Help Center - MyCustomer

{{ searchErrorMessage.text }}~!
{{ tab }}
MyCustomer Introduction
Getting Started
Broadcast
Chat
Audience
ริชเมนู (Rich menu) คือ อะไร
Auto-response
Survey
Setting
MyCustomer

1. มาทำความรู้จักกับ MyCustomer

สิ่งที่ท้าทายในการทำธุรกิจสำหรับแบรนด์คือการรู้จักและเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง มาทำความรู้จักกันกับ MyCustomer โซลูชันที่ดีที่สุดของ LINE ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
#LINEforBusiness #MyCustomer

2. วิธีสร้าง Survey เก็บข้อมูลลูกค้าบน MyCustomer

3. วิธีสร้างริชเมนูง่ายๆ บน MyCustomer

4. วิธีการบรอดแคสต์บน MyCustomer

MyCustomer คือ ปลั๊กอินโซลูชันในการจัดการข้อมูลที่ดีที่สุดจาก LINE Official Account ด้วยการรวบรวมและใช้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าบนพื้นฐานนโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อเพิ่มประสบการณ์และการตัดสินใจซื้อของลูกค้าดีขึ้น ยกระดับการสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อส่งเสริมให้แบรนด์รู้จักและเข้าใจลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถสร้างปฏิสัมพัน์กับลูกค้าได้สะดวกและง่ายขึ้นผ่าน LINE Official Account

MyCustomer สามารถเปิดใช้งานได้เฉพาะบัญชีรับรอง (Verified Account) และบัญชีทางการ (Premium Account) เท่านั้น โดยสามารถติดต่อ Corporate Business Team หรือเอเจนซีเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของบริการ

สภาพแวดล้อมแนะนำสำหรับใช้งาน คือ บนเว็บไซต์ OA Plus เท่านั้น

ระบบปฏิบัติการ: Windows OS, Mac OS

เบราว์เซอร์: เวอร์ชันล่าสุดของ Chrome, Safari, Firefox, Edge

*ไม่รองรับการใช้งานบน Internet Explorer

สามารถล็อกอินได้ 2 วิธี

วิธีที่ 1 ล็อกอินเข้าใช้งานบนเว็บไซต์ LINE Official Account Manager

1. เข้า manager.line.biz

2. ล็อคอินด้วยบัญชีไลน์ หรือ บัญชีธุรกิจ

3. เลือกบัญชีสำหรับเข้าใช้งาน

4. คลิกเมนู "MyCustomer"

วิธีที่ 2 ล็อกอินเข้าใช้งานบนเว็บไซต์ OA Plus

1. เข้า oaplus.line.biz

2. ล็อคอินด้วยบัญชีไลน์ หรือ บัญชีธุรกิจ

3. เลือกบัญชีสำหรับเข้าใช้งาน

ขั้นตอนการเปลี่ยนภาษาบนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกที่รูปโปรไฟล์ของท่าน > "โปรไฟล์ผู้ใช้"

2. ในส่วนภาษา เลือกภาษาที่ต้องการใช้งาน > คลิก "เปลี่ยน" > "กลับไปที่บริการ"

โควตาข้อความการส่งบรอคแคสต์จะเป็นข้อมูลเดียวกับ LINE Official Account ของท่าน สอดคล้องกับแพ็กเกจรายเดือนที่ใช้งาน

กรณีที่เนื้อหาในบรอดแคสต์ประกอบด้วย Personalized Image จะทำให้ไม่สามารถเลิอกกลุ่มเป้าหมายแบบ "เพื่อนทั้งหมด" ได้

กรณีที่จำนวนเพื่อนในกลุ่มเป้าหมายที่บันทึก (Segment) น้อยกว่า 21 จะทำให้ไม่สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบ "ใช้กลุ่มเป้าหมายที่บันทึกไว้" ได้

