่ แนวทางปฏืบัติด้านสาธารณสุข ซื้อกลับบ้าน เดลิเวอรี่อาหาร เดลิเวอรี่สินค้า