MyCustomer เส้นทางใหม่ของแบรนด์ที่จะนำหน้าคู่แข่งด้วย 1st Party Data

MyCustomer

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลายคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า Data is the New Oil กันอย่างหนาหู ซึ่งในวันนี้ธุรกิจทั่วโลกก็เข้าสู่การเป็น Data-Driven Marketing หรือ "การทำการตลาดด้วยการขับเคลื่อนข้อมูล" ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้แบรนด์ได้มีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตัวเองต่อไป และไม่เพียงแค่แบรนด์เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์จากข้อมูล เพราะผู้บริโภคเองก็คาดหวังว่าแบรนด์จะเข้าใจถึงความต้องการและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดกลับคืนมา จากข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขาแบ่งปันให้อย่างยินยอม แบรนด์จะต้องตอบสนองถูกที่ ถูกเวลา และเข้าใจว่าผู้บริโภคอยู่ตำแหน่งไหนในวงจรการซื้อหรือใช้บริการ


ดังนั้นวันนี้ 1st Party Data จึงเป็นหัวใจของการทำการตลาดดังกล่าว ส่วนหนึ่งมาจากประเด็นเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น นั่นทำให้แบรนด์จำเป็นต้องหาวิธีสื่อสารและขอทราบข้อมูลจากพวกโดยตรงแทนที่จะพึ่งพาบุคคลที่สาม (Third Party) นี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้ 1st Party Data เป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปีนี้ และเครื่องมือใหม่จาก LINE อย่าง MyCustomer นี่แหละที่ตอบโจทย์มากที่สุด!

1st Party Data หนทางไปต่อการตลาดแบบรู้ใจแห่งยุค

1st Party Data คือข้อมูลที่แบรนด์ออกแบบวิธีการขอและจัดเก็บมาด้วยตัวเองจากกลุ่มลูกค้าโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นผ่านเว็บไซต์ อีเมล แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย หรือ LINE Official Account (LINE OA) ที่สำคัญข้อมูลที่ได้มาก็เป็นการจัดเก็บโดยแจ้งให้ทราบ พร้อมกับได้รับความยินยอมจากผู้บริโภคด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์เห็นภาพของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจนว่าเป็นใคร มีพฤติกรรมอย่างไร ชอบอะไร นั่นแปลว่าข้อมูลชุดนี้น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพมากในการนำมาต่อยอด เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือ Retargeting กลับไปยังลูกค้ากลุ่มเดิม การเรียนรู้จาก Consumer insight จำเป็นต่อแบรนด์อย่างยิ่ง เนื่องจากจะช่วยให้แบรนด์เข้าหาผู้บริโภคได้อย่างฉลาดและแม่นยำ


จากรายงานใหม่ของ Merkle กล่าวว่า 88% ของนักการตลาดเห็นตรงกันว่าการรวบรวมและจัดเก็บ 1st Party Data ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้านี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญ และ 52% ของนักการตลาดก็มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ดิจิทัลที่จะทำให้พวกเขาสามารถรวบรวมข้อมูลให้ได้มากขึ้น (ที่มา Marketing Dive) ดังนั้น MyCustomer จึงเปรียบเสมือนอาวุธใหม่ที่จะเข้ามาช่วยแบรนด์ในการเก็บข้อมูล แล้ววางแผนการตลาดให้บรรลุเป้าต่อไป โซลูชั่นนี้จะทำให้รู้จักและเข้าใจลูกค้ามากขึ้น รวมถึงผลักดันให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้โดยการนำ 1st Party Data มาร่วมใช้กับ Data อื่นๆ

MyCustomer เครื่องมือใหม่ขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจ

MyCustomer เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการจัดการข้อมูลลูกค้าแบบใหม่ หรือ Customer Data Platform (CDP) เปรียบเสมือนขั้นกว่าของการเพิ่มศักยภาพในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ผ่าน LINE Official Account พร้อมทั้งยังสามารถนำเข้าข้อมูลจาก Source อื่นๆ เพื่อบริหารข้อมูลลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

MyCustomer จะประกอบไปด้วยสามส่วนหลัก ประกอบด้วย 

  • Build - การสร้างฐานข้อมูล ที่สามารถเก็บข้อมูลจาก Gain Friends Ad, Custom Survey, Mission Stickers และรวมถึงการนำเข้าข้อมูลมาทำการจัดเก็บในระบบ 
  • Analyze - การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การแยกกลุ่มเป้าหมายออกไป เมื่อมีการทำแคมเปญการตลาดในอนาคต แบรนด์ก็จะสามารถสื่อสารได้ตรงกลุ่มยิ่งขึ้น อาทิ แบรนด์สามารถจัดทำ Audience Segmentation ได้จากการสร้าง Audience Tags ผ่านข้อมูลที่ได้จากส่วนแรก รวมถึงกลุ่ม Audience จากการ Chat และ Keywords Auto Response 
  • Engage - การนำเสนอคอนเทนต์ที่มาจากการ Personalized ตามความสนใจของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ Rich Menu ให้แต่ละกลุ่มเป้าหมายมองเห็นแตกต่างกัน หรือแม้แต่การบรอดแคสต์ข้อความแบบ Personalized Message ไม่ว่าจะเป็นการนำชื่อ Display และรูป Profile Photo ของผู้ใช้งานแต่ละคนขึ้นมาเพื่อส่งข้อความเฉพาะบุคคลนั้นๆ ได้ โดยนำ Flex Message มาใช้เพื่อให้รูปแบบของข้อความสวยงามมากยิ่งขึ้น และสามารถส่งข้อความ Personalised Message นี้ได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น ซึ่งในเร็วๆ นี้จะสามารถส่ง Unique Promo Code เฉพาะคนได้อีกด้วย สามารถเอาไปใช้กับทำโปรโมชันได้หลากหลายรูปแบบ แล้วเมื่อมีการสร้างแคมเปญปล่อยออกไป แบรนด์ก็สามารถตรวจสอบสถิติหลังบ้านได้อย่างละเอียด เพื่อนำไปพัฒนาต่อๆ ไปในแคมเปญอื่นๆ