ทางเราแนะนำให้คุณปรับการตั้งค่าเงื่อนไขหรือเพิ่มเพื่อนให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวให้ถึงจำนวนที่ระบุไว้

กรณีที่จำนวนเพื่อนในแอ็กชันแท็กน้อยกว่า 21 จะทำให้ไม่สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบ "ฟิลเตอร์ด้วยแอ็กชันแท็ก" ได้

ทางเราแนะนำให้คุณเพิ่มการกระตุ้นให้เพื่อนใช้งานแอ็กชันดังกล่าวหรือเพิ่มเพื่อนให้ถึงจำนวนที่ระบุไว้

การส่งบรอดแคสต์ล่วงหน้า สามารถตั้งระยะเวลาสูงสุดถึง 180 วัน

สามารถสร้างบรอดแคสต์แบบตั้งเวลาส่ง (Scheduled) สูงสุด 30 แคมเปญ

กรณีที่แคมเปญที่บรอดแคสต์ออกไป แต่มีจำนวนคนมองเห็น (Impressions - Unique) น้อยกว่า 21 จะแสดงข้อมูลนี้ = 0

กรณีที่แคมเปญที่บรอดแคสต์ออกไป แต่มีจำนวนคนคลิก (Click - Unique) น้อยกว่า 21 จะแสดงข้อมูลนี้ = 0

ขั้นตอนการติดแชทแท็ก (Chat Tag) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "แชท"

2. เลือกเพื่อนเพื่อเปิดห้องแชท > กดไอคอน "+" > ติดแชทแท็กที่ต้องการ

*สามารถติดแชทแท็กได้สูงสุด 100 แชทแท็กต่อเพื่อน 1 คน

แชทบน MyCustomer สามารถเปลี่ยนโหมดการตอบกลับระหว่างตอบกลับอัตโนมัติและตอบกลับแบบแมนวลได้อย่างสะดวกผ่านการคลิกไอคอนหุ่นยนต์

*กรณีที่ใช้งานในโหมดตอบกลับแบบแมนวลเกิน 5 นาที MyCustomer จะเปลี่ยนโหมดเป็นตอบกลับอัตโนมัติให้อัตโนมัติ

**การเปลี่ยนโหมดจะมีผลเฉพาะห้องแชทนั้น ๆ เท่านั้น

สามารถค้นหาด้วยเงื่อนไข ดังนี้

1. ชื่อไลน์

2. แชทแท็ก

ขั้นตอนการเพิ่มการตอบกลับด่วน (Quick reply) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "แชท" > เลือกเพื่อนที่ต้องการตอบ

2. คลิกไอคอนรูปข้อความ > คลิก "+ เพิ่มการตอบกลับด่วน"

3. ระบุการตอบกลับด่วนที่ต้องการ

4. คลิก "บันทึก"

กรณ๊ที่บัญชีทางการมีเพื่อนน้อยกว่า 21 จะไม่แสดงข้อมูลคุณสมบัติเชิงลึก

*ข้อมูลคุณสมบัติเชิงลึก คือ ข้อมูลเดียวกันกับข้อมูลคุณสมบัติในบัญชีทางการของท่าน

เช็กเมนต์กลุ่มเป้าหมาย (Segment) จะใช้เพื่อแยกกลุ่มเป้าหมายตามเงือนไขที่ระบุให้รวมกันเป็นกลุ่มเดียวกันเรียกว่าเซ็กเมนต์ จำนวนกลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นเมื่อมีผู้ใช้ของเราเข้าเงื่อนไขเซ็กเมนต์นั้น ๆ

ขั้นตอนการสร้างเช็กเมนต์กลุ่มเป้าหมาย (Segment) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "กลุ่มเป้าหมาย" > "Segments" > คลิก "สร้างเซ็กเมนต์"

2. ระบุ "ชื่อเซ็กเมนต์" > ระบุ "เงื่อนไข" คุณสมบัติเพื่อนในเซ็กเมนต์

*หลังสร้างสำเร็จ MyCustomer จะใช้เวลาประมวลผลทันทีแต่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง

**กรณีระบุเงื่อนไข Campaigns MyCustomer จะใช้เวลาประมวลผล 1 วัน เนื่องจากข้อมูลแคมเปญจะอัพเดททุกเที่ยงคืน

ข้อมูลขนาดกลุ่มเป้าหมายโดยประมาณ จะไม่ได้แสดงข้อมูลของ ณ ปัจจุบัน โดยจะมีเงื่อนไขการแสดงผลแยกตามเงื่อนไขการสร้าง ดังนี้

- เงื่อนไข "Campaigns" จะเเสดงข้อมูล T-2

- เงื่อนไข "Forms" จะเเสดงข้อมูล T-1

- เงื่อนไข "User preference data" จะเเสดงข้อมูล T-1

- เงื่อนไข "Chat Tags" จะเเสดงข้อมูล T-1

- เงื่อนไข "Action Tags" จะเเสดงข้อมูล T-1

*T คือ วันปัจจุบัน

แท็ก (Tag) มี 2 ประเภท

1. แชทแท็ก (Chat Tag) คือ แท็กที่ติดให้ผู้ใช้ในฟีเจอร์แชท

2. แอ็กชันแท็ก (Action Tag) คือ แท็กที่ติดตามฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น ริชเมนู, ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ เพื่อดูความเติบโตจำนวนเพื่อนที่มีแอ็กชันกับบัญชีทางการของเรา

ขั้นตอนการสร้างแชทแท็ก (Chat Tag) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "กลุ่มเป้าหมาย" > "แท็ก" > คลิก "+ สร้างแชทแท็ก"

*สามารถสร้างแชทแท็กใหม่ในห้องแชท 1:1 กับเพื่อนได้

ขั้นตอนการสร้างแอ็กชันแท็ก (Action Tag) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "กลุ่มเป้าหมาย" > "แท็ก" > คลิก "Import Audience"

2. ระบุ "ชื่อแอ็กชันแท็ก" > อัพโหลดไฟล์ CSV หรือ XLSX > คลิก "อิมพอร์ต"

สามารถสร้างแอ็กชันแท็กและเพิ่มจำนวนเพื่อนได้

*สามารถสร้างแอ็กชันแท็กในฟีเจอร์ริชเมนูและช้อความตอบกลับอัตโนมัติได้

ข้อมูลลักษณะผู้ใช้ (User Preference Data) คือ ข้อมูลที่เก็บจากเพื่อนแต่ละคนเพื่อรู้จักและทำความเข้าใจมากขึ้น โดยข้อมูลลักษณะผู้ใช้จะเป็น 1 ในประเภทคำถามของแบบสอบถาม

*ข้อมูลลักษณะผู้ใช้จะถูกเก็บไว้ 6 เดือนนับจากวันอัพเดทล่าสุด

**ข้อมูลลักษณะผู้ใช้จะถูกลบออกหลัง 6 เดือนนับจากวันอัพเดทล่าสุด ทางเราแนะนำให้คุณดาวน์โหลดข้อมูลเก็บไว้ก่อน

ขั้นตอนการสร้างข้อมูลลักษณะผู้ใช้ (User Preference Data) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "กลุ่มเป้าหมาย" > "ข้อมูลลักษณะผู้ใช้" > คลิก "+ สร้างช่องใหม่"

2. ระบุ "ชื่อช่อง" > เลือก "ประเภทช่อง" และระบุตัวเลือก > คลิก "สร้างช่อง"

*สร้างได้สูงสุด 50 ข้อมูล

ขั้นตอนการเพิ่มจำนวนเพื่อนในข้อมูลลักษณะผู้ใช้ (User Preference Data) บนเว็บไซต์ OA Plus

ผ่านเมนูกลุ่มเป้าหมาย

1. คลิกเมนู "กลุ่มเป้าหมาย" > "ข้อมูลลักษณะผู้ใช้" > คลิก "การจัดการข้อมูล" > คลิก "Import user pref. data"

