หวายเก้าเส้น มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมายาวนานในวงการพระเครื่อง จากการเป็นผู้นำด้านเชือกร่มตอกหมุดทองคำ และหน้าร้านที่เปิดมานานกว่า 33 ปี ด้วยลักษณะการซื้อขายแบบดั้งเดิม ที่ลูกค้าเดินเข้ามาที่หน้าร้านโดยตรง ทำให้แบรนด์ยังไม่เห็นความสำคัญของตลาดออนไลน์ กระทั่งเจอวิกฤตโควิด โดนสั่งปิดร้านเป็นครั้งแรก
“ถ้าย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น LINE เป็นทางรอดของธุรกิจมาก ๆ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีหน้าร้านแบบเรา ไม่อย่างนั้นถ้าร้านปิดคือปิดเลย ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ แล้วเรายังเป็นธุรกิจที่เปิดได้ช้า เนื่องจากอยู่ในห้าง เพราะฉะนั้น LINE ไม่ได้แค่ช่วยเรื่องการขาย แต่ยังช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าของเราได้อยู่ สามารถทำการตลาดกับลูกค้า และสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง เมื่อก่อนคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่เข้าใจว่าจะทำออนไลน์ทำไม เราเติบโตอยู่แล้ว แต่เราก็อยากทำและตัดสินใจเริ่มต้นเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เราคิดว่า ณ วันที่สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม วันนั้นจะเป็นวันของเรา ซึ่งตลอดสองปีของสถานการณ์โควิดบอกเลยเราภูมิใจ แม้ร้านจะเปิดได้แล้วในตอนนี้ แต่บางวันออนไลน์ยังดีกว่าหน้าร้านด้วยซ้ำไป”
ถึงจะเริ่มทำการตลาดออนไลน์มาหลายปี และมีการยิงโฆษณาบนไลน์มาบ้าง รวมถึงมีการขายบน LINE OA ด้วย แต่ก็ยังไม่จริงจังมาก จนเจอกับสถานการณ์ที่ต้องปิดร้าน “คุณแพง” ดร.วรรณนัฐฐา ขนิษฐบุตร ผู้บริหารรุ่นที่สองของแบรนด์ จึงหันมาทุ่มเทกับการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเอง
“เริ่มทำออนไลน์จริงจังด้วยตัวเอง เพราะคิดว่าเรารู้จักลูกค้าของเรามากที่สุด โดยเลือกลงโฆษณาบน LINE สำหรับตัวเองที่ไม่เก่งไอทีนะคะ การใช้ไลน์ไม่ยากเลย และคิดว่าตอบโจทย์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไร หรือมีเป้าหมายทางธุรกิจอะไรก็ตาม ก็สามารถเลือกวัตถุประสงค์โฆษณาให้ตอบโจทย์ได้ เลือกแล้วก็กำหนด budget ว่าเท่าไหร่ สามารถตรวจสอบและเห็นผลลัพธ์ได้ อย่างในหน้าไลน์เราจะเห็นเลยว่ามีลูกค้ามากดไลก์ กดแชร์เท่าไหร่ ลูกค้าแอดเราจากไหน หรือกดดูปุ๊บก็เห็นเลยว่าแคมเปญนี้หรือหรือไม่ดี อย่างแคมเปญเพิ่มเพื่อนสำหรับแบรนด์เราดีมาก ใช้เงินแค่ 15 บาทก็สามารถเพิ่มเพื่อน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราได้ ซึ่งเราไม่ได้มีเพื่อนเยอะมากนะคะ ประมาณ 3,000-4,000 คน แต่ทั้งหมดเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพ เราเลยใช้ช่องทางนี้เป็นหลักในการสื่อสาร บอกถึงโปรโมชั่น บอกอีเวนท์ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก”
ปัจจุบันหวายเก้าเส้น ‘ยิงโฆษณาบนไลน์’ มากว่า 4 เดือนแล้ว คุณแพงพอใจกับผลตอบรับมาก เพราะแม้จะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีราคาสูง แต่ก็มียอดขายเข้ามาทุกวัน อย่างน้อยวันละหนึ่งเส้น ซึ่งเส้นหนึ่งราคาอย่างต่ำก็ 15,900 บาทแล้ว และนี่คือเทคนิคที่เธอได้ทดลองทำผ่านโครงการ BOOTCAMP Story
จากเทคนิคนี้ผลลัพธ์ที่ได้คือราคาต่อการเพิ่มเพื่อนหรือ CPF ต่ำสุด 8-15 บาท ส่วนวิดีโอที่ลงใน LINE VOOM ก็มีคนดูจำนวนมาก แล้วยังมีคนแคปรูปจากโฆษณามาสอบถามอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถปิดยอดขายได้อย่างน่าพอใจ
“ทุกวันนี้ไม่มีวันไหนที่คนจะไม่ทักผ่านไลน์ แม้ว่าวันนั้นเราจะไม่ได้บอร์ดแคสต์ก็ตาม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยอดขายที่ยั่งยืน ส่วนตัวคิดว่าเป็นแอปพลิเคชันที่เหมาะกับทุกธุรกิจ สำหรับธุรกิจเก่าหน้าร้านปิด 3 โมง 6 โมง คุณอยากจะให้ธุรกิจคุณหยุดตามเหรอ นี่คืออีกช่องทางที่คุณจะได้รายรับเพิ่มขึ้น และเติบโตอย่างไม่มีวันหยุด เพราะสามารถเปิดร้านได้โดยไม่มีเวลาเปิด-ปิด”
ลงโฆษณาบนไลน์ทำเองได้ที่ https://admanager.line.biz หรือปรึกษาเรื่องลงโฆษณาฟรีได้ที่ https://lin.ee/2loarpY/izkl