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ MyCustomer เป็นเครื่องมือทรงพลังที่สุดในเวลานี้ เพราะสามารถทำได้ตั้งแต่สร้างข้อมูลไปจนถึงการสื่อสาร นอกจากนี้ LINE ยังเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนคุยกับเพื่อน แบรนด์เองก็สามารถคุยกับผู้บริโภคได้โดยตรงเช่นกัน

ฟีเจอร์ครบ ใช้งานง่าย วางกลยุทธ์ได้แม่นยำ

MyCustomer จะประกอบไปด้วยหลากหลายฟีเจอร์ ซึ่งง่ายต่อการจัดการ จัดเก็บ วิเคราะห์ และนำเสนอสิ่งที่น่าสนใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งสำหรับ phase แรกที่ปล่อยตัวออกมาจะมีฟีเจอร์หลักๆ ให้ได้ใช้กัน ดังนี้

ตัวอย่างการบรอดแคสต์ข้อความแบบ Personalised Message ผ่าน MyCustomer 

  • Broadcast - ส่งข้อความหาผู้ติดตาม ได้ทั้ง Text, Photo, Video, Tappable Message และ Personalize message
  • Chats - พูดคุยกันระหว่างแบรนด์และผู้ติดตามได้แบบ 1:1 และสามารถติด Tags ได้ว่าผู้ติดตามอยู่ในกลุ่มเป้าหมายไหน
  • Audience - สร้าง Tags เพื่อใช้กำหนดกลุ่มผู้ติดตาม และสามารถนำเข้าฐานผู้ติดตามจากข้อมูลที่มีอยู่ได้
  • Rich Menu - แถบรูปภาพที่สามารถปรับแต่งได้ เป็นการสร้าง Interact ระหว่างบอทกับผู้ติดตามได้ตามความต้องการของแบรนด์
  • Automation - สร้างข้อความเพื่อตอบกลับอัตโนมัติ
  • Survey - สร้างแบบสอบถามเพื่อนำมาพัฒนาธุรกิจ ซึ่งการตอบแบบสอบถามจะมีการแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดการเก็บข้อมูลทุกครั้ง รวมถึงระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลด้วย หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกลบโดยอัตโนมัติ เพื่อให้สอดคล้องไปกับ Personal Data Protection Act (PDPA)

นี่คือการทำให้เห็นว่า LINE จะไม่ได้เป็นแค่ช่องทางบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็น Customer Data Platform ให้กับแบรนด์อีกด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่า LINE ถือเป็นแอปพลิเคชันที่คนไทยรู้สึกผูกพันมากที่สุดที่มียอดผู้ใช้งานมากกว่า 47 ล้านคน และไม่ต่างอะไรจาก Life Journey ที่คนอยู่ด้วย 24/7 ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ดังนั้น เครื่องมืออย่าง MyCustomer นี่แหละที่จะช่วยให้แบรนด์เข้าใจ และรับรู้ความต้องการของผู้บริโภคได้จริงๆ

ข้อมูลยิ่งแน่น ยิ่งเสริมแกร่งท่ามกลางวิกฤต

ยิ่งแบรนด์มีความเข้าใจเกี่ยวกับผู้บริโภคมากเท่าไร ก็ยิ่งสร้างความแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเผชิญหน้าอยู่กับสถานการณ์ไหน แบรนด์ก็จะปรับตัวเข้าหาลูกค้าได้อย่างเหมาะสม อย่าลืมว่าความต้องการและความชอบของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ฉะนั้นหากแบรนด์ไม่ทำความรู้จักกับพวกเขาเลยก็คงไม่มีทางตามความต้องการของพวกเขาทันอย่างแน่นอน แต่หากแบรนด์มีการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบแบบที่ MyCustomer ให้ได้ การสร้างยอดขายให้เติบโตและบริการที่ประทับใจแก่ลูกค้าก็จะไม่ยากอีกต่อไป และนี่คือตัวอย่างที่แบรนด์จะสามารถทำได้เมื่อมีข้อมูลอยู่ในมือ

  • นำข้อมูลมาออกแบบคอนเทนต์และโปรโมชันเพื่อการขาย
  • นำข้อมูลมาแบ่งและกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อทำการโฆษณา รวมถึงการ Retargeting
  • ใช้ออกแบบประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization) ตามความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย
  • ใช้สำหรับทำความเข้าใจขั้นตอนการเดินทางก่อนตัดสินใจซื้อของลูกค้า (Customer Journey)

แน่นอนว่าแบรนด์ใดที่เก็บข้อมูล 1st Party Data ได้ก่อนก็ย่อมได้เปรียบ เพราะจากนี้ไปผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนตัวยิ่งๆ ขึ้น แต่หากเขาเห็นว่าการแบ่งปันข้อมูลจะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้น เขาก็พร้อมจะแชร์ข้อมูลบางอย่างตามความจำเป็น และต้องเป็นช่องทางที่เขาสามารถเชื่อถือได้ด้วย คำถามสำคัญของแบรนด์คือตอนนี้ข้อมูลที่คุณมีเป็น 1st Party Data แล้วหรือยัง? ถ้ายัง MyCustomer คือคำตอบของคุณในนาทีนี้!



รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MyCustomer คลิกเลย