2. อัพโหลดไฟล์ CSV หรือ XLSX > คลิก "Import followers"

*ขนาดไฟล์สูงสุด 50 MB

**สามารถอัพโหลดผู้ใช้ที่ไม่ได้เป็นเพื่อน, บล็อค เพิ่มเข้าไปได้ แต่จะไม่สามารถส่งบรอดแคสต์ให้ผู้ใช้เหล่านั้นได้ ดังนั้น ทางเราแนะนำให้คุณอัพโหลดเฉพาะเพื่อนบัญชีทางการคุณและผู้ใช้ที่คุณต้องการเท่านั้น

ผ่านการตอบแบบสอบถาม

สามารถเพิ่มจำนวนเพื่อนผ่านการตอบแบบสอบถาม

ริชเมนู (Rich menu) คือ แถบเมนูขนาดใหญ่ที่แสดงอยู่ด้านล่างหน้าจอแชทของ LINE Official Account ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น พาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก, ส่งข้อความพร้อมติดแอ็กชันแท็ก

ริชเมนูมี 2 ประเภท

1. Default Rich menu คือ ริชเมนูแบบเริ่มต้นที่แสดงให้เพื่อนทั่วไป

2. Segmented Rich menu คือ ริชเมนูที่แสดงตามกลุ่มเป้าหมายที่ติดแอ็กชันแท็ก

จุดเด่นของริชเมนู

- แถบเมนูมีขนาดใหญ่แสดงอยู่ด้านล่างหน้าจอแชท

- สามารถตั้งค่าแต่ละเมนูได้ เช่น พาผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ภายนอก, ส่งข้อความพร้อมติดแอ็กชันแท็ก

- สามารถแสดงริชเมนูได้หลากหลายเทมเพลต

- สามารถกำหนดริชเมนูที่หลากหลายและแตกต่างตามกลุ่มเป้าหมายที่ติดแอ็กชันแท็กด้วย Segmented Rich menu

ขั้นตอนการสร้างริชเมนูแบบเริ่มต้น (Default Rich menu) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "ริชเมนู" > คลิก "สร้างใหม่" ในริชเมนูแบบเริ่มต้น

2. ระบุ "ชื่อ" > เลือกสถานะ > เลือกข้อความบนเมนูบาร์ > เลือกการแสดงเมนูแบบเริ่มต้น

3. คลิก "เลือกเทมเพลต" > เลือกเทมเพลตที่ต้องการ

4. ระบุแอ็กชันที่ต้องการ

5. คลิก "บันทุก"

*สร้างได้สูงสุด 1 ริชเมนู

ขั้นตอนการสร้างริชเมนูตามกลุ่มเป้าหมาย (Segmented Rich menu) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "ริชเมนู" > คลิก "+ สร้างใหม่" ในริชเมนู

2. ระบุ "ชื่อ" > เลือกสถานะ > เลือกข้อความบนเมนูบาร์ > เลือกการแสดงเมนูแบบเริ่มต้น

3. เลือกกลุ่มเป้าหมายแอ็กชันแท็กที่ต้องการให้ริชเมนูแสดง

4. คลิก "เลือกเทมเพลต" > เลือกเทมเพลตที่ต้องการ

5. ระบุแอ็กชันที่ต้องการ

6. คลิก "บันทึก"

*สร้างได้สูงสุด 5 ริชเมนู

ระบบจะแสดงตามตัวเลขลำดับในคอลัมน์ "ลำดับ"

*เลข 1 คือ ลำดับสูงสุด

กรณีที่สร้างริชเมนูด้วยเงื่อนไขเดียวกับทั้ง LINE Official Account และ MyCustomer ระบบจะแสดงตามลำดับ ดังนี้

1. ริชเมนูที่สร้างผ่าน MyCustomer

2. ริชเมนูที่สร้างผ่าน Official Account

ดังนั้น เราแนะนำคุณหลีกเลี่ยงการสร้างสร้างริชเมนูด้วยเงื่อนไขเดียวกับทั้ง LINE Official Account และ MyCustomer รวมถึง API

*กรณีที่สร้างริชเมนูตามกลุ่มเป้าหมาย (Segmented Rich menu) ด้วยเงื่อนไขเดียวกันทั้ง API และ MyCustomer ระบบจะแสดงริชเมนูที่สร้างใหม่ล่าสุด

ขั้นตอนการหยุดใช้งานริชเมนู บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "ริชเมนู"

2. เลือกริชเมนูที่ต้องหยุดใช้งาน

3. เลือก "ปิด" ที่สถานะ

4. คลิก "บันทึก"

ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ (Auto-response) คือ ข้อความที่จะระบบจะตอบกลับอัตโนมัติหลังจากได้รับข้อความจากผู้ใช้

จุดเด่นของข้อความตอบกลับอัตโนมัติ

- สามารถตอบกลับได้สูงสุด 3 ข้อความ

- สามารถเลือกได้ 4 ประเภทข้อความ ได้แก่ ข้อความ, รูป, รูปที่เป็นลิงก์, Flex Message

- สามารถติดแอ็กชันแท็กสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับข้อความอัตโนมัตินั้น ๆ

ขั้นตอนการสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติ (Auto-response) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "ระบบอัตโนมัติ" > เลือก "ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ" > คลิก "+ สร้างกฏคีย์เวิร์ด"

2. ระบุ "ชื่อกฏ" > เลือกแอ็กชันแท็กที่ต้องการติด

3. เลือกรูปแบบการแมทช์

4. ระบุคีย์เวิร์ดที่ต้องการให้ข้อความตอบกลับอัตโนมัติทำงาน

5. ระบุข้อความการตอบกลับ

6. คลิก "บันทึกกฏ"

*รูปแบบการแมทช์มี 2 รูปแบบ ได้แก่ "ตรงทั้งหมด" สำหรับแมทช์กับข้อความลูกค้าแบบตรงทุกตัวอักษรในข้อความ และ "ตรงบางส่วน" สำหรับแมทช์กับข้อความลูกค้าแบบตรงบางตัวอักษรในข้อความ

**ระบุคีย์เวิร์ดสูงสุด 10 คีย์เวิร์ดต่อ 1 กฏ จำกัดคีย์เวิร์ดละ 500 ตัวอักษร

***สร้างได้สูงสุด 100 รายการ

ระบบจะแสดงตามตัวเลขลำดับในคอลัมน์ "ลำดับ"

*เลข 1 คือ ลำดับสูงสุด

ระบบจะแสดงผลทั้งจาก LINE Official Account และ MyCustomer

ดังนั้น เราแนะนำคุณหลีกเลี่ยงการสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติที่ระบุคีย์เวิร์ดซ้ำกับบน LINE Official Account และ MyCustomer รวมไปถึง API

ขั้นตอนการหยุดใช้งานข้อความตอบกลับอัตโนมัติ (Auto-response) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "ระบบอัตโนมัติ" > เลือก "ข้อความตอบกลับอัตโนมัติ"

2. เลือกข้อความอัตโนมัติที่ต้องหยุดใช้งาน

3. เลือก "ปิด" ที่สถานะ

4. คลิก "บันทึกกฏ"

ไม่สามารถสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติแบบเริ่มต้นหรือข้อความตอบกลับอัตโนมัติที่ไม่ระบุคีย์เวิร์ดได้ จำเป็นต้องระบุคีย์เวิร์ดเท่านั้น

ขั้นตอนการสร้างแบบฟอร์ม (Form) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "Survey" > เลือก "Forms" > คลิก "+ สร้างแบบฟอร์ม"

2. ระบุ "ชื่อแบบฟอร์ม" > ระบุ "ภาษา" > ระบุระยะเวลาเก็บร้กษาข้อมูล

3. ระบุ "ข้อกำหนดการใช้บริการ"

3. เลือกรูปแบบการแมทช์

4. ระบุหน้าต้อนรับ (ระบุหรือไม่ระบุก็ได้

5. ระบุคำถาม

6. ระบุหน้าขอบคุณ (ออกแบบเองหรือไม่ก็ได้)

7. คลิก "บันทึก"

*หลังจากบันทึก สามารถดูตัวอย่างและทดสอบตอบคำถามก่อนได้ โดยระบบจะไม่เก็บผลการทดสอบดังกล่าว

**สร้างแบบฟอร์มได้ไม่จำกัด

ขั้นตอนการเปิดใช้แบบฟอร์ม (Publish) บนเว็บไซต์ OA Plus มี 2 วิธี

วิธีที่ 1 ผ่านรายการแบบฟอร์ม

1. คลิกเมนู "Survey" > เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการ > คลิกจุด 3 จุด

2. คลิก "Publish"

วิธีที่ 2 ผ่านหน้ารายละเอียดแบบฟอร์ม

1. คลิกเมนู "Survey" > เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการ > เลือกแท็บ "ขอบคุณ"

2. คลิก "เปิดใช้ ->"

เมื่อเปิดใช้สำเร็จ ระบบจะแสดงสถานะ "เปิดใช้งาน" ทันที

*วันแรกที่เปิดใช้งาน ระบบจะเริ่มต้นนับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูล

ขั้นตอนการแชร์แบบฟอร์ม (Share) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "Survey" > เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการ > เลือกแท็บ "การแชร์"

2. แชร์แบบฟอร์มได้ 2 วิธี คือ คัดลอกลิงก์ และ ดาวน์โหลดคิวอาร์โค้ด

*แชร์แบบฟอร์มได้เฉพาะแบบฟอร์มที่มีสถานะ "เปิดใช้งาน" เท่านั้น

ขั้นตอนการดูผลการตอบ (Responses) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "Survey" > เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการ > เลือกแท็บ "ตอบ"

2. ดูภาพรวมคำตอบที่แท็บ "สรุป"

3. ดูคำตอบรายคำถามที่แท็บ "คำถาม"

*ระบบแสดงผลการตอบแบบเรียลไทม์

ขั้นตอนการดาวน์โหลดข้อมูลการตอบ (Export data) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "Survey" > เลือกแบบฟอร์มที่ต้องการ > เลือกแท็บ "การแชร์"

2. คลิกเมนู "ดาวน์โหลดข้อมูล" ระบบจะแสดงข้อความแจ้งเตือน

3. คลิกไอคอนกระดิ่ง > คลิกข้อมูลแบบฟอร์มที่ต้องการดาวน์โหลด

*สามารถดาวน์โหลดข้อมูลภายในระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลที่ระบุไว้ตอนสร้างแบบฟอร์ม

**ช้อมูลการตอบสามารถแสดงข้อมูลว่าง ในกรณีที่ผู้ที่เคยตอบทำการบล็อคบัญชีทางการมากกว่า 7 วัน

***ข้อมูลการตอบจะไม่สามารถดาวน์โหลดได้หลังเลยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูล ทางเราแนะนำให้คุณดาวน์โหลดข้อมูลเก็บไว้ก่อน

ขั้นตอนการกำหนดสิทธิแอดมิน (Roles & Permission) บนเว็บไซต์ OA Plus

1. คลิกเมนู "Setting" > คลิก "Roles & Permissions"

2. คลิกข้อมูล OA PLUS ROLE ของผู้ใช้ที่ต้องกำหนดสิทธิแอดมิน

3. เลือกสิทธิที่ต้องการ

ระบบจะทำการบันทึกอัตโนมัติ

*สามารถกำหนดสิทธิได้เฉพาะผู้ที่มีสิทธิ Administrator เท่านั